ยังมีต่ออีกเล็กน้อย เพราะงานหนนี้ มีผู้เข้าร่วมกันคับคั่ง ค่อยๆ ไล่ กันไปทีละยี่ห้อ จะได้ไม่มีอาการงอแงซึ่งกันและกันนะฮะ เปิดหนนี้ด้วยรถต้นแบบจาก นิสสัน ในชื่อ เทโทร ฟอร์ เดย์ Teatro for Dayz รถไฟฟ้าที่เปิดประตูแบบปีกนก ที่นั่งและพวงมาลัยทำจาก แอลอีดี ขณะที่กันด้านหลังจะแสดงผลงานล่าสุดว่าเจ้าของรถคันนี้ ซ่าขนาดไหน
และเพื่อไม่ให้ตกยุค รถต้นแบบไฟฟ้าคันนี้ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนด้วยตัวเอง เพื่อคนยุคใหม่ ที่ต้องการการเชื่อมต่อโทรศัพท์สมาร์ทโฟน เข้ากับระบบภายในรถ ที่นิสสัน บอกว่า เป็น ต้นแบบที่พัฒนาเพื่อเป็นสัญญาณสำหรับการทำงานในยุคที่ผู้คนต้องมีสมาร์ทโฟน ติดตัว
ท่านประธาน คาร์ลอส โกสท์ มาเปิดงานด้วยตัวเอง บอกว่า เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม เพราะวัยรุ่นญี่ปุ่นยุคใหม่ คุ้นเคยกับรถขนาดเล็กของญี่ปุ่น ไค คาร์ KEI Car ที่ทำให้พวกเขาได้ใบขับขี่มา และภายในโลกส่วนตัวก็มีแต่อินเตอร์เน็ต อีเมล์ หรือโซเชียล มีเดีย เท่านั้น และพร้อมที่จะเชื่อมต่อและแชร์ประสบการณ์ได้อย่างสนุกสนาน ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะแวะไปแหล่งวัยรุ่น ฮาราจูกุ ด้วยเช่นกัน
ตามมาด้วยรถหรู เล็กซัส นำเสนอ แอลเอส รถรุ่นที่เก่าที่สุดในตลาด และก็มีวิธีนำเสนอแตกต่างออกไป ใช้ชื่อรุ่นว่า แอลเอฟ-เอฟซี LF-FC บ่งบอกแนวทางของ แอลเอส ในอนาคต ที่ยังคงใช้แนวทางการออกแบบทรงตัว แอล ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ แม้ว่าจะดูค่อนข้างเก่าไปหน่อยก็ตาม
เล็กซัส เลือกใช้ไฮดรอเจน เป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถคันนี้ พร้อมทั้งพัฒนาชิ้นส่วนโครงสร้าง เพื่อการลดนำ้หนักอย่างไม่เกรงใจใคร เครื่องยนต์ขับหลัง แต่ส่งกำลังมายังมอเตอร์ที่ล้อคู่หน้า ลักษณะเดียวกับรถขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา กะทะขนาด 21 นิ้ว ทำจากคาร์บอน ไฟเบอร์ กับ อลูมิเนียม เพื่อลดนำ้หนักให้มากที่สุด และเป็นปกติของ เล็กซัส ที่จะต้องติดตั้งระบบอีเล็คทรอนิค ที่ช่วยในการเดินทาง โดยตรวจสภาพการจราจร และแม้แต่ระบบขับเคลื่อนด้วยตัวเอง
ภายใน แยกเบาะนั่งเป็นบัคเก็ต 4 ที่นั่ง ตกแต่งด้วยส่งขาวและนำ้ตาล เรียกว่าเหมือนกับเข้าไปนั่งอยู่ในห้องโดยสารภายในเครื่องบินทีเดียว มีระบบโฮโลกราฟฟิค ที่จะแสดงภาพวัสดุลอยขึ้นมา เพื่อแสดงให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารเห็นว่า จะต้องวางมือไว้ที่จุดใด เพื่อปรับแต่งเครื่องเสียง และระบบระบายอากาศ โดยไม่ต้องแตะต้องอะไรทั้งสิ้น
ต่อมาด้วยค่าย ซูซูกิ ที่เลิกราจากการทำรถขับเคลื่อนสี่ล้อในตลาดอเมริกาเหนือไปแล้ว นำเสนอรถมินิคาร์ สีเหลือง หน้าตาแปลกไปเพราะไฟส่องสว่างหน้า พร้อมหลังคาผ้าใบเปิดด้านบน ส่วนบรรทุกสัมภาระด้านหลัง ก็เปิดกว้าง และสำหรับตนแบบคันนี้ ซูซูกิ นำระบบ แอร์ ไทรเซอร์ Air Triser ที่จะสามารถเพิ่มที่นั่งภายในรถให้เป็น 3 แถวได้ แม้ว่าจะไม่มีเสากลางก็ตาม
เครื่องยนต์วางหน้า ภายในเป็นเบาะบัคเก็ต 4 ที่นั่ง แม้ว่าจะเป็นรถขนาดเล็ก ที่คนญี่ปุ่นสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย แต่ก็น่ากังวลสำหรับตลาดที่ผู้คนมีรูปร่างใหญ่กว่าคนญี่ปุ่น ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร แต่ขณะเริ่มต้นนี้ ซูซูกิ บอกแล้ว ว่าจะจำหน่ายสำหรับตลาดญี่ปุ่นเท่านั้น