นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยถึงการเปิดโครงการนำร่อง “เผยแพร่องค์ความรู้เพื่อพัฒนาความปลอดภัยทางถนนสำหรับชุมชน” โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด – กรมทางหลวงชนบท – สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย และศูนย์อุบัติเหตุและวิกฤตบำบัด โรงพยาบาลขอนแก่น เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจด้านความปลอดภัยบนท้องถนนทั้งทางด้านวิชาการ และการปฏิบัติ เพื่อร่วมหามาตรการ และแนวทางป้องกันอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนผ่านการมีส่วนร่วมจากชุมชน อันนำไปสู่การพัฒนาชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืนร่วมกัน โดยมีพิธีเปิดโครงการเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ศกนี้ ณ หมู่บ้านโกทา หมู่ 9 และหมู่ 25 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น
โครงการนำร่อง “เผยแพร่องค์ความรู้เพื่อพัฒนาความปลอดภัยทางถนนสำหรับชุมชน” เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้โครงการ “ถนนสีขาว” มีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกจิตสำนึก สร้างความรู้ ความเข้าใจ และเสริมสร้างพฤติกรรมในการใช้รถใช้ถนนอย่างถูกต้องปลอดภัย โดยสอดรับกับวิถีชีวิตของชุมชน และเปิดโอกาสให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมเป็นเครือข่าย และอาสาพัฒนาชุมชนด้วยการแจ้งข่าวสารการดูแลบำรุงรักษาเส้นทางในท้องถิ่นให้เกิดความปลอดภัย ตลอดจนเสริมสร้างการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยระหว่างชุมชน หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนในแต่ละท้องถิ่นร่วมกัน โดยมีสมาชิก ชุมชนหมู่บ้านโกทาหมู่ 9 และ หมู่ 25 อาสาสมัครทางหลวงชนบท (อสทช.) อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และ เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโกทา เข้าร่วมอบรมรวมจำนวนทั้งสิ้น 200 คน
นอกจากการจัดอบรมการถ่ายทอดความรู้ดังกล่าวแล้ว บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ยังได้ร่วมมือกับผู้แทนจำหน่ายในจังหวัดขอนแก่น ได้แก่ บริษัท โตโยต้าขอนแก่น ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด บริษัท โตโยต้าแก่นนคร จำกัด และ บริษัท โตโยต้า อมตะ จำกัด จัดบริการตรวจสภาพรถฟรี 20 รายการแก่ ชุมชนหมู่บ้านโกทา และร่วมมือกับ สำนักงานขนส่ง จ.ขอนแก่น เพื่อให้ความรู้ด้านการขับขี่อย่างปลอดภัย กฎจราจร และการบังคับใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่มาดำเนินการทดสอบการขับขี่รถจักรยานยนต์ภาคปฏิบัติสำหรับผู้ที่ยังไม่มีใบขับขี่รถจักรยานยนต์อีกด้วย
หัวข้อองค์ความรู้เพื่อพัฒนาความปลอดภัยทางถนนสำหรับชุมชนประกอบด้วยเนื้อหา 3 ส่วน ได้แก่ คน ถนน และรถ
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เริ่มดำเนินโครงการ ถนนสีขาว เมื่อปี พ.ศ.2531 และได้ดำเนินงานต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี เพื่อส่งเสริมสังคมในการปลูกจิตสำนึก ให้ความรู้เกี่ยวกับกฎ และวินัยจราจร โดยสร้างความตระหนักให้กับผู้ใช้รถ ใช้ถนน ในการมีจิตสำนึก และมีน้ำใจในการใช้รถ ใช้ถนนร่วมกัน นับเป็นความพยายามเพื่อช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน โครงการได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้โครงการที่ โตโยต้า ได้ร่วมมือกับ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย ที่ผ่านมามีดังต่อไปนี้
โครงการสนับสนุนทุนวิจัยตรวจสอบความปลอดภัยทางถนนเพื่อพัฒนาความปลอดภัย (Road Safety Audit) โดยให้การสนับสนุนทุนวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่
1) ถนนวิภาวดีรังสิต (เส้นสนามบินดอนเมือง) เริ่มจากเขตดินแดง ถึงอนุสาวรีย์อนุสรณ์สถาน รวมระยะทางตรวจสอบ 22 กิโลเมตร
2) ทางหลวงแผ่นดิน 4 เส้นทางเข้าออกระหว่างเมือง ได้แก่ พหลโยธิน-.มิตรภาพ-สุขุมวิท และเพชรเกษม รวมทั้งสิ้น 41 จุด แบ่งออกเป็นเขตพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 7 จุด จ.สระบุรี ถึง นครราชสีมา จำนวน 6 จุด จ.สมุทรปราการ จำนวน12 จุด และ จ.นครปฐมจำนวน 16 จุด
โครงการสนับสนุนทุนวิจัยบน ถ.เพชรเกษม ระหว่าง กม. 32-33 จ.พัทลุง
จุดเสี่ยงอันตรายที่เกิดอุบัติเหตุ และเสียชีวิตจากการใช้รถ ใช้ถนน บ่อยครั้ง โดยให้การสนับสนุนทุนแก่แขวงการทาง จ.พัทลุง เพื่อปรับปรุงถนนบริเวณดังกล่าว โดยการจัดทำกำแผงคอนกรีต (Concrete Barrier) และป้ายเตือนจุดเสี่ยงอุบัติเหตุจำนวน 4 ป้าย โดยได้ทำพิธีมอบเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ให้แก่ชุมชนในเขตพื้นที่ดังกล่าว เมื่อก่อนเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2550 ที่ผ่านมา
สนับสนุนการปฏิบัติงานในโครงการถ่ายทอดความรู้ด้านความปลอดภัยสู่ชุมชนและโครงการตรวจสอบความปลอดภัยทางถนนศึกษาวิจัยอุบัติเหตุในเชิงลึก
โดยมอบรถ อินโนวา 2 คัน เพื่อใช้เป็นยานพาหนะในการดำเนินโครงการระหว่าง กันยายน 2551
ถึง ธันวาคม 2552
นายวุฒิกร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวเพิ่มเติมว่า “โตโยต้า พร้อมให้ความร่วมมือและให้การสนับสนุนหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ในการร่วมหาแนวทาง และมาตรการป้องกันเพื่อลดอุบัติเหตุโดยการปลูกฝังจิตสำนึก และให้ความรู้ด้านกฎจราจรที่ถูกต้อง โดยเริ่มตั้งแต่ระดับเด็กและเยาวชน สถาบันครอบครัว ชุมชน และขยายขอบเขตสู่สังคมไทย ผ่านกิจกรรมภายใต้โครงการถนนสีขาว ซึ่งนับเป็นหนึ่งในความพยายามที่เรามุ่งมั่นตอบแทนสังคมไทย เพื่อให้มีความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน”
# # # # #