โตเกียว มอเตอร์ โชว์ (2) โดย ลุงอ็อด


ยังไม่จบกับรายการรถที่เตรียมโชว์ในงาน โตเกียว มอเตอร์ โชว์ ที่จะเปิดรอบสื่อมวลชนกัน วันที่ 20-21 นี้แล้ว

ต่อด้วย เมอร์เซเดส เบนซ์ หลังจากห่างหายไปถึง 8 ปี กลับมาอีกหนกับรถแรง เอเอ็มจี สองรุ่น ที่พร้อมขึ้นสายพานการผลิต
ตัวแรกเป็น เอส65 ซีดานช่วงยาว เครื่องยนต์ วี 12 ไบเทอร์โบ และอีกคัน เบนซ์เรียกตัวเองว่า รถรุ่นพิเศษ ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ “super sports car” ที่พัฒนาโดย เอเอ็มจี


ค่ายมิตซูบิชิ เปิดรถต้นแบบสามรุ่น คันแรกต้นแบบ จีซี-พีเฮชอีวี GC-PHEV เอสยูวีขับหลัง เครื่องยนต์ วี 6 3.0 ลิตร ซูเปอร์ชาร์จ ไมเว็ค MIVEC พร้อมเกียร์ออโต้ 8 สปีด จีซี หมายความถึง Grand Cruiser วางตำแหน่งให้เป็นผู้สืบทอดของ ปาเจโร่ เอสยูวี หรือ มอนเตโร ในอเมริกา

ต้นแบบคันที่สอง เอ็กซ์อาร์-พีเฮชอีวี XR-PHEV ครอสโอเวอร์ในอนาคต สปอร์ตคูเป้ พร้อมระบบไฮบริด น้ำหนักเบา เครื่องยนต์ 1.1 ลิตร ไดเร็คอินเจ็คชั่นเทอร์โบ ไมเว็ค

คันที่สาม ในชื่อ เออาร์ AR สำหรับเอสยูวี ในร่างรถแวน เครื่องยนต์ไดเร็คอินเจ็คชั่นเทอร์โบ 1.1 ลิตร พร้อมระบบไมโครไฮบริด แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดเล็ก พร้อมระบบสต็อพ-สตาร์ท


ค่ายนิสสัน มาด้วยรถต้นแบบสี่ล้อ ที่ได้แรงบันดาลใจจากรถแข่ง เดลต้าวิง ในรายการเลอมังส์ ในชื่อ เบลดไกลเดอร์ BladeGlider ตัวถังทำจาก คาร์บอน ไฟเบอร์ ด้านหน้าล้อคู่ เกือบติดกัน หลังสองล้อขนาดกว้างปกติ พร้อมห้องโดยสารกว้างขวาง ผู้ขับขี่ที่นั่งเดี่ยว ด้านหลังสองที่นั่ง

ใช้กำลังจากแบตเตอรี่ลิเธียม ไอออน วางบนโครงพื้นรถ ขับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ล้อ พร้อมพัดลมขนาดใหญ่ด้านหลัง ช่วยระบายความร้อน ที่นิสสัน คาดหมายว่าจะนำมาใช้ในรถที่ออกขายจริงในอนาคต


และยังมี นิสสัน ลีฟ แอร์โร สไตล์ ที่เพิ่มชุดสปอยเลอร์ ไฟเดินทางกลางวัน แอลอีดี, รถมินิแวนขนาดใหญ่ แอลแกรนด์ Elgrand หรือจำหน่ายในตลาดญี่ปุ่น ในชื่อ เควสท์ Quest ที่กระจังหน้าขนาดใหญ่ ยืดลงมาเกือบจรดกันชนหน้า


ต่อด้วยค่ายดาวลูกไก่ ซูบารุ นำเสนอต้นแบบสปอร์ตทัวเรอร์ สไตล์แวกอน ที่เผยแพร่แค่รูปลายเส้นภายนอก ดำสนิท ในชื่อ เลอเวอร์ก Levorg ที่จะขายในประเทศญี่ปุ่น ด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ พัฒนาใหม่ ไดเร็คอินเจ็คชั่น เทอร์โบ 1.6 ลิตร และน่าจะมีสคู๊ปบนฝากระโปรง เพื่อถ่ายเทอากาศ


และยังมีรถครอสสปอร์ตดีไซน์ ต้นแบบ ที่จะเป็นแนวทางสำหรับ ซูบารุ สำหรับรถที่จะออกจำหน่ายในอนาคต ในแนวทาง ขับสนุก นั่งสบาย


ค่ายซูซูกิ นำเสนอรถต้นแบบสามรุ่น เริ่มจาก ครอสไฮเกอร์ Crosshiker ครอสโอเวอร์ คันสีแดงแปลกตา เครื่องยนต์สามสูบ 1.0 ลิตร น้ำหนักตัวเพียง 810 กก.

ตามมาด้วย เอ็กซ์-แลนเดอร์ สีเงินเปิดประทุน ใช้พื้นฐานจากรุ่น จิมนี่ เครื่องยนต์ 1.3 ลิตร พร้อมระบบไฮบริดน้ำหนักเบา ขับเคลื่อนสี่ล้อ เปิดหลังคาแต่เพิ่มโครงโรลบาร์ด้านหลัง และโครงรับกระจกบังลมหน้า พร้อมประตูทรงแปลกตา เจาะช่องตรงกลาง

คันที่สามเป็นต้นแบบ ฮัสท์เลอร์ Hustler ออกแบบให้เป็นมินิคาร์ครอสโอเวอร์ที่ทันสมัย สีแดง-ดำ ทรงกล่อง หลังคาลาดลงด้านหลัง สำหรับผู้รักในธรรมชาติ ชีวิตกลางแจ้ง และการกีฬา พาดตัวอักษร Green Feel ด้านข้าง


ตามมาด้วยค่ายยักษ์ใหญ่ โตโยต้า มาด้วยต้นแบบ อะควา จี สปอร์ต Aqua G Sports สำหรับตลาดญี่ปุ่น แต่ขายในนาม พริอุส ซี Prius C สำหรับตลาดอเมริกาเหนือ พร้อมแต่งโดยสำนักแต่งกาซู เรซซิ่ง

และยังมีรถพลังฟูอัลเซลส์ Fuel Cell หรือ เอฟซีวี FCV พลังไฮโดรเจน ที่ โตโยต้าวางแผนที่จะวางตลาดในปี 2558 สามารถเดินทางด้วยเชื้อเพลิงเต็มถังได้ระยะทางอย่างน้อย 500 กม. ต่อการเติมเชื้อเพลิงหนึ่งครั้ง ซึ่งใช้เวลาเติมเพียง 3 นาที

อีกคันหนึ่งเป็น Fun Vehicle 2 FV2 ยานพาหนะเพื่อการเคลื่อนที่ แทนที่จะใช้พวงมาลัยควบคุม ผู้ขับขี่เพียงโยกตัวไปข้างหน้า เพื่อบังคับให้เดินหน้า ถอยหลัง ไปทางซ้ายหรือขวา ตามการขยับตัว เจ้า เอฟวี2 นี้ ยังตัดสินจากเสียง และภาพที่บันทึกไว้ เพื่่อช่วยในการตัดสินใจของผู้ขับขี่ ที่จะแนะนำเส้นทางที่เคยผ่านไปยังจุดหมาย เพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่อีกด้วย


อีกคันหนึ่ง เป็นต้นแบบแท็กซี่สำหรับประเทศญี่ปุ่น เจพีเอ็น แท็กซี่ JPN Taxi ที่พัฒนาสำหรับชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะ เพื่อหวังจะมาทดแทน โตโยต้า คราวน์ รุ่นดั้งเดิมในอดีตตั้งแต่ปี 2538 ทรงสองกล่อง แวกอน พร้อมประตูเลื่อนด้านหลัง


ค่ายสุดท้าย โฟล์คสวาเก้น เปิดตัวรถต้นแบบมินิ ไฮบริด ดีเซล ไฟฟ้า สี่ที่นั่ง ในรถรุ่น อัพ Up ใช้ชื่อรุ่นว่า ทวิน-อัพ Twin-Up โดยใช้ระบบจากรุ่น เอ็กซ์แอล 1 XL1 ที่เปิดตัวไปที่เจนีวาแล้ว ในภาพเป็นภาพแสดงโครงสร้างของระบบภายใน
เครื่องยนต์ดีเซล 2 สูบ และมอเตอร์ไฟฟ้า พร้อมเกียร์คลัทช์คู่ 7 สปีด สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพียง 1.1 ลิตร/ 100 กม. ที่โฟล์คเองก็ยังไม่ตัดสินใจขึ้นสายการผลิต
ชุดของแบตเตอรี่ลิเธียม ไอออน ติดตั้งไว้ใต้ที่นั่งหลัง ล้ำเข้าไปในห้องเก็บสัมภาระ ตัวรถน้ำหนักเพียง 1,205 กก. และปล่อยค่าไอเสียเพียง 27 กรัม/กม. สามารถเดินทางด้วยไฟฟ้าอย่างเดียว ได้ไกลถึง 50 กม.

Facebook Comments