เปิดม่านกันไปแล้วสำหรับงาน นิวยอร์ค มอเตอร์ โชว์ 2015 มาดูตัวแรง ตัวเจ็บกันบ้าง เริ่มด้วยรถค่ายอังกฤษ แมคลาเรน รุ่น 570 เอส คูเป้ ด้วยราคาเริ่มต้น 143,250 ปอนด์ ราว 5,730,000 บาท ตั้งเป้าขายภายในปีนี้ ส่วนใครที่เห็นว่าแรงไป กลัวเอาไม่อยู่ ก็ต้องคอยดูรุ่น 540ซี ที่จะออกโชว์โฉมในงาน เซี่ยงไฮ้ มอเตอร์ โชว์ ในเดือนหน้า ราคาย่อมเยาลงหน่อย เหลือเพียง 126,000 ปอนด์ ราวห้าล้านถ้วน ส่วนใครที่ไม่ชอบรถทรงนี้ต้องคอยรุ่น 570เอส จีที ที่จะตามมาเร็วๆ นี้
แมคลาเรน จงใจวางตำแหน่งไว้ตรงนี้ เพื่อให้ท่านมหาเศรษฐีทั้งหลายชั่งใจว่า จะเอาซูเปอร์คาร์คันไหนไปจอดในโรงรถ ระหว่าง ปอร์เช่ 911 เทอร์โบ ราคา 120,598 ปอนด์ ราว 4,832,000 บาท หรือรุ่นใหญ่ 911 เอส เทอร์โบ ราคา 142,120 ปอนด์ ตกราว 5,684,000 บาท หรือจะเลือก ออดี้ อาร์8 ที่ราคา 119,500 ปอนด์ ราว 4,780,000 บาท หรือตัวแรง อาร์8 วี10 พลัส ราคา 137,500 ปอนด์ ราว 5,500,000 บาท คนมีสตางค์นี่เลือกยากเนอะครับ
570เอส เครื่องยนต์ วี8 3.8 ลิตร เทอร์โบคู่ เครื่องวางกลาง ขับหลัง ให้กำลัง 562 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตันเมตร เกียร์ออโต้ 7 สปีด คลัทช์คู่ เอสเอสจี ที่พัฒนามาจากเครื่องยนต์ของรุ่น 650เอส เหมาะสำหรับใช้ในสนามแข่ง พัฒนาให้นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน บนถนนปกติได้ง่ายขึ้น โดยคาดหวังยอดขายน่าจะเพิ่มจาก 1,700 คันปีที่แล้ว ปีนี้คาดว่าจะทำได้สัก 4,000 คัน ก็น่าจะพอ ทำความเร็ว 0-100 ได้ภายใน 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 330 กม./ชม.
แมคลาเรน รุ่นนี้พัฒนาโครงสร้างตามเทคโนโลยีสมัยใหม่ ด้วยวัสดุอย่างเบา โครงสร้างแชสซีส์ คาร์บอน ไฟเบอร์ มีนำ้หนักเพียง 80 กก. ทำนำ้หนักตัวรวมทั้งหมดเมื่อเติมนำ้มันเต็มถัง เพียง 1,313 กก. เบากว่าคู่ต่อสู้ 911 เทอร์โบ เอส 292 กก. และเบากว่ารุ่นพี่ 650เอส 17 กก. แต่ค่าไอเสียยังสูง 258 กรัม/กม.
แมคลาเรน บอกว่าแนวคิดในการพัฒนา 570เอส ก็เพื่อให้สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน โดยไม่ทิ้งความสามารถในการทำความเร็ว และเพิ่มความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร ซึ่งทำให้ยาวกว่า 650เอสอยู่ 18 มม. และกว้างกว่า 103 มม. โดยติดตั้งแดมเปอร์ที่ปรับเปลี่ยนตามสภาพการขับขี่เป็นมาตรฐาน พร้อมโครงกันคว่ำทั้งหน้าและหลัง พร้อมโหมดการขับขี่ ธรรมดา, สปอร์ต และสนามแข่ง ที่ปรับเปลี่ยนการยึดเกาะ ช่วงเกียร์ และการตอบสนองของปีกผีเสื้อ รวมทั้งปิดระบบ อีเอสพี ให้ขับได้ตามความต้องการ
หน้าตาของ 570เอส ก็ค่อนข้างคล้ายรุ่นพี่ แต่ปรับเส้นสายให้เฉียบคมขึ้น รวมทั้งปรับให้ช่วยระบายอากาศให้ผ่านตัวรถได้ง่ายขึ้น ประตูทรงปีกนกทั้งคู่ ภายในเบาะหนังทรงสปอร์ต เป็นมาตรฐาน แต่ถ้าต้องการเบาะทรงแข่งขันก็มีให้เลือก จอทัชสกรีน 7 นิ้ว ให้ควบคุมอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง บลูทูธ วิทยุรับดาวเทียม ระบบนำทางผ่านดาวเทียม ลำโพง 4 ตัวเป็นมาตรฐาน แต่สามารถอัพเกรดเพิ่มเป็น 8 ตัว หรือรุ่นชั้นยอดจาก โบเวอร์ แอนด์ วิลคิ้นส์ 12 ตัว ความดังแค่ 1,280 วัตต์ ก็ย่อมได้ หรืออยากเสียเงินเพิ่มอีก แมคลาเรน เตรียมหนังชั้นยอด นัปป้า พร้อมตกแต่งคาร์บอนไฟเบอร์ ด้านในให้ตามความปรารถนา
เมื่อปีที่แล้ว แมคลาเรน สามารถทำกำไรได้จากการขายรถราว 1,850 คันทั่วโลก เพิ่มขึ้น 21% และตั้งเป้าจำหน่ายเท่ากับปีก่อน โดยจะออกรุ่นใหม่ๆ ในช่วงปลายปี เพื่อกระตุ้นยอดขาย โดยในปี 2559 เมื่อการผลิตรถสปอร์ต ซีรี่ส์ เต็มกำลังการผลิต คาดหมายว่ายอดขายรวมจะขึ้นถึง 4,000 คัน จาก ซูเปอร์ ซีรี่ส์ ราว 1,500 คัน และอีก 2,500 คัน จากรุ่นสปอร์ต ซีรี่ส์