เมอร์เซเดส-เบนซ์จัดกิจกรรมฝึกอบรมขับขี่ปลอดภัยขั้นสูง
Mercedes-Benz Driving Experience
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยขั้นสูง Mercedes-Benz Driving Experience (MBDE) ให้กับบรรดาลูกค้าและสื่อมวลชน ณ กองพันทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ระหว่างวันที่ 13 – 25 กุมภาพันธ์ 2552
โปรแกรม Mercedes-Benz Driving Experience ในปีนี้จะเป็นโปรแกรมการขับขี่ขั้นสูงที่มีความยากยิ่งขึ้นกว่าปีก่อนๆ โดย 3 ผู้ฝึกสอนมืออาชีพจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศเยอรมนี ซึ่งมีประสบการณ์สอนการขับขี่ปลอดภัยมาแล้วทั่วโลก นำทีมโดย มร. แมทเธียส ไคลน์มิเคล หัวหน้าทีมผู้ฝึกสอนซึ่งมีประสบการณ์มากว่า 20 ปี (ผ่านการฝึกอบรมการขับขี่ปลอดภัยมาแล้วกว่า 1,800 รายการ) ร่วมด้วย มร.ไมเคิล เวคอฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านการแข่งขันรถยนต์มากว่า 36 ปี (ผ่านการฝึกอบรมการขับขี่ปลอดภัยมาแล้วกว่า 4,300 รายการ) และ มร.วิม เดมส์ ผู้ฝึกสอนซึ่งมีประสบการณ์ด้านการฝึกสอนเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยมาแล้วกว่า 20 ปี (ผ่านการฝึกอบรมการมาแล้วกว่า 3,600 รายการ)
ศาสตราจารย์ ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้เล็งเห็นว่า โปรแกรมการฝึกทักษะการขับขี่ปลอดภัยถือเป็นส่วนสำคัญยิ่งในปรัชญาด้านความปลอดภัยแบบบูรณาการ เราจึงได้นำทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพจากเยอรมนี มาฝึกสอนเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยให้แก่บรรดาลูกค้าและสื่อมวลชน นอกจากนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ก็ได้ส่งพนักงานชาวไทยเข้าฝึกอบรมโปรแกรมการขับขี่ปลอดภัยในระดับสากล โดยได้รับประกาศนียบัตรรับรองจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วโลก”
โปรแกรม Mercedes-Benz Driving Experience 2009 มีวัตถุประสงค์ที่มุ่งสร้างความเข้าใจในเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยการฝึกอบรมในครั้งนี้จะเน้นไปที่การฝึกทักษะการขับขี่ในสถานการณ์จริง ซึ่งฐานการฝึกทักษะและทดสอบจะประกอบไปด้วยฐานทั้งหมด 4 ฐาน ดังนี้
1. การขับขี่แบบ “สลาลม” ด้วยความเร็วสูง
2. การเปลี่ยนช่องทางวิ่ง ด้วยความเร็ว 120 กม./ชม.
3. การเข้าโค้ง 180 องศา
4. การควบคุมรถในสนามด้วยความเร็วสูง
หลังจากที่เสร็จสิ้นการฝึกทั้ง 4 ฐานแล้ว ผู้ขับขี่จะมีความเข้าใจและสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีความปลอดภัยอันทันสมัยที่ติดมากับตัวรถได้อย่างเต็มที่ อาทิ ถุงลมนิรภัย, ระบบเบรคป้องกันล้อล็อก, ระบบช่วยเบรค, ระบบ night view, ระบบส่องสว่างอัจฉริยะ ซึ่งระบบทั้งหมดจะสามารถใช้งานได้เกิดประสิทธิภาพสุงสุดบนท้องถนน ดังนั้นหลังจากผ่านการฝึกอบรมฯในครั้งนี้แล้ว ผู้ขับขี่จะเข้าใจถึงความสามารถและสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์
ในปีนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ไว้ให้ลูกค้าและสื่อมวลชนได้ฝึกทักษะการขับขี่กว่า 10 รุ่นจาก 3 เซ็กเม้นท์ ได้แก่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ซี-คลาส, เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส, และเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส โดยลูกค้าและสื่อมวลชนจะมีโอกาสสัมผัสถึงประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ NGT ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่สามารถใช้ได้ทั้งน้ำมันเบนซินและก๊าซธรรมชาติ เช่นเดียวกับรุ่นอื่นๆ เช่น SLK 200 KOMPRESSOR new generation, CLC 200 KOMPRESSOR, B 180 CDI sports new generation and ML 280 CDI sports new generation.
“โปรแกรม Mercedes-Benz Driving Experience เป็นกิจกรรมที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีเป็นประจำทุกปี ซึ่งครั้งนี้นับเป็นปีที่ 6 ที่เราได้จัดกิจกรรมนี้มา ด้วยตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องความปลอดภัย ในปีนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ยังได้จัดกิจกรรมฝึกทักษะการขับขี่ปลอดภัยให้แก่ลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัด เช่น สุราษฏร์ธานี ราชบุรี สมุทรสาคร อุบลราชธานี ขอนแก่น อุดรธานี เชียงใหม่ ฯลฯ” ศ .ดร เพาฟเลอร์ กล่าวเสริม
ผู้ที่เข้าร่วมโปรแกรม Mercedes-Benz Driving Experience ในครั้งนี้จะได้สัมผัสถึงสมรรถนะ ความปลอดภัยและคุณภาพระดับโลกของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ นอกจากนั้นเมอร์เซเดส-เบนซ์มั่นใจว่าสิ่งที่ผู้เข้าร่วมจะได้รับจากกิจกรรมนี้ไม่ใช่แค่คำสัญญาที่จะปกป้องคุณทุกการขับขี่ แต่เรามุ่งที่จะสร้างให้กิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์จากเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างต่อเนื่อง
**************************************************************************
สารฑูล สักการเวช
sarathun@caronline.net
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…