เเอร์เเละเเคตตาไลติก

Brand: MERCEDES-BENZ Model: C-Class
Year: 1997 Miles: 100001 – ขึ้นไป
From: Tony Auckland city

สวัสดีครับคุณธเนศร์ ก่อนอื่นขอขอบคุณคำเเนะนำที่ดีโดยเสมอมา ไม่ว่าจะเป็น ยางเเท่นเครื่อง,น้ำมันเกียร์,น้ำมันเครื่องซีม เเละเก้าอี้ไฟฟ้า ก้อได้จัดการเเก้ไขเรียบร้อยเป็นอย่างดี ระบบกียร์วิ่งได้ไหลลื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หมดกังวลเรื่องเครื่องยนต์ สะอาดเเละไม่สั่น (C240 V6 Lorinsor)
฿฿฿ รถโหลดพอประมาณ ไม่เเป๊ก เเต่ก้อไม่วายที่โดนกระเเทกส่วนล่างจนเเคตเสียหายก้อเลยให้ช่างตัดออกเเล้วต่อตรง(ถ้าเปลี่ยนเเคตใหม่ค่าใช้จ่ายประมาณ $360-500) ผลที่ออกมาคือเสียงท่อดังขึ้นมากพอสมควร เเต่ที่ไม่เเน่ใจคือไม่ทราบว่าจะมีผลต่อเครื่องยนต์อย่างไรมั้ยครับ?(ชุดท่อ Lorinsor สเเตนดาร์ดมากับรถ)
####เเอร์ไม่เย็น (climate air) ตัวคอนโทรลเเละพัดลมทำงานปกติเเน่นอน สองปีเเรกปกติ 8เดือนที่เเล้วไม่เย็นไปเช็คช่างบอกว่าเติมน้ำยาก้อพอทุกอย่างปกติ หลังจากใช้มาสองสามเดือนก้อเย็นดีปกติ หลังจากนั้นก้อเข้า winter ใช้เเต่ฮีตเตอร์ เพิ่งเริ่มใช้เมื่อต้นเดีอนนี้เองเริ่มร้อนเเล้ว ผลเป็นว่าไม่เย็นเลย ทุกอย่างทำงานปกติ ช่างบอกว่าให้ไปเติมน้ำยาเเอร์ที่มีสี($120) เเล้วอีกสักอาทิตย์ค่อยมาดูว่ามีรอยรั่วตรงไหน โดยปกติค่าใช้จ่ายจะสูงมากมั้ยครับ
ขอขอบคุณล่วงหน้านะครับ


ตัด Cat ออก ก็จะโล่งขึ้นนิดหน่อย ตามทฤษฏีจะมีกำลังเพิ่มขึ้นราว 2-4% แต่จะมีกลิ่นน้ำมันเบนซินออกมากับท่อไอเสีย และหากวัดค่าคาร์บอน กับค่าไอพิษ ก็จะไม่ผ่านการตรวจวัดครับ
ผมไม่แน่ใจ ว่าช่างฝรั่งชาวนิวซีแลนด์จะยอมตัด Cat ให้คุณด้วยหรือนี่ ธรรมดา พวกนี้จะแคร์กับสิ่งแวดล้อมเอามากมากนะครับ ไม่น่าจะเป็นช่างฝรั่งเลย

เรื่องแอร์ ผมว่า อาจจะเป็นประตูของฮีธเตอร์เปิดค้างอยู่ละมังครับ ช่างน่าจะพยายามก้มลงไปดูให้หน่อย นี่เล่นให้เปลี่ยนน้ำยาแอร์แบบมีสีเลยเชียวหรือ ในไทยเรา ยังมีร้านแอร์ที่มีเครื่องตรวจหาความรั่วของน้ำยาแอร์ ที่ตรวจเจอทุกทีถ้ารั่ว ค่าตรวจก็ไม่กี่สตางค์ เปลี่ยนช่างไม่ดีกว่าหรือครับ หาร้านซ่อมแอร์รถยนต์ ที่มีเครื่องมือตรวจหารอยรั่วก็น่าจะมีนะ ในนิวซีแลนด์นี่

แต่เท่าที่ทราบ ช่างเบนซ์มีไม่มากครับ เอาไว้ผมจะถามคุณสมชาย ช่วยรอด ให้คืนนี้ ว่าทำอย่างไรดี ถ้าอย่างนั้น พักไว้ก่อน ยังไม่ตอบ เดี๋ยวคืนนี้ได้คำตอบจากคุณสมชายแล้ว ค่อยเพิ่มเติมมาให้ครับ
————————————————
ผมได้หารือกับคุณสมชาย ช่วยรอดจากเบนซ์ธนันต์แล้วนะครับ คุณสมชายมีประสบการณ์กับการซ่อมบำรุงเบนซ์ในนิวซีแลนด์มากทีเดียว และบอกกับผมว่า ช่างเบนซ์ในนิวซีแลนด์ มักจะเป็นช่างจากลาว ญวน หรือประเทศในเอเชียนี่เอง ไม่มีฝรั่ง จะมีก็แต่เจ้าของอู่ที่เป็นฝรั่งชาวนิวซีแลนด์
และเผอิญเหลือเกิน ที่ช่างเหล่านั้น ไม่ถนัดกับการซ่อมบำรุงเบนซ์อย่างเหมาะสม และไม่มีเครื่องมือทันสมัยอย่างในประเทศไทย ที่คุณสมชายบอกผมด้วยว่า การตัด Cat ออกไปนั้น จะทำให้ตัว Oxygen Sensor ทำงานผิดพลาด ไม่ร้อนพอ และรายงานอยู่เสมอว่า เครื่องยนต์เย็น ทำให้คอมพิวเตอร์จ่ายเชื้อเพลิงจำนวนมาก เป็นเหตให้มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงขึ้นแน่นอน

และนอกจากนั้น ยังผิดกฎหมายอีกด้วย เมื่อเอารถไปตรวจสภาพ ก็อาจจะไม่ผ่าน หากช่างที่ตรวจเป็นช่างฝรั่ง

ส่วนเรื่องแอร์นั้น คุณสมชายบอกว่า การใช้สีฉีดเข้าไปผสมกับน้ำยาแอร์ หรือใช้น้ำยาแอร์แบบมีสีนั้น เป็นเรื่องล้าสมัย ในไทยไม่มีใครทำแล้ว เพราะทำให้ต่อไป คอมเพรสเซอร์จะพังเอาง่ายง่าย
ช่างไทย จะมีเครื่องตรวจจับความรั่วของท่อน้ำยาแอร์ใช้กันอยู่แล้วเป็นส่วนมาก ดังนั้น จึงควรจะต้องใช้เครื่องตรวจจับ แต่เมื่อคุณอยู่ที่นิวซีแลนด์ ที่อาจจะไม่ใช้กัน เพราะล้าสมัยกว่าในประเทศไทย ก็ลำบากละครับ

คุณสมชายเคยบอกกับผมว่า อยากจะไปตั้งอู่ซ่อมเบนซ์ที่นิวซีแลนด์ ผมห้ามไว้เอง โดยให้เหตผลว่า อยู่ในประเทศไทยก็รวยพออยู่แล้ว จะไปทำทำไมในบ้านอื่น คุณสมชายก็ทำท่าว่า จะคิดคิดอยู่นะครับ

รวมความแล้ว ผมว่า รถคุณนั้น ควรจะดูว่า แผงประตูความร้อนของระบบแอร์ ติดขัดเปิดค้างอยู่หรือไม่ก่อน และหากน้ำยาหมดจริง ก็ต้องหารอยรั่ว โดยการใช้เครื่องมือตรวจหา พยายามหลีกเลี่ยงการเติมน้ำยาแบบมีสี อันจะทำให้คอมเพรสเซอร์ของคุณเสียไปได้เร็วครับ-ธเนศร์

Facebook Comments