กลายเป็นของสะสมหายากขึ้นมาในทันที เมื่อรถยนต์ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชั่น ไฟนัล เอดิชั่น Mitsubishi Lancer Evolution Final Edition รุ่นปี 2558 ซึ่งถือเป็นรุ่นสุดท้าย ที่ขึ้นสายการผลิตโดยโรงงานของมิตซูบิชิ จำนวน 1,600 คันสุดท้าย โดย บรู๊คลิน มิตซูบิชิ เข้าร่วมประมูล เพื่อหาทุนสมทบ เนชั่นแนล เอ็มเอส โซเซียตี้ National MS Society ได้มาด้วยราคา 46,200 เหรียญสหรัฐ ราว 1,386,000 บาท
อีโวลูชั่น รุ่นสุดท้าย เป็นพื้นฐานของ แลนเซอร์ อีโวลูชั่น จีเอสอาร์ พร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร พร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีด รุ่นปกติให้กำลัง 291 แรงม้า แรงบิด 300 ฟุตปอนด์ แต่รุ่นสุดท้าย บู๊สท์ขึ้นมา ได้ 303 แรงม้า แรงบิด 305 ฟุตปอนด์ พร้อมช้อคอัพ บิลสไตน์ Bilstein, สปริง ไอบัค Eibach, จานเบรกหน้า เบรมโบ Brembo กะทะล้อสีดำ เอ็นไก Enkei หลังคาสีดำ ภายในเบาะสีดำเดินเส้นแดง พร้อมป้ายจำนวนคัน ที่คอนโซลหน้า
ราคาขายของ แลนเซอร์ อีโวลูชั่น จีเอสอาร์ รุ่นปี 2558 ตั้งไว้ที่ 35,305 เหรียญ ราว 1,059,150 บาท และรุ่นสุดท้ายตั้งราคาไว้ที่ 38,805 เหรียญ ราว1,164,150 บาท ที่มาพร้อมระบบ ออลวีล คอนโทรล และ ออลวีลไดร๊ฟ
อย่างไรก็ดี มิตซูบิชิ ยังไม่ยกเลิกชื่อของ อีโว แม้ว่าตั้งแต่เริ่มต้น ชื่อของ อีโวลูชั่น ตั้งแต่รุ่น 1-10 จะเกิดขึ้นจากรถเพื่อการแข่งขันแรลลี่ แค่มิตซูบิชิ ยังจะใช้ชื่อรุ่น อีโว ซึ่งอาจเป็นสำหรับรถ เอสยูวี ไฮบริด-ไฟฟ้า
แต่เมื่อรถจำนวน 1,600 คัน หมดลงจากโชว์รูม เว็บไซต์ของ บรู๊คลิน มิตซูบิชิ ก็ตั้งราคาประกาศขาย มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชั่น ไฟนัล เอดิชั่น ด้วยราคา 88,888 เหรียญ ราว 2,666,640 บาท หรือแพงกว่ารุ่นที่ขายหมดไปแล้วถึงสองเท่าครึ่งทีเดียว ซึ่งก็เชื่อว่าจะสามารถจำหน่ายได้ในเวลาอันรวดเร็ว เพราะรถรุ่นนี้ถือเป็นรุ่นสุดท้ายจริงๆ สำหรับรถแรงในตระกูลมิตซูบิชิ ที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท และถอนตัวออกจากวงการแข่งขันแรลลี่อย่างเป็นทางการไปแล้ว
ทั้งหมดที่เหลือไว้ คือความทรงจำของทีมงาน แรลลี่อาร์ต อันเกรียงไกรในอดีต เท่านั้นเอง