นายก้องเกียรติ ฑีฆมงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรสำหรับรถที่หมดระยะรับประกัน เอ็มเอ็มเอส ภายใต้บริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาและการวางแผนที่จะขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีนับจากนี้
แผนงานหลักจะอยู่ที่การขยายเครือข่ายการให้บริการจากที่มีอยู่ 7 แห่งในปัจจุบัน เพิ่มขึ้นเป็น 24 แห่งภายใน 3 ปีนับจากนี้ โดยจะใช้งบประมาณเบื้องต้นในการขยายสาขาและการทำตลาดประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งสาขาใหม่ที่จะเปิดให้บริการในช่วงครึ่งแรกของปี ได้แก่ สาขาเอ สแควร์ บนถนนพระราม 4 จากนั้นจะขยายให้ครบ 11 สาขาในปี 2555 นี้
ทั้งนี้ สาขาเอ สแควร์ ซึ่งนับเป็นสาขาที่ 8 ของเอ็มเอ็มเอส ถือว่าเป็นสาขาที่อยู่ในย่านใจกลางเมืองของกรุงเทพมหานคร มีความทันสมัยและรูปแบบการให้บริการที่ดีเยี่ยมตามมาตรฐานของเอ็มเอ็มเอส โดยอาคาร 3 ชั้นที่มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 5,000 ตารางเมตร จะประกอบไปด้วยศูนย์บริการของเอ็มเอ็มเอสรวมไปถึงโชว์รูมและศูนย์บริการของเทคอาร์ต ซึ่งเป็นธุรกิจชุดแต่งรถยนต์ปอร์เช่ในกลุ่มเช่นกัน
“เอ็มเอ็มเอสพร้อมที่จะเดินหน้าขยายเครือข่ายการให้บริการ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการศูนย์บริการมาตรฐานที่พร้อมจะดูแลลูกค้าแบบครบวงจร ซึ่งจากภาวะน้ำท่วมในปีที่ผ่านมา บริษัทเชื่อว่าความต้องการของศูนย์บริการมาตรฐานจะปรับเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเจ้าของรถต้องการศูนย์ซ่อมบำรุงที่ได้มาตรฐาน ในราคาที่เป็นธรรม และสามารถดูแลลูกค้าได้รวดเร็วกว่าศูนย์บริการ”
นอกจากนี้ ในปี 2555 บริษัทได้ขยายขีดความสามารถในการให้บริการออกไปมากขึ้น เช่น การขยายบริการบ๊อช ดีเซล เซอร์วิส ซึ่งเป็นศูนย์ซ่อมหัวฉีดดีเซลที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย สามารถรองรับบรรดารถยนต์รุ่นใหม่ ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลระบบหัวฉีดทันสมัย ซึ่งศูนย์บริการรูปแบบเดิม ไม่สามารถให้บริการรถยนต์ในกลุ่มนี้ได้
บริษัทได้จัดตั้งทีม Technical Hotline เพื่อสนับสนุนเครือข่ายศูนย์บริการเอ็มเอ็มเอส รวมถึงพันธมิตรคู่ค้าส่งของเรา ด้วยการอำนวยความสะดวกด้านข้อมูลอะไหล่และข้อมูลการซ่อมรถยนต์อย่างรวดเร็วและแม่นยำ นอกจากนั้นยังมีการร่วมมือกับมาสเตอร์ออโตโมทีฟเทรนนิ่งเซ็นเตอร์หรือMAT ในส่วนของการอบรมและผลิตช่างรถยนต์เพื่อป้อนเข้าสู่ศูนย์บริการของบริษัทอย่างต่อเนื่อง
“เอ็มเอ็มเอส บ๊อช คาร์ เซอร์วิส มุ่งมั่นที่จะเป็นศูนย์บริการครบวงจรสำหรับรถที่หมดระยะเวลารับประกัน ซึ่งถือเป็นจุดยืนที่โดดเด่น เนื่องจากจำนวนรถที่หมดระยะเวลารับประกันในตลาดนั้นมีจำนวนมาก และเจ้าของรถก็ต้องการศูนย์บริการที่มีมาตรฐานสากลในราคาสมเหตุสมผล ซึ่งผมในฐานะกรรมการผู้จัดการคนใหม่ ก็พร้อมที่จะดำเนินธุรกิจไปในแนวทางที่เข้มแข็ง ที่มีการวางรากฐานไว้ก่อนหน้านี้”
สำหรับเป้าหมายทางการตลาดนั้น มั่นใจว่าในปีนี้ เอ็มเอ็มเอส บ๊อชคาร์เซอร์วิส น่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 180 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 63% เมื่อเทียบกับยอดรายได้ 110 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของจำนวนสาขาและการรับรู้รายได้ของบริษัท นับตั้งแต่เปิดให้บริการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมจัดโปรโมชั่นเฉลิมฉลองครบรอบ 3 ปีของการให้บริการ ด้วยการแจกทองคำน้ำหนักรวม 10 บาทและของรางวัลอีกมากมายให้กับผู้ที่เข้ามาใช้บริการของเรา โดยจะเริ่มโครงการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – กันยายน 2555 นี้ ซึ่งรายละเอียดของกิจกรรมฉลองครบรอบ 3 ปีทั้งหมด จะมีการประกาศออกสู่สาธารณชนอีกครั้ง ในช่วงหลังจากนี้
นายก้องเกียรติกล่าวถึงภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงรถยนต์ในประเทศไทย ซึ่งคาดการณ์ว่าจะได้รับผลกระทบจากกลุ่มทุนขนาดใหญ่หลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ในปี 2558 ซึ่งมีผู้ประกอบการรายใหญ่พร้อมที่จะเข้ามาลงทุนมากขึ้น เนื่องจากประเทศไทยมีขนาดของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
“สิ่งที่เราทำนอกจากการขยายสาขาเพื่อรองรับการให้บริการในประเทศไทยแล้ว แน่นอนว่าเราต้องเตรียมพร้อมรับมือการแข่งขันในอนาคต เห็นได้จากการที่เอ็มจีซีได้ลงทุนกับบริษัท ไอ-24 และศูนย์ฝึกอบรม MAT รวมไปถึงการลงทุนของเอ็มเอ็มเอสเพื่อซื้ออุปกรณ์เครื่องมือวิเคราะห์จำนวนมาก เพื่อรองรับเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ในอนาคต”
#####################################################
premsak@caronline.net