หากจะกล่าวถึงรถเล็กประหยัดน้ำมันแล้วราคาไม่แพงในช่วงนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นกับรถในกลุ่มอีโคคาร์เล็กประหยัดพลังงานและปล่อยมลพิษน้อยตามข้อกำหนดของรถอีโคคาร์ที่ทางรัฐได้ประกาศไว้
จนมาถึงช่วงนี้อีโคคาร์ก็ได้เปิดตัวเข้าสู่ตลาดหลากหลายจึงเกิดเป็นสงครามรถเล็กแบบย่อมๆทั้งเรื่องราคาแถมยังมีการอัดโปรโมชั่นกันเข้าไปอย่างจนล่าสุดนั้น มิตซูบิชิ ได้ทำการเปิดตัว มิราจ เข้าสู่ตลาด
หลังจากการเปิดก็มีการร่อนจดหมายเชื้อเชิญให้ไปทดลองขับแบบสั้นๆเรียกได้สั้นมากได้ขับแค่สองรอบสนามพีระเซอร์กิตเท่านั้นเอง
การทดสอบนั้นทางมิตซูบิชิแบ่งออกเป็นสี่สถานีเพื่อทดสอบสมรรถนะของรถในสนามส่วนการลองแบบยาวๆแบบเป็นทริปนั้นต้องรอกันอีกสักพัก
เริ่มต้นจากสถานีที่ 1 เป็นทดสอบอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งบนช่วงทางตรง มิราจนั้นใช้เครื่องยนต์ใหม่ขนาด 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC MIVEC 12 Valve รหัสเครื่อง 3A92 ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาทีระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 6 จังหวะ พร้อม Sportronic และระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์อัจฉริยะ INVECS-III ที่ประสานงานกันแบบเข้าขาและมีการพัฒนาที่ดีขึ้นทำให้ผมนั้นลืมเกียร์ CVT แบบก่อนๆไปสังเกตจากการขับขี่นั้นแทบไม่ต่างจากเกียร์อัตโนมัติแบบปกติ อัตราเร่งนั้นจัดว่าพอใช้ค่อนข้างไปในทางที่เกือบดี ทำไมผมถึงกล่าวแบบนี้คุณผู้อ่านก็อย่าลืมนะครับว่ามันเป็นรถเล็กจะเทียบกับรถเครื่องใหญ่ๆก็คงจะไม่ไหวแต่จะได้เปรียบก็คือน้ำหนักของตัวรถที่มีน้ำหนักเพียงแค่น้ำหนักรวมอยู่ที่ 825-870 กิโลกรัมในแต่ละรุ่นบททดสอบแรกถือว่าพอใช้สอบผ่านครับ
สถานีที่สองเป็นการทดสอบแรงบิด โดยออกตัวจากจุดหยุดนิ่งแล้วไต่ขึ้นเนินที่เป็นทางโค้งเพื่อจำลองสถานการณ์ในการไต่ขึ้นเขานั้นจะสามารถทำได้ดีแค่ไหน มิราจ นั้นแม้จะมีแรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาทีก็ไม่ใช่ปัญหาในการขึ้นเขาผมว่ารถสมัยนี้พัฒนาขึ้นมากสามารถขึ้นดอยอินทนนท์ได้สบายๆอยู่ที่ว่าขับเป็นรึเปล่ามากกว่า
สถานีที่สาม สลาลม เช่นเดิมการขับแบบสลาลมนั้นจะแสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวของรถและการควบคุมพวงมาลัยผมเข้าสลาลมด้วยความเร็วประมาณ 50 กิโมเมตรต่อชั่วโมงพวงลัยนั้นคมและแม่นยำแม้น้ำหนักอาจจะเบาไปซะหน่อยแม้จะความเร็วในระดับนี้แล้ววิ่งซิกแซกเสียงยางยังไม่กรีดร้องเอี๊ยดอ๊าดนั้นมีสองเหตุผลคือหนึ่งใช้ความเร็วเหมาะสม สองช่วงล่างเซ็ตมาแต่ผมว่าน่าจะมาจากอย่างหลังมากกว่า
สถานีสุดท้ายเลนเชนจ์และวงเลี้ยว ออกรถจากจุดหยุดนิ่งกดคันเร่งให้มิดแล้วเหยียบเบรกพร้อมหักพวงมาลัยให้หลบสิ่งกีดขวางบททดสอบจะแสดงให้เห็นถึงการทรงตัวและระยะเบรกของ มิราจ ซึ่งมิราจนั้นทำได้แค่สอบผ่านเพราะในช่วงที่เปลี่ยนเลนแบบกะทันหันมีการโยนอย่างเห็นได้เล่นเอาเหวอกันนิดหน่อยแต่เบรกนั้นไว้ใจได้ หลังจากนั้นก็มีบททดสอบส่งท้ายแสดงให้เห็นว่าเจ้า มิราจ นั้นมีวงเลี้ยวแคบมากเพียง 4.4 เมตร
เป็นอันว่าการทดสอบแบบสั้นๆเพียงแค่ประมาณ 2.4 กิโลเมตรหรือหนึ่งรอบสนามพีระก็จบลงโดยใช้เวลาอยู่บนรถ มิราจ ไม่เกิน 5 นาทีใครสนใจก็ไปชมรถได้ที่โชว์รูมมิตซูบิชิทั่วประเทศ
###############################################
เรื่อง premsak@caronline.net
ภาพ Mr.O
บริษัท โตโยต้า …