เปิดประสบการณ์สุดขอบฟ้ากับมาสด้า ขับ CX-5 ตะลุย Norway-Finland-Sweden:ผู้หญิงขับรถ Ep:3

เปิดประสบการณ์สุดขอบฟ้ากับมาสด้า ขับ CX-5 ตะลุย Norway-Finland-Sweden:ผู้หญิงขับรถ Ep:3

MAZDA PASSION DRIVE TO THE NEW HORIZON

 

Lulea(Sweden) –Trondheim (Norway) ระยะทาง  810 กิโลเมตร กืโลเมตร

วันที่ 3  ของการขับรถ เราออกเดินทางด้วย มาสด้า cx-5 Skyactive Diesel จากเมือง Lulea Sweden ซึ่งเป็นเมืองที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์อุตสาหกรรมด้านไอทีซึ่งจะตั้งในเขตเมืองใหม่ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่างโบสถ์จะอยู่ในเขตเมืองเก่า

เช้านี้อากาศแจ่มใสมากฝนไม่ตก อุณหภูมิตอนเช้าอยู่ที่ 7 องศาดูจากหน้าปัดของ มาสด้า CX-5

เมือง Lulea ในเมืองยังใช้จักรยานกันเยอะ รถไม่พลุกพล่านมากนัก

เราก็เดินทางกันเป็นขบวน กับมาสด้า CX-5 Skyactive Diesel จำนวน 10 คัน เป็นขบวนคาราวานโดยมีรถนำขบวน 1 คัน คอยบอกเส้นทาง

และเจ้าหน้าที่จากทางมาสด้า แนะนำการใช้อุปกรณ์ในรถ อย่างเข่นการใช้ Cruis Control  ในทางตรงที่ค่อนข้างเยอะในสวีเดน เพื่อรักษาระยะการขับที่ไม่ให้ทิ้งห่างกันมากนัก พร้อมปรับระยะที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า หากรถคันหน้าความเร็วน้อยลง ระบบก็จะลดความเร็วตามรถคันหน้าและรักษาระยะห่างโดยอัตโนมัติ โดยปรับปรับได้จากสวิทช์ที่พวงมาลัย  และระบบจะปรับเข้าสู่ความเร็วเดิมที่กำหนดไว้เมื่อตรวจสอบแล้วว่าไม่มีรถอยู่ข้างหน้า โดยไม่ต้องไปห่วงคันเร่ง

ในสวีเดนถนนจะค่อนข้างกว้างกว่านอร์เวย์ ทางคดเคี้ยวน้อยกว่า บางช่วงเป็นถนนแบบ 4 เลน และเลนเดียวแบบมีที่กั้นกลาง ซึ่งสามารถ ทำความเร็วได้ ประมาณ 110 กิโลเมตรในบางช่วงตามป้ายความเร็ว ซึ่งโดยปกติจะอยู่ที่ 70-90 กิโลเมตร

ระบบในรถหากขับไปนานๆแล้วไม่พักก็จะมีเสียงเตือนให้พัก หรือขับเบี่ยงทับเส้นบ่อยๆ โดยมีสัญญลักษณ์ถ้วยกาแฟและมีเสียงเตือนด้วย แสดงว่าควรหยุดพักได้แล้ว

เส้นทางของสวีเดนสวยงามมีต้นไม้กำลังเปลี่ยนสีและทะเลสาปเกือบตลอดเส้นทาง  แดดดีอากาศหนาว

เราขับมาสักระยะหนึ่งก็จอดเข้าห้องน้ำและเติมน้ำมัน ที่แห่งนี้มีซุปเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ ของในซุปเปอร์เล็กๆแห่งนี้ราคายังถูกว่าที่เมือง Lulea ท่านที่จะซื้อพวกวิตามิน C หรือขนมของขบเคี้ยวขอบอกว่าซื้อฝั่งสวีเดนราคาถูกกว่านอร์เวย์

และเราก็เติมน้ำมันที่นี่ไปเลย

 

ที่สวีเดนนอกจากน้ำมันเบนซิน95 98 และดีเซลแล้ว ก็มี E85 ด้วย

เราก็ออกเดินทางกันต่อไปจากเมือง Savar –ขับไปอีกระยะหนึ่งก็เจอที่พักริมทางพักกินกาแฟ และเข้าห้องน้ำ ห้องน้ำเข้าฟรี กระดาษชำระมีครบถ้วน สะอาดด้วย

 

พักชื่นชมธรมชาติแล้ว เราก็ขับต่อไปเพื่อรับประทานอาหารกลางวันซึ่งมื้อนี้ก็จะเป็นอาหารไทย รสชาติอาจจะไม่ใช่ไทยแท้ แต่ก็ใช้ได้เลย

รับประทานอาหารเสร็จ ดิฉันก็ได้มีโอกาสไปนั่งรถคันที่คุณอุทัย เรืองศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์มาสด้าเป็นคนขับ ไปนั่งกับคุณอุทัยได้รับความรู้มากมายทั้งเรื่องของรถยนต์ทุกเรื่อง และ CX-5คันที่ขับ

นอกจากนี้ยังได้ความรู้เรื่องราว เกี่ยวกับภูมิประเทศของแถบสแกนดิเนเวีย ก็เลยได้โอกาสสัมภาษณ์คุณอุทัย ออกทาง Youtube caronlineradio ไปด้วยเลย

คุณอุทัยเป็นคนพันธ์อึด ขับคนเดียว เกือบ 900 กิโลเมตร แถมยังเปิดเพลงให้ฟังด้วยนะคะ โดยใช้ระบบที่ให้มาในรถนี่แหละเรียกว่า MZR Connect ซึ่งมีปุ่มควบคุม Center Commander อยู่ที่คอนโซลกลางตรงตำแหน่งใกล้มือคนขับใช้งานง่าย เพียงหมุนหาคำสั่งที่ปรากฎขึ้นบนจอตรงกลาง  Center Display เชื่อมต่อออนไลน์ทั้งในเรื่องของระบบเนวิเกเตอร์ โดยจอ Center Display เป็นจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว แสดงเมนูสั่งงานของ MZD Connect  และสามารถตั้งค่าฟังค์ชั่นการใช้งานอื่นๆหรือเรียกดูข้อมูลผ่านระบบสั่งงานด้วยเสียง

คุณอุทัยเลือกเพลงให้ฟังผ่านระบบที่บอกไปด้วย ดิฉันก็เลยได้ฟังเพลงเพราะๆขณะเดินทางผ่านลำโพง Bose 10 ตัว Wowww

ถนนในสวีเดนขับเพลินๆทางเรียบยาวๆ ธรรมชาติสวยงามต้นไม้เปลี่ยนสีบ้างเขียวบ้างสลับกันไป มีทะเลสาปสองข้างทาง

บนหน้าจอ Display ขณะนั้นเวลา 18.30 น. เหลือระยะทางอีก 232 กิโลเมตร จะถึงจุดหมายปลายทางเวลา 21.49 น.อีก 3 ชั่วโมงเลย เพราะเราต้องขับความเร็วตามที่กำหนด

 

ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ด้านหน้าเห็นภูเขามีหิมะบนยอดเขา ฝนลงเบาๆ

 

เราก็จอดเข้าที่พักริมทางที่ ARE  เป็นสกีรีสอร์ทด้วยนะคะที่นี่ มาถึงฝนโปรยปรายที่ไหนได้กลับเป็นหิมะที่เพิ่งลงมา

 

แล้วเราก็ออกเดินทางกันต่อไป ข้างนอกรถหนาวมาก แต่ในรถอุ่นด้วยฮีทเตอร์

อุ่นพวงมาลัย อุ่นเบาะอุ่นที่นั่งสบายมาก

ขับไปสักพักฝนตกหนาเม็ด ขาวไปหมด อีกล่ะคือหิมะไม่ใช่ฝน

ถนนเริ่มมีหิมะปกคลุมแต่ยังไม่มาก เราต้องชะลอความเร็วของรถลง เพื่อความปลอดภัย เพราะยางยังเป็นยางเดิมๆไม่ใช่ยางสโนว์

แต่รถเราเป็นรถแบบ AWD คือระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบอัตโนมัติคือรถจะปรับให้เหมาะสมกับสภาพถนน

สักพักหิมะก็หยุดตก แต่ก็มืดแล้ว

 

 

ระบบไฟหน้าของ CX-5 เป็น แบบ ALH (Adaptive LED Headlamp) คือจะปรับการทำงานของไฟสูงต่ำ แยกอิสระ ซ้าย-ขวา โดยอัตโนมัติ ให้เหมาะสมกับสภาพถนน  ระยะห่างจากตำแหน่งของรถคันหน้าซึ่งต้องห่างพอสมควร หรือรถที่วิ่งสวนมาระบบไฟก็จะปรับลงไม่ไปส่องใส่เค้า เพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ในช่วงกลางคืนให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น และช่วยให้การทำงานของไฟสูงไม่ไปรบกวนคนอื่น ขับกลางคืนเห็นทางชัดเจน

หลังหิมะตก เราก็มีโอกาสได้เห็นแสงเหนือจางๆบนท้องฟ้าอีกแล้ว

เราสิ้นสุดการเดินทางที่สวีเดนเริ่มเข้าเขตนอร์เวย์แล้ว

เมื่อเข้าเขตนอร์เวย์ ไม่มีหิมะเลย แต่เจอฝนแทน

สภาพถนนก็ต่างกันเข้าเขตนอร์เวย์ก็เริ่มขับขึ้นเขา ถนนก็มืด ขับสองเลนสวนค่อนข้างแคบ ยังดีที่ไม่ค่อยมีรถวิ่งสวนทางมา

เรามาถึงที่พักที่เมือง Trondheim ก็ตามเวลาที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอ Display คือประมาณ 22.00 น.

เช็คน้ำมันกันหน่อย ก็ประมาณ 15 กิโลเมตรต่อลิตร

เข้าที่พักก็นอนเลย ไม่ลงไปทานอาหารมื้อค่ำกับพรรคพวกแล้ว เพราะอิ่มมากจากมื้อกลางวันที่ร้านอาหารไทย

วันรุ่งขึ้นเราก็จะออกเดินทางจากเมือง Trondheim ผ่าน Atlantic Road หนึ่งในถนนที่สวยงามที่สุดในโลก ไปยังเมือง Leikanger ระยะทางอีก 580 กิโลเมตร  ติดตามกันนะคะ

ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา

ผู้หญิงขับรถ

 

 

บทความนี้ได้ออกอากาศไปแล้วทาง FM 97.0 เมื่อวันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม 2561

ขอขอบคุณ

บริษัท มาสด้าเซลส์ ประเทศไทยจำกัด

บริษัท ทรานส์เอเซียรูท จำกัด

ภาพโดย กุ๊บกี๊บ เบิ้ม และอีกหลายท่าน

 

Facebook Comments
Thunyaluk Seniwongs

Recent Posts