โตเกียว มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 44 (2)


ค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็เป็นอีกค่ายหนึ่ง ที่ไม่พลาดตลาดตะวันออก นำเสนอรถต้นแบบ เบนซ์ วิชั่น โตเกียว Mercedes-Benz Vision Tokyo ที่มีแนวคิดมาจากการดำรงชีวิตของผู้คนในอนาคต ที่ไม่เพียงขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัย และขับไปจนถึงจุดหมายปลายทางเท่านั้น แต่เชื่อว่าคนรุ่นใหม่ จะมีอุปกรณ์บรรดาดิจิตัล ทั้งหลาย ติดตัว และพร้อมที่จะเชื่อมต่อกับระบบภายในตัวรถเท่าที่มี และการจะคิดให้บรรดาผู้นิยมเทคโนโลยีทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร วิศวกรก็ต้องมีแนวคิดใหม่ ว่ารถมินิแวนควรจะเป็นอย่างไร หากต้องมีระบบการขับเคลื่อนด้วยตนเอง เลยออกมาเป็นรถต้นแบบ วิชั่น โตเกียว คันนี้

ด้วยเส้นสายรอบรถที่โค้งมน ให้ไอเดียในการออกแบบรถได้หลากหลาย รถคันสีเงินนี่มีกระจกแทบจะรอบคัน ส่วนไหนไม่เป็นกระจกก็ทาสีเงินหนักหน่อย เรียกว่าเป็นสีเงินทั้งคัน กระจังหน้ารถก็สามารถสะท้อนแสง และแม้แต่จะระบุจังหวะของเสียงเพลงที่เล่นอยู่ในรถ ก็ทำได้ พร้อมไป แอลอีดี รอบคัน
เบนซ์ คันนี้ รับผู้โดยสารได้ 5 คน แม้ว่าภายนอกจะดูเล็ก แต่เมื่อเปิดผ่านประตูปีกนกเข้าไปภายใน ที่นั่งสำหรับผู้ขับขี่จะเป็นที่ที่สบายที่สุด สามารถใช้งานจอแอลอีดี บนตัวรถได้ ด้วยวิธีการสัมผัสแบบเดียวกับในหนังวิทยาศาสตร์ปัจจบัน พร้อมระบบให้ความบันเทิงอยู่ตรงกลาง และหากต้องมีใครทำหน้าที่เป็นผู้ขับขี่แล้ว เบาะนั่งก็จะเปลี่ยนจากแบบรถโค้ช พร้อมส่งพวงมาลัยออกมาอยู่ในตำหน่งบังคับควบคุม

เครื่องยนต์มีทั้งฟูอัลเซลส์ ไฮดรอเจน และแบตเตอรี่ เมื่อรวมทั้งระบบเข้าด้วยกัน จะสามารถเดินทางได้เกินกว่า 1,000 กม. โดยใช้ไฟฟ้าอย่างเดียว วิ่งได้ 189 กม. และจากไฮดรอเจน 790 กม. เรียกว่าจัดปาร์ตี้กันไปในรถได้อย่างสบาย

คันถัดมาอาจจะเห็นเป็นรถสามล้อ หรือสกู๊ตเตอร์ปกติ ในช่อของ ฮอนด้า แวนเดอร์ วอล์คเกอร์ Honda Wander Walker ที่เป็นรถสกู๊ตเตอร์ 4 ล้อ ที่เหมือนกับเอาไว้ให้ผู้สูงอายุใช้งาน แต่จากการพัฒนา ทำให้รถคันนี้สามารถหมุนล้อหน้าได้เกือบ 90 องศา ทำให้รัศมีวงเลี้ยวของ แวนเดอร์ วอล์คเกอร์ คันนี้กว้างกว่า 1 เมตร นิดหน่อย และที่น่าสนใจ คือ ขนาดของตัวรถ เมื่อเปรียบเทียบกับขนาดของหุ่นยนต์ อะซิโม่ ที่เรารู้จัก โดยรวม สกู๊ตเตอร์ คันนี้มีความกว้างเพียง 21.25 นิ้ว เท่านั้น ซึ่งสามารถใช้เดินทางในระบบรางของกรุงโตเกียวได้ทันที คือสามารถนำขึ้นรถไฟเพื่อการเดินทางได้อย่างสบาย แม้ว่าจะยังไม่แน่ชัดว่าสกู๊ตเตอร์ คันนี้ใช้อะไรเป็นแรงขับ แต่แน่นอนว่าต้องเป็นไฟฟ้า ความเร็วสูงสุดจะอยู่ที่ 5 กม./ชม. จากข้อมูลของวิกิพีเดีย ระบุเอาไว้ว่า อัตราการเดินของมนุษย์ปกติจะอยู่ที่ 4.8 กม./ชม. ทำให้สกู๊ตเตอร์คันนี้วิ่งได้เร็วกว่าคนเดินหน่อยนึง

และยังมี แวนเดอร์ สแตนด์ สำหรับผู้โดยสาร 2 ที่นั่ง ในกล่องขนาดมิติ สูง 72.8 นิ้ว, กว้าง 49.2 นิ้ว และยาว 78.4 นิ้ว โดยรถคันนี้จะแสดงข้อมูลขึ้นมาบนหน้าจอเหนือแผงหน้าปัด โดยมีระบบ ฮอนด้า ออมนิ แทรคชั่น ไดร๊ฟ ซีสเต็ม Honda Omni Traction Drive System เพื่อการเคลื่อนที่ไปด้านหน้าหรือหลัง นี่พัฒนาขึ้นสำหรับประชากรในโตเกียว ซึ่งเป็นสถานที่ค่อนข้างคับแคบโดยเฉพาะ

อีกคันหนึ่งสำหรับวันนี้ ยังคงอยู่ในค่าย ฮอนด้า ที่เล็งวิถีชีวิตการใช้รถยนต์ของคนกรุง ไม่ว่าจะในประเทศไหนอยู่ ว่าบางคนก็ชอบ มินิแวน บางคนก็ชอบรถไฮบริด เลยนำเสนอ ไฮบริด มินิแวน ระดับหรู โอดิสซี่ย์ Odyssey รถมินิแวนขนาดกลางที่ได้รับความนิยมอยู่ ด้วยระบบดูอัล มอเตอร์ สปอร์ต ไฮบริด ไอ-เอ็มเอ็มดี dual-motor Sport Hybrid i-MMD พัฒนาใหม่ ด้วยความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถทำความเร็วได้ตามต้องการ

ฮอนด้า พัฒนาระบบ ไอพียู IPU Intelligent Power Unit เพื่อประสานการทำงานของแบตเตอรี่ และการควบคุมระบบไฟฟ้า

ฮอนด้า ไม่ได้ให้รายละเอียดทางเทคนิคมากเท่าใด แต่ว่ากันว่า โอดิสซีย์ คันนี้ ประหยัดเชื้อเพลิงลงได้มากกว่าครึ่ง แต่ตลาดของ โอดิสซีย์ มีอยู่ในหลายประเทศ เลยยังไม่ได้ระบุรายละเอียดเอาไว้

Facebook Comments
ลุงอ๊อด

Recent Posts