บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวรถยนต์สปอร์ตเอสยูวีรุ่นล่าสุด “GLC 250 d 4MATIC Coupé” ยนตรกรรมที่ผสานความอเนกประสงค์ของรถยนต์สไตล์ เอสยูวีและความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ของรถยนต์คูเป้เข้าไว้ด้วยกัน ตอบโจทย์ความต้องการ พร้อมตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างลงตัว โดยรถยนต์รุ่นนี้มีให้เลือกสรรถึง 2 แบบ ได้แก่ GLC 250 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic ในราคา 4,090,000 บาท และ GLC 250 d 4MATIC Coupé AMG Plus ในราคา 4,490,000 บาท โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้แล้วที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั้ง 31 แห่ง ทั่วประเทศ
มร.ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รถยนต์ตระกูลเอสยูวี (Sport Utility Vehicle) นับเป็นกลุ่มรถยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งสำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ รถยนต์กลุ่มนี้มียอดขายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่มีการเปิดตัวรถยนต์กลุ่มเอสยูวีเมื่อปี 2011 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ทำการ ส่งมอบรถยนต์ในกลุ่มนี้เป็นจำนวนกว่า 4 ล้านคันทั่วโลก รวมถึงล่าสุดในเดือนสิงหาคม ทางบริษัทฯ มียอดขายรถยนต์ในกลุ่มเอสยูวีทั่วโลกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 56,286 คัน เติบโตขึ้นถึงกว่า 40% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์หรู รวมถึงเพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ที่จะไม่หยุดนิ่งในการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้ และวันข้างหน้า เมอร์เซเดส-เบนซ์จึงได้นำเสนอยนตรกรรม สปอร์ตเอสยูวีรุ่นล่าสุด อย่าง “GLC 250 d 4MATIC Coupé” สมาชิกลำดับที่ 7 ในกลุ่ม เมอร์เซเดส-เบนซ์ตระกูลเอสยูวี ที่เข้ามาเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอของรถยนต์กลุ่มนี้ให้ดูหลากหลาย และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบัน รถยนต์ตระกูลเอสยูวี นับเป็นอีกหนึ่งเซ็กเมนต์สำคัญ นอกเหนือจากกลุ่ม Compact Car, Contemporary Luxury และ Dream Car เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างครบครันมากยิ่งขึ้น”
มร.ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “GLC 250 d 4MATIC Coupé” ยนตรกรรมที่ผสานความอเนกประสงค์ของรถยนต์สไตล์เอสยูวีและความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ของรถยนต์คูเป้เข้าไว้ด้วยกัน พร้อมโดดเด่นด้วยการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้ อย่างลงตัว โดยรถยนต์รุ่นนี้มีกลุ่มเป้าหมายคือลูกค้าที่ชื่นชอบรถยนต์ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ทั้งการเดินทางในเมืองและนอกเมืองได้เป็นอย่างดี ซึ่ง The GLC Coupé มีให้เลือกสรรถึง 2 แบบ คือ GLC 250 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic และ GLC 250 d 4MATIC Coupé AMG Plus ที่มาพร้อมกับภาพลักษณ์ที่ดูปราดเปรียว ด้วยลายเส้นโค้งเว้า ให้ความรู้สึกพลิ้วไหว รวมถึงการออกแบบภายในที่เน้นความหรูหรา ทันสมัย แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงกลิ่นอายของความสปอร์ตเอาไว้เช่นเดิม”
ดีไซน์ภายนอก ของทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่ มีสัญลักษณ์โลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์ขนาดใหญ่ตรงกลาง เสริมไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System และไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED fibre-optic เพื่อการขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ เส้นสายหลังคาและลายเส้นด้านข้างถูกออกแบบให้ลาดเอียงไปทางด้านท้าย ที่เน้นดีไซน์แบบเรียบหรู ล้ำสมัยเสริมโครงสร้างตัวรถให้ดูทรงพลังและสง่างามไปพร้อมกัน ด้านท้ายเพิ่ม ความแข็งแกร่งดุดันด้วยปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ พร้อมด้วยชุดแต่ง AMG bodystyling (กันชนหน้า-หลัง), ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ multi-spoke ขนาด 20 นิ้ว, บันไดข้างสเตนเลสดีไซน์สปอร์ต โดย GLC 250 d 4MATIC Coupé AMG Plus จะมาพร้อมกับความพิเศษที่เพิ่มขึ้น ด้วยหลังคาซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า
ดีไซน์ภายใน ของ The GLC Coupé มาพร้อมจุดเด่นภายในห้องโดยสาร อย่าง แดชบอร์ดและคอนโซลกลางที่มีขอบลายเส้นที่ดูไหลลื่น โดยแผงคอนโซลที่มีขนาดใหญ่และถูกออกแบบให้เป็นชิ้นเดียวนี้ วางทอดตัวยาวจากช่องลมระบบปรับอากาศบริเวณตรงกลางของแผงหน้าปัดลงมาจนถึงพนักวางแขนบริเวณกึ่งกลางระหว่างเบาะที่นั่งของผู้ขับขี่กับผู้โดยสารตอนหน้า ซึ่งเส้นสายบริเวณแผงคอนโซลที่ดูเรียบง่ายแต่เร้าอารมณ์ช่วยให้ห้องโดยสารดูกว้างขวาง เรียบง่าย และ ล้ำสมัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ รถยนต์ทั้ง 2 แบบยังมาพร้อมกับพวงมาลัยนิรภัยพร้อมเพาเวอร์ ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ เพื่อเสริมความรู้สึกสปอร์ตให้มากขึ้นโดยรถยนต์รุ่นนี้มีอัตราทดการหมุนพวงมาลัย (องศาการหมุนของล้อหน้าต่อการหมุนพวงมาลัยหนึ่งรอบ) ที่ 15.1 ต่อ 1 (ในขณะที่อัตราทดการหมุนพวงมาลัยของรถยนต์รุ่น GLC นั้นอยู่ที่ 16.1 ต่อ 1) ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น และช่วยเสริมความรู้สึกสปอร์ตเมื่อเลือกใช้โหมดของระบบกันสะเทือนแบบ SPORT และ SPORT+, ฟังก์ชัน ECO start/stop, ระบบควบคุมอุณหภูมิแบบ THERMATIC แบบ 2 โซน, เบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมบันทึกหน่วยความจำ โดยเบาะนั่งด้านหลังสามารถพับได้ทั้ง 1:3/2:3 ตามความต้องการเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บของที่เพิ่มขึ้น รวมถึงระบบมัลติมีเดีย อย่าง ระบบวิทยุ-ซีดี MB Audio 20, ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบ Bluetooth, ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย touchpad และระบบรองรับการใช้งานระบบนำทาง (Pre-installation for SD-Card navigation) โดย GLC 250 d 4MATIC Coupé AMG Plus ตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนังแบบสปอร์ตพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตท้ายตัด ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO รวมถึงระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display)
The GLC Coupé ทั้ง 2 แบบ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ และเกียร์อัตโนมัติ แบบ 9G-TRONIC ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ 4MATIC Permanent all-wheel drive ความจุกระบอกสูบ 2,143 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 204 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,600-1,800 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 7.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 222 กม./ชม.
GLC 250 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic 4,090,000 Baht
GLC 250 d 4MATIC Coupé AMG Plus 4,490,000 Baht
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…