เปิดตัวครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทย Hilux REVO

มร.เคียวอิจิ ทานาดะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค มาร์เก็ตติ้ง แอนด์เซลส์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และ มร.ฮิโรกิ นาคาจิมะ หัวหน้าวิศวกรอาวุโส เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น พร้อมด้วย นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมแถลงข่าวแนะนำรถกระบะรุ่นใหม่ล่าสุด “ไฮลักซ์ รีโว่” เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2558 ณ ศูนย์แสดงนิทรรศการ ไบเทค บางนา

Hilux Rivo_001Hilux Rivo_013

โตโยต้า เริ่มต้นสายการผลิตรถกระบะขนาด 1 ตัน ออกจำหน่ายครั้งแรกในปี พ.ศ.2511 โดยใช้ชื่อทางการค้าว่า “ไฮลักซ์” ประสบความสำเร็จได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงตลอดระยะเวลาเกือบ 50 ปี

ต่อมาในปี พ.ศ. 2547 โตโยต้า ได้สร้างปรากฏการณ์ ให้กับตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ด้วยการแนะนำรถไฮลักซ์ เจเนอเรชั่นที่ 7 ภายใต้โครงการ “IMV: Innovative International Multi-Purpose Vehicle” ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของโตโยต้าที่มีการย้ายฐานการผลิตรถกระบะขนาด 1 ตัน จากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทย และสร้างปรากฏการณ์ใหม่ของตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าทั่วโลก ด้วยคุณภาพการผลิตมาตรฐานระดับโลก ในด้านสมรรถนะการขับขี่ ความประหยัดน้ำมัน ประโยชน์ใช้สอยและคุ้มค่า สามารถครองใจลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้อย่างเต็มภาคภูมิ

มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กล่าวว่า “นับตั้งแต่การแนะนำรถกระบะไฮลักซ์ เจนเนอเรชั่นที่ 1 ในปี พ.ศ. 2511 รถกระบะไฮลักซ์ ได้จำหน่ายให้แก่ลูกค้ากว่า 16 ล้านคน ในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก จนสามารถกล่าวได้ว่ารถกระบะ ไฮลักซ์ เป็นรถกระบะในดวงใจของลูกค้ามากที่สุดในโลก สำหรับรถกระบะไฮลักซ์เป็นผลิตภัณฑ์หลักของโตโยต้าที่จำหน่ายทั่วโลก ผลิตจากโรงงานโตโยต้า 6 ประเทศ โดยประเทศไทยนับเป็นศูนย์กลางการผลิตที่ใหญ่ที่สุด คิดเป็นสัดส่วนถึง 70 % ของยอดผลิตทั่วโลก
สำหรับประเทศไทย รถกระบะไฮลักซ์ เป็นรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังการแนะนำ เจนเนเรชั่นที่ 7 ในปี พ.ศ. 2547 รถกระบะไฮลักซ์ สามารถครองตำแหน่งแชมป์รถกระบะด้วยยอดขายสะสมภายในประเทศกว่า 1,650,000 คัน ครองอันดับ 1 ในตลาดรถกระบะ 9 ปีซ้อน และรถกระบะไฮลักซ์ที่ผลิตภายในประเทศไทย ยังสามารถสร้างความความภาคภูมิใจให้กับคนไทยภายใต้คุณภาพการผลิตมาตรฐานโตโยต้า ด้วยยอดส่งออกรถยนต์ภายใต้โครงการ IMV กว่า 2,400,000 คัน ทั้งหมดนี้แสดงถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าทั่วโลก ที่มีต่อคุณภาพและสมรรถนะของโตโยต้า ไฮลักซ์ ทำให้เป็นรถกระบะยอดนิยมระดับโลกอย่างแท้จริง”

Hilux Rivo_007
ไฮลักซ์ เจนเนอเรชั่นที่ 8 นี้ นับเป็นความภาคภูมิใจของโตโยต้า ถือได้ว่าเป็นการปฏิวัติทุกมิติของรถกระบะอย่างแท้จริงกับการเปลี่ยนโฉมในทุกตารางนิ้วเพื่อตอบสนองทุกความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าอย่างเหนือความคาดหมาย ภายใต้ชื่อใหม่ว่า Hilux REVO (ไฮลักซ์ รีโว่)”

Hilux Rivo_003

มร.ฮิโรกิ นาคาจิมะ เปิดเผยว่า “ทีมวิศวกรโตโยต้าได้สร้างสรรค์ Hilux REVO ด้วยแรงบันดาลใจในการออกแบบและพัฒนา เพื่อให้ Hilux REVO เป็นรถกระบะผู้กำหนดนิยามใหม่แห่ง “ความแกร่ง” สะท้อนภาพลักษณ์ตามแนวคิด “ยุคใหม่แห่งกระบะ ทุกตารางนิ้วต้องไฮลักซ์” ด้วยเครื่องยนต์ใหม่บนโครงสร้างแชสซีส์ใหม่กับแรงบิดที่สูงขึ้น ลดระดับเสียงรบกวนจากการทำงานของเครื่องยนต์ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง – ระบบเกียร์แบบ 6 สปีดใหม่ที่ช่วยปลดปล่อยศักยภาพของเครื่องยนต์ใหม่อย่างเต็มสมรรถนะ – ระบบกันสะเทือนใหม่ที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น ถูกออกแบบเป็นพิเศษให้เหมาะกับสภาพถนนของประเทศไทยโดยเฉพาะ ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่เฉกเช่นรถ SUV ระดับหรู – ดีไซน์ใหม่ที่แข็งแกร่งและเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ – ระบบความปลอดภัยเหนือระดับกว่ารถรุ่นเดียวกัน”

934Hilux Rivo_016

 จุดเด่น 6 จุดหลัก
• REVOLUTION OF POWER – ปฏิวัติความแรง กว่าที่เคยแรง ด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคต กับเครื่องยนต์ดีเซลระบบคอมมอนเรล เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด (GD Efficient Boost) เพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ ให้แรงบิดสูงสุดในช่วงรอบกว้าง (Flat torque) ครอบคลุมทุกการใช้งานทั้งออกตัวและเร่งแซงแต่ยังประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม เครื่องยนต์ทำงานเงียบ ไอเสียต่ำเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้รับมาตรฐาน Euro 4
• REVOLUTION OF STABILITY – ปฏิวัติความเหนือชั้น ทุกการทรงตัว กับระบบควบคุมช่วงล่างใหม่แบบพลวัต DCS (Dynamic Control Suspension) ที่มาพร้อมระบบกันสะเทือนใหม่และโครงสร้างแชสซีส์ใหม่ FIRM (Frame with Integrated Rigidity Mechanism) ผ่านการทดสอบอย่างทรหดในทุกสภาพถนนทั่วโลก ให้สัมผัสแห่งความแกร่ง แต่คงไว้ซึ่งความนุ่มนวลเฉกเช่นรถ SUV ระดับหรู พร้อมขีดสุดแห่งสมรรถนะการทรงตัว มั่นใจในทุกสถาณการณ์
• REVOLUTION OF CONTROL – ปฏิวัติมิติใหม่ แห่งการควบคุม ระบบเกียร์ธรรมดาอัจฉริยะ iMT 6 สปีดในรถกระบะ ให้ความรู้สึกราบรื่นขณะเปลี่ยนเกียร์ในทุกจังหวะความเร็ว และสัมผัสใหม่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ได้อย่างเหนือชั้น ผสานกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบแอคทีฟและระบบล็อกเฟืองท้าย เพื่อให้การเดินทางราบรื่นในทุกเส้นทาง และช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างยอดเยี่ยม
• REVOLUTION OF STYLING – ปฏิวัติดีไซน์ใหม่ เร้าใจทุกมุมมอง ด้วยดีไซน์ใหม่ของรถกระบะแห่งอนาคตกับรูปลักษณ์แห่งความแข็งแกร่ง ดุดันและทรงพลัง แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์กับเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวและพริ้วไหว ทั้งภายในและภายนอก
• REVOLUTION OF COMFORT – ปฏิวัติความหรูหรา สู่ความสบายที่เหนือกว่า สร้างสัมผัสแห่งยนตรกรรมระดับหรู ด้วยห้องโดยสารขนาดใหญ่ โอ่โถงกว้างสบาย เพียบพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเหนือระดับ สู่ขีดสุดแห่งสุนทรียภาพการขับขี่สมบูรณ์แบบ
• REVOLUTION OF SAFETY – ปฏิวัติระบบความปลอดภัย มั่นใจทุกสถานการณ์ สร้างความอุ่นใจในการขับขี่ เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก ทั้งแบบปกป้อง และแบบป้องกัน

 

IMG_1975

เครื่องยนต์

  • เครื่องยนต์ GD Efficient Boost … ขีดสุดเทคโนโลยีแห่งอนาคตภายใต้แนวคิด “Efficient Boost” เพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ ลดการสูญเสียความร้อนและแรงเสียดทานของเครื่องยนต์ พลิกโฉมยานยนต์ระดับโลก ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลระบบคอมมอนเรล เจเนอเรชั่นล่าสุด จากโตโยต้า ทลายทุกข้อจำกัด ด้วยพลังขับเคลื่อนที่แรงขึ้นอีกขั้น ให้แรงบิดสูงสุดในรอบกว้าง (Flat Torque) ครอบคลุมทุกการใช้งานทั้งในช่วงออกตัวหรือเมื่อเร่งแซง แต่ยังประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม เครื่องยนต์ทำงานเงียบ และสั่นสะเทือนน้อยกว่าพร้อมฟันผ่าทุกอุปสรรค รองรับการใช้งานทุกรูปแบบได้อย่างเต็มสมรรถนะ
  • ระบบเทอร์โบแปรผันใหม่ (VN Turbo) … แรงสุดพลัง แต่ประหยัดสุดขีด เหนือชั้นด้วยระบบเทอร์โบแปรผันใหม่ ออกแบบให้มีขนาดเล็กลงแต่ประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดครีบปรับแรงดันอากาศด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เที่ยงตรงและแม่นยำสูง แรงต่อเนื่องทุกรอบความเร็ว ช่วยให้เครื่องยนต์ปลดปล่อยพลังงานออกมาได้เต็มกำลัง
  • ระบบฉีดน้ำมันอัจฉริยะเทคโนโลยีล่าสุดกับระบบฉีดน้ำมันอัจฉริยะ พร้อมปั๊มแรงดันสูง 220 MPa ฉีดน้ำมันเป็นละอองฝอย เพื่อการเผาไหม้ที่สมบูรณ์แบบหมดจดยิ่งกว่า เพิ่มระดับความประหยัดให้มากยิ่งขึ้น เครื่องยนต์เดินเงียบ ลดเสียงและการสั่นสะเทือนได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมทั้งลดมลภาวะ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  • Roller Rocker Arm with Valve Lash Adjuster … ออกแบบพิเศษเพื่อลดแรงเสียดทานระหว่างลูกเบี้ยวและกระเดื่องวาล์วในจังหวะของการเปิด-ปิดวาล์ว พร้อมระบบปรับตั้งวาล์วอัตโนมัติเพื่อกำจัดช่องว่างของการสึกหรอที่เกิดขึ้น ทำให้ไม่มีการรั่วไหลของไอน้ำมันแม้ใช้งานอย่างยาวนาน ผลลัพธ์คือเครื่องยนต์เดินเงียบ อีกทั้งยังประหยัดน้ำมัน และประหยัดค่าบำรุงรักษาตลอดอายุการใช้งาน
  • EGR (Exhaust Gas Recirculation) … เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยระบบนำไอเสียหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ ช่วยลดความร้อนของเครื่องยนต์ขณะทำงาน ลดมลพิษได้เต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐาน Euro 4
  • ระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Stop & Start System) เมื่อรถหยุดนิ่ง ระบบจะตัดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วขณะ และจะสตาร์ทเครื่องยนต์ขึ้นใหม่โดยอัตโนมัติเมื่อแตะคันเร่ง จึงช่วยให้ประหยัดน้ำมันและลดไอเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในระหว่างที่เครื่องยนต์หยุดการทำงานเครื่องปรับอากาศจะยังคงส่งลมเย็นอย่างต่อเนื่อง

 

 

  • เกียร์ธรรมดาอัจฉริยะ iMT 6 สปีด … ระบบเกียร์ธรรมดาอัจฉริยะ iMT 6 สปีดในรถกระบะ ให้ทุกการขับขี่ง่ายดาย ราบรื่นทุกจังหวะความเร็ว
  • เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด … ขีดสุดแห่งเทคโนโลยีที่ให้แรงบิดสูงในจังหวะรอบต่ำช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับเคลื่อนได้อย่างเหนือชั้น และประหยัดน้ำมันได้อย่างยอดเยี่ยม
  • สวิตช์ปรับรูปแบบการขับขี่ (Drive Mode Switch) … สามารถเลือกรูปแบบสมรรถนะการขับขี่ได้ตามต้องการ ทั้งแบบประหยัด (ECO Mode) และ แบบสมรรถนะสูง (Power Mode) ตอบสนองทุกสภาพการขับขี่
  • สวิตช์ปรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไฟฟ้า Shift-On-The-Fly (4WD Switch) … ช่วยให้ปรับระบบเข้าสู่รูปแบบการขับเคลื่อน 4 ล้อ ได้อย่างสะดวกและง่ายดายขึ้น
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบแอคทีฟ A-TRC (Active Traction Control) … ขีดสุดของการพัฒนาเพื่อการขับขี่สไตล์ Off Road อย่างแท้จริง ระบบจะทำงานผสานกันระหว่างเครื่องยนต์และระบบเบรก เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับได้ว่าล้อใด เริ่มสูญเสียแรงขับเคลื่อนขณะรถวิ่งผ่านพื้นผิวลื่น ระบบ A-TRC จะลดแรงขับที่ส่งไปยังล้อนั้น เพื่อป้องกันล้อหมุนฟรี และเพิ่มแรงขับไปยังล้อที่เหลือ เพื่อให้รถสามารถเคลื่อนที่ต่อไปได้อย่างราบรื่นและง่ายดาย
  • ระบบล็อกเฟืองท้าย (Diff Lock) … ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า เทคโนโลยีสำหรับการฝ่าฟันอุปสรรค มั่นใจได้ว่ารถจะมีแรงฉุดลากที่เหมาะสม สามารถตะลุยผ่านเส้นทางวิบากได้อย่างง่ายดาย

Hilux Rivo_005

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ กล่าวว่า “Hilux REVO เป็นการพลิกโฉมครั้งยิ่งใหญ่ กับรถกระบะที่ถูกพัฒนาเพื่อปฏิวัติโลกยนตรกรรม ทั้งในวันนี้และอนาคต โดยชื่อ Hilux REVO มาจากคำว่า “REVOLUTION” ซึ่งมีความหมายในการพัฒนา ไฮลักซ์ ใหม่ ในทุกมิติ ทุกตารางนิ้ว ผ่านจุดขายหลักทั้ง 6 จุด จึงเป็นที่มาของการสื่อสารทางการตลาด ภายใต้แนวคิด “ไฮลักซ์ รีโว่ ปฏิวัติทุกมิติ แห่งกระบะอนาคต” โดยใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่มุ่งเน้นให้เกิดการรับรู้แบรนด์สูงสุด ด้วยแผนการสื่อสารการตลาดที่ครอบคลุมทุกช่องทาง พร้อมการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ รวมทั้งสื่อดิจิตอลในเว็ปไซต์ เพื่อให้ลูกค้าได้รับทราบข้อมูลอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

Hilux Rivo_015

นอกจากนี้ โตโยต้า ยังได้มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้าเพื่อให้เกิดการรับรู้สูงสุด เริ่มตั้งแต่การจัดกิจกรรมเปิดตัว Hilux REVO อย่างเป็นทางการที่ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ พร้อมงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ใน 4 จังหวัดทั่วทุกภูมิภาค รวมทั้งที่โชว์รูมโตโยต้า 427 แห่งทั่วประเทศ ในวันที่ 22 – 24 พฤษภาคมนี้ ซึ่งเราได้จัดเตรียมรถทดลองขับไว้ให้ลูกค้าทุกท่านได้สัมผัสประสบการณ์ขับขี่กันอย่างทั่วถึง โดยหลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเราจะไปสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้าทุกภูมิภาคให้สัมผัส Hilux REVO ด้วยกิจกรรมคาราวาน “Hilux REVO โชว์ถึงถิ่นทั่วประเทศ”

11162346_1102032813156930_5117301553886284018_n21

ยิ่งไปกว่านั้น โตโยต้าจะเปิดสนามทดลองขับ Toyota ในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งเป็นสนามทดลองขับมาตรฐาน ซึ่งลูกค้าที่สนใจสามารถมาร่วมสัมผัสประสบการณ์ในการขับขี่เพื่อพิสูจน์สมรรถนะกับ Hilux REVO ด้วยตัวคุณเอง

IMG_1993

Hilux REVO มีให้เลือกถึง 3 รุ่น 33 แบบ โดยเพิ่มสายผลิตภัณฑ์ใหม่ในรุ่นมาตรฐานขับเคลื่อน 4 ล้อ เพื่อตอบสนองการใช้งานของลูกค้า ทั้งนี้ Hilux REVO รุ่นดับเบิ้ลแค็บ และรุ่นมาตรฐาน พร้อมส่งมอบให้ทุกท่านเป็นเจ้าของได้ตั้งแต่วันนี้ สำหรับรุ่นสมาร์ทแค็บ สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ตั้งแต่วันนี้ โดยเริ่มทำการส่งมอบได้ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน เป็นต้นไป

IMG_1997

พร้อมกันนี้ Hilux REVO มีสีให้เลือกทั้งสิ้น 7 สี โดยเป็นสีใหม่ด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Nebula Blue สีแดง Crimson Spark Red และสีขาวมุก White Pearl Crystal ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 569,000 บาท พร้อมเป้าหมายการขายที่ 14,000 คันต่อเดือน”

มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมเชื่อมั่นว่า Hilux REVO ใหม่จะเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลักที่จะสามารถกระตุ้นยอดขายตลาดรถยนต์ในประเทศไทยให้ดีขึ้น และเพิ่มยอดขายของ โตโยต้าในปีนี้ นอกจากนี้ประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิตรถกระบะสำหรับส่งออกของโตโยต้า โดยเราคาดหวังว่า รถกระบะ Hilux REVO จะเป็นปัจจัยหลักในการกระตุ้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ดีขึ้น ดังนั้น Hilux REVO จึงไม่เป็นเพียงแค่ความภูมิใจของโตโยต้าเท่านั้น แต่ยังถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยด้วยเช่นกัน”

 

ราคา

IMG_2006

พบกับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Hilux REVO
วันที่ 22 – 24 พฤษภาคม 2558
ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
Hilux Rivo_008765

Facebook Comments