เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ยึดพื้นที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์เนรมิต “Star Dome” เปิดตัวยนตรกรรมหรูรุ่นใหม่ล่าสุด The new CLA-Class รถยนต์สปอร์ตคูเป้สี่ประตู ซึ่งนับเป็นการเปิดเซ็กเม้นต์ใหม่ขนาดกลางของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ด้วย รูปโฉมที่ได้รับอิทธิพลโดยรวมมาจากรุ่น CLS เมอร์เซเดส-เบนซ์ CLA ใหม่นี้ได้พัฒนาเข้าสู่สายการผลิตซึ่งมาจากรถยนต์ต้นแบบ Concept Style Coupé โดยได้รับการดีไซน์โฉบเฉี่ยวในสไตล์สปอร์ตแบบ Avant-garde พร้อมความพริ้วไหวของลายเส้นด้านข้าง ภายใต้การออกแบบใหม่หมดตั้งแต่หน้าจรดท้าย ทำให้ CLA-Class เปิดตัวด้วยความสปอร์ตและปราดเปรียว พร้อมดึงดูดลูกค้าเจเนอเรชั่นใหม่ นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน หรือ ค่า Cd ที่ต่ำเพียง 0.22 นับเป็นระดับของความลู่ลมในรถยนต์ที่ดีที่สุดในโลก CLA ใหม่พร้อมเปิดให้จองได้ในราคา 2,640,000 บาท ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการเท่านั้น
ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “บริษัทมีความภูมิใจที่ได้นำรถยนต์ The new CLA-Class ที่เพิ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลกในงานดีทรอยด์ มอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา และนำมาเปิดตลาดในประเทศไทยทันที ด้วยรุ่น CLA 250 AMG Sport โดย The new CLA-Class เป็นการพัฒนาไปอีกขั้นของการออกแบบยนตรกรรมที่บ่งบอกถึงแนวคิดการออกแบบใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม เจาะกลุ่มยังก์เจเนอเรชั่นที่ชื่นชอบรถในสไตล์สปอร์ตคูเป้สี่ประตู ซึ่งทำให้แบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ดูมีสีสัน แตกต่างจากเดิมที่เคยเป็นมา ไม่ว่าจะเป็นด้านการออกแบบที่ล้ำสมัยทำให้รถดูปราดเปรียว ความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาตร์ที่ดีที่สุด ประสิทธิภาพและสมรรถนะในการขับขี่ที่สนุก ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้จะทำให้ CLA ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในตลาดประเทศไทย นอกจากนี้ยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ให้ดูเหมาะกับคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยเรายังคงเน้นการทำตลาดเชิงรุก ด้วยการเดินหน้าคัดสรรยนตรกรรมใหม่หลากหลายรุ่นเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอของบริษัทให้มีความหลากหลายและน่าสนใจ โดยสามารถตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม”
ดีไซน์ภายนอก
เมอร์เซเดส-เบนซ์ The new CLA-Class เป็นการสร้างปฐมบทใหม่ให้แก่วงการยานยนต์ ด้วยนวัตกรรมการออกแบบอย่างสร้างสรรค์ล้ำสมัยในสไตล์คูเป้สี่ประตูที่ไม่เหมือนใคร โดยมิติของตัวรถมีความยาว 4,630 มม. ความกว้าง 1,777 มม. และความสูง 1,432 มม. ที่สามารถ
สร้างความแตกต่างอันโดดเด่น ด้วยการผสมผสานกันระหว่างความเร้าใจแบบสปอร์ตและความปราดเปรียว โดยตัวถังของ CLA จะดีไซน์เป็นส่วนโค้งและส่วนเว้าเข้ากันได้อย่างกลมกลืน ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้า พื้นที่ด้านข้าง และกระจังหน้าแบบ diamond grille พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ชุดโคมไฟหน้าแบบไบซีนอน (bi-xenon) พร้อมระบบฉีดน้ำทำความสะอาด และไฟ daytime สำหรับการขับขี่เวลากลางวันแบบ LED ในกรอบไฟหน้า นอกจากนี้ลายเส้นด้านข้างสามแนวได้รับการออกแบบและสอดรับกันอย่างพิถีพิถัน ความพริ้วไหวบนลายเส้นทั้งแนวเส้นโค้งและเส้นเว้าตลอดแนวด้านข้าง ก่อให้เกิดมิติบนพื้นผิวตัวถังและดูปราดเปรียว นอกจากนั้นยังมีหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค รวมทั้งยังตกแต่งด้วยชุดแต่งแบบสปอร์ต AMG (กันชนหน้า-หลัง และสเกิร์ตข้าง), กันชนท้ายแบบสปอร์ต พร้อมตกแต่งชายล่างของกันชนสีเดียวกับตัวรถ, ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน, สัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิปเปอร์เบรกหน้า และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ขนาด 18 นิ้ว เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและความน่าหลงใหลให้กับรถยนต์คันนี้มากยิ่งขึ้น
การตกแต่งภายใน
การตกแต่งภายในห้องโดยสารของ The new CLA-Class เน้นความเป็นสปอร์ต และล้ำสมัย ตั้งแต่มาตรวัดค่าแบบสปอร์ตทรงกลมสองวงตกแต่งพื้นหลังด้วยสีเงินและก้านบอกตำแหน่งสีแดง แบ่งเป็นมาตรวัดความเร็วที่ออกแบบภายในให้มีมาตรวัดปริมาณเชื้อเพลิงวงเล็กซ้อนไว้อย่างสวยงาม อีกวงเป็นมาตรวัดรอบการทำงานของเครื่องยนต์ภายในเป็นมาตรวัดอุณหภูมิคั่นกลางด้วยทริปมิเตอร์แสดงค่าอย่างละเอียด แผงคอนโซลด้านหน้าประกอบไปด้วย ช่องปรับอากาศ 5 ช่องแบบโครเมียม การตกแต่งเลือกใช้วัสดุชั้นดี คุณภาพสูง และออกแบบวัสดุที่ใช้ตกแต่งให้เข้ากันได้อย่างลงตัว
เบาะนั่งแบบสปอร์ตให้ความกระชับกับสรีระทุกการควบคุม หุ้มด้วยหนัง ARTICO สลับ DINAMICA microfibre สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง แผงประตูบุด้วย DINAMICA microfibre สีดำ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต 3 ก้านตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พรมรองพื้นสีดำแบบสปอร์ตตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
The new CLA-Class ติดตั้งเครื่องเล่นวิทยุแบบ Audio 20 พร้อมเครื่องเล่นซีดี และช่องเชื่อมต่อเพื่อความบันเทิงทั้ง Aux-in และ USB บริเวณคอนโซลกลาง เพื่อให้ความเพลิดเพลินขณะขับขี่ รวมทั้งระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านบลูทูธ เพื่อให้ความสะดวกสบายในการสื่อสารมากยิ่งขึ้น
สถิติใหม่ของค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ
The new CLA-Class ยนตรกรรมที่ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการผลิตรถยนต์ทั่วโลก ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Cd) มีค่าเท่ากับ 0.22 เท่านั้น นับเป็นรถยนต์คันแรกที่ได้รับการบันทึกสถิติโลกว่าเป็นรถที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ ต่ำที่สุดในโลก ด้วยการจัดการให้อากาศไหลผ่านได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้รถยนต์มีความลู่ลมมากขึ้นและมีผลอย่างมากต่ออัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง การจัดการให้ลู่ลมมากที่สุดนี้รวมถึงการปรับเสา A-pillar กระจกด้านข้างให้ลดแรงปะทะมากที่สุด ล้อรถและช่วงล่างรวมถึงด้านหลังรถด้วย
ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ – ระบบความช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ทันสมัย
เมอร์เซเดส-เบนซ์ CLA-Class โฉมใหม่นี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยต่างๆ ตลอดจนอุปกรณ์แบบครบครันที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยสูงสุดไม่ว่าจะเป็น กระจกส่องหลังลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ กล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP (Electronic Stability Program) ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถรักษาทิศทางและการทรงตัวของรถได้อย่างปลอดภัยในสถานการณ์คับขัน ระบบช่วยเบรก BAS (Brake Assist) ที่จะทำงานร่วมกับระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system) ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control) ที่ช่วยรักษาเสถียรภาพการทรงตัวและการยึดเกาะถนนให้อยู่ในระดับสูงสุด ระบบรักษาความเร็ว (cruise control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD ป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนตัวไปข้างหน้าโดยไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรกค้างไว้ตลอดเวลา
เปี่ยมด้วยพลังสมรรถนะทุกการขับขี่
CLA 250 AMG Sport ใช้เครื่องยนต์เบนซินแบบแถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุกระบอกสูบ 1,991 ซีซี ขุมพลัง 155 กิโลวัตต์/211 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที ให้แรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตันเมตรที่ 1,200 – 4,000 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 6.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 16.13 – 16.39 กม./ลิตร เครื่องยนต์มาพร้อมฟังก์ชัน ECO Start/Stop เพื่อช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น และมีระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย แบบ 7G-DCT (Dual Clutch Transmission) พร้อมกับระบบ direct-steer system ที่พวงมาลัยจะปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ ซึ่งจะช่วยทำให้การควบคุมทิศทางรถเป็นไปอย่างเที่ยงตรงแม่นยำพร้อมตอบสนองอย่างฉับไวไม่ว่าจะเป็นการเข้าโค้ง หรือหักหลบอย่างกะทันหัน ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมกเฟอร์สัน ด้านหลังแบบมัลติลิงค์ และมีระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต ทำให้การขับขี่เร้าใจและสนุกมากยิ่งขึ้นแต่ยังคงไว้ซึ่งความนุ่มนวล
thunyaluk@caronline.net
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…