Brand: MITSUBISHI Model: Champ
Year: 1992 Miles: 100001 – More
From: นฤมล พวงสาลี
สวัสดีค่ะอาจารย์ธเนศร์
ดิฉันใช้รถ มิตซูบิชิ แชมป์ ปี 92 เครื่อง 1,300 ใช้ไป 220,000 กม.
ซื้อมือสองมา ใช้มา 1 ปีแล้ว
1. เวลาเครื่องร้อนแล้ว (ตามปกติ 1 ใน 3 ของเกจ์) เวลาจอดติดไฟแดง รอบเดินเบาจะต่ำลง จาก 800 เหลือ 500 เข็มก็ขึ้นๆ ลงๆ เหมือนคนหายใจ ถ้าเป็นมากๆ ก็ดับไปเฉยๆ พอสตาร์ทใหม่ก็ติด พอจะออกตัวช่วงเกียร์ 1-3 บางครั้งเครื่องจะสะดุดวืด…หัวคะมำ เกือบดับแต่ไม่ดับ (โดยเฉพาะเวลาเปิดแอร์) เป็นประมาณอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยเป็นเลย ได้เปลี่ยน กรองเบนซิน, สายหัวเทียนทั้งชุด, หัวเทียนทั้งชุด, ถอดคาบูเรเตอร์ล้าง (มีทั้งตะกอนทั้งน้ำพร้อม) แล้ว วิ่งเรียบขึ้น แต่ก็ยังเป็นอีก อาจารย์คิดว่าน่าจะเป็นที่อะไรคะ? อยู่ ถ.รามอินทราไปซ่อมที่ไหนดีที่ทำแบบตรงไปตรงมาและมีเครื่องคอมพิวเตอร์วัด? ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไร?
2. เวลาดับเครื่อง บางครั้งก็ดับได้ปกติ บางครั้งไม่ค่อยอยากจะดับ ในขณะที่บิดกุญแจดับเครื่องเรียบร้อยแล้ว
เคยเห็นอาจารย์บอกว่าตั้งไฟแก่ไป แต่อันนี้คิดว่าคงไม่ เพราะพอตั้งอ่อนกว่านี้อีกนิด เวลาวิ่งมันจะดังแกรก…ที่จานจ่ายแล้วค่ะ อาจารย์ช่วยแนะนำด้วยค่ะ
3. ตอนนี้ยางหุ้มเพลาล้อหน้าขวาขาด เวลาเริ่มออกตัวหรือวิ่งถนนที่ไม่ค่อยเรียบ จะดังกุกๆๆๆ และฝืนใช้มาระยะหนึ่งแล้ว อยากทราบว่ามันจะมีผลเสียกับเพลาอย่างไรบ้างคะ? คิดว่าจะนำไปเปลี่ยน ควรเปลี่ยนทั้งข้างนอก-ใน และทั้งซ้าย-ขวา ใช่ใหมคะ? ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไรคะ?
4. เวลาเบรกจะมีเสียงดังก๊อก ที่ล้อ และเวลาแตะเบรกน้อยๆ มันจะดังอี๊ด….ยาวๆ แหลมๆ แสบแก้วหู ไม่ทราบว่าเป็นอะไรคะ?
5. ช่วงความเร็ว 20-40 กม. เข็มไมล์จะแกว่งขึ้นดุ๊กดิ๊กๆ พอเลยนั้นไปแล้วก็นิ่งปกติ เกิดจากอะไรคะ? ปล่อยไว้จะเป็นปัญหาหรือไม่คะ หรือต้องรีบซ่อม?
6. อยากทราบว่ารถรุ่นนี้เป็นเครื่องหัวฉีด หรือ เครื่องธรรมดาคะ? ขออภัยค่ะ ดูไม่เป็นจริงๆ
ขอขอบพระคุณมากค่ะอาจารย์ธเนศร์
1-น่าจะมีน้ำและตะกอนมาก ในถังเชื้อเพลิงครับ กรองเบนซินใหม่ อาจจะเกือบตันเข้าไปอีกแล้วก็เป็นได้ น่าจะถอดถังเชื้อเพลิงล้าง หากคราวนี้ล้างคาร์บิวฯแล้วพบว่า มีน้ำมีตะกอนมากอีกครั้ง
ผมว่า ไปอู่ธนดล ซอยลาดปลาเค้า 52 น่าจะใกล้ที่สุด และในซอยลาดปลาเค้า อู่ดีดีก็มีแยะเหมือนกัน ลองหาหาดูก็น่าจะได้ครับ เน้นว่า ต้องอู่ที่สะอาด ช่างแต่งตัวมีเครื่องแบบ มีความสะอาดพอควร อู่เลอะเทอะ แม้จะดี แต่ผมไม่แนะนำ
2-ไฟแก่ไปครับ คุณบอกว่าปรับลงอีกนิดแล้วมีเสียงดังแกร็ก เสียงนั้น คือเสียงเขก หรือ Knock ซึ่งแสดงว่าว่าไฟแก่ ของคุณปรับไว้แก่มากไปหน่อยแล้ว จึงมีเสียงเขกและดับไม่ค่อยลง ลดลง หมุนจานจ่ายไปตรงกันข้าม ก็น่าจะหาย
3-เปลี่ยนเถิดครับ ยางหุ้มเพลาไม่กี่สตางค์หรอก แต่ตอนนี้ อาจจะแย่แล้ว เพราะหัวเพลาของคุณ น่าจะสึกเพราะจารบีไหลออกไปหมด มีฝุ่นเข้าไปทำให้ลูกปืนเพลาสึกมากไปแล้วก็ได้ เพราะเริ่มมีเสียง
คงจะลามไปถึงลูกปืนเพลาแล้ว เปลี่ยนแค่ยางหุ้มคงไม่พอเสียแล้ว น่าจะต้องเปลี่ยนลูกปืนหัวเพลาด้วย หลายพันละครับ คราวนี้
อาการเกิดเพราะความละเลยของคุณเองครับ โทษใครไม่ได้หรอก
4-แตะเบรกแผ่วแผ่ว มีเสียงดังได้เสมอ เพราะแผ่นผ้าเบรกไม่ได้กดแนบกับล้อ เป็นจากคุณภาพและลักษณะของผ้าเบรกที่แข็งครับ ถือว่าเป็นปกติ
ส่วนเสียงดังก๊อกนั้น มาจากความหลวมของพวกลูกหมากและบูช หรือลูกปืนล้อ
5-สายไมล์เริ่มเสียแล้ว ปล่อยไป ก็จะขาดเอง และไมล์ไม่ขึ้น
เอ ทำไมถึงถามแบบว่า ปล่อยไปได้ไหม หลายคำถาม คุณใช้รถ ไม่บำรุงรักษา ผลัดผ่อนเวลา ผมว่าจะเสียหายมากขึ้นอีกหลายอย่าง และเวลาซ่อมแต่ละครั้ง ก็จะต้องเสียเงินมากจนคุณไม่อยากซ่อม ซึ่งก็จะทำให้รถเสียหายมากขึ้น ผมไม่อยากแนะนำอู่ให้คุณเลย เพราะเท่าที่ดูนี่ คุณไม่อยากเสียเงินซ่อมรถ อยากใช้อย่างเดียว แนะนำอู่ไป อู่ก็มักจะซวยมากกว่าได้ลูกค้าดี เพราะคุณจะด่าเขาเสียมากกว่าขอบใจที่ซ่อมให้ดีดี หรือพอใจในการเสียเงินซ่อมรถนะครับ
6-อ้าว ก็ไหนบอกว่า มีการล้างคาร์บิวเรเตอร์ แล้วจะมาถามว่า เป็นหัวฉีดหรือเป็นคาร์บิวฯทำไมล่ะครับ-ธเนศร์
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…