Brand: MERCEDES-BENZ Model: C-Class
Year: 1996 Miles: 60001-80000
From: สมฤกษ์ สุวรรณบูลย์
: c280
รบกวนช่วยเปรียบเทียบ ระหว่างรุ่น C220 กับรุ่น C280 ให้ด้วยครับว่า
รุ่นไหนน่าใช้กว่ากัน และค่า Maintenance ในการเข้าศูนย์เพื่อเช็คระยะทั่วไปทุก 10,000 กม. ค่าใช้จ่ายประมาณครั้งละประมาณเท่าไหร่ครับ
ส่วนค่าใช้จ่าย Maintenanace เมื่อเทียบกับ Toyota Camry แล้วแพงมากกว่ากันมากมั้ยครับ
รถสองคันราคาห่างกันประมาณ 400,000 บาท เป็นของเตนท์ใหญ่แห่งหนึ่งครับ มีข้อสงสัยอยู่นิดนึงคือ ตัว C280 พึ่งจะมาจดทะเบียนปี 2004 วิ่งมา 58,000 กม. เลยไม่ชัดว่าเป็นรถปีไหนแน่แต่เครื่องเป็นฝาดำแล้วครับ
ทาง Sale ตอบคำถามไม่ได้(หรือไม่บอก)ว่าทำไมพึ่งมาจดทะเบียนครับ
คิดว่าควรจะซื้อมั้ยครับ Case นี้
ขอบคุณครับ
สมฤกษ์
ความแตกต่างสำคัญ ระหว่างรถเมอเซเดส เบนซ์ รุ่น C220 กับ C280 นั้น อยู่ที่เครื่องยนต์กับระบบส่งกำลัง ที่ C280 ใหญ่กว่า มีกำลังมากกว่า ให้อัตราเร่งที่ดีกว่า เหนือกว่าด้วยประการทั้งปวง รวมถึงอัตราสิ้นเปลืองที่มากกว่าด้วย
ความแตกต่างภายใน อยู่เพียงแค่การตกแต่ง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกบางอย่างเท่านั้น ผมเองก็จำไม่ได้แล้วว่า แตกต่างกันแถวไหนบ้าง อีกทั้งแต่ละปี รถแต่ละคัน ก็จะมีการตกแต่งเพิ่มเติม ปรับแปลงอุปกรณ์กันอยู่เสมอ
ในปัจจุบันนี้ หาคนที่ตอบได้ทุกยี่ห้อไม่เจอแล้วละครับ ใครจะไปนั่งจดนั่งจำกันหวาดไหว ต้องเป็นผู้ชำนาญการเฉพาะทาง ซึ่งเผอิญผมไม่เลือกเดินทางนั้น จึงขอให้ไปดูเอง หรือเสาะหาข้อมูลทางด้านแคตตาล็อกเอาเองก็แล้วกัน หากต้องการทราบความแตกต่างแต่ละอย่างของอุปกรณ์ภายใน
ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง กับบำรุงรักษา เป็นเรื่องที่ผิดกันนะครับ
การซ่อมบำรุง เป็นการซ่อมที่ใหญ่กว่าของการบำรุงรักษา ที่คงจะมีแค่เปลี่ยนถ่ายของเหลว ปรับโน่นแต่งนี่เล็กเล็กน้อยน้อย ไม่ได้ทำอะไรใหญ่โตถึงระดับเปลี่ยนผ้าเบรกเอาเสียด้วยซ้ำ เรื่องงานเบรกอย่างที่บอก เป็นเรื่องของการซ่อมบำรุง ตรงนี้ ต้องเข้าใจกันเสียก่อนจะเดินทางกันต่อไปในเรื่องค่าใช้จ่ายในการใช้งานรถยนต์
คำที่คุณเลือกใช้ ผมว่าน่าจะหมายความว่า การบำรุงรักษา อันเป็นความหมายด้วยแรกที่ถูกต้องแล้ว คือการดูแลแบบตามระยะเวลา
ทีนี้ การดูแลตามระยะเวลานี่ เขาก็เพียงแค่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ น้ำระบายความร้อน แล้วแต่อย่างไหนจะจำเป็น อันถือเอาระยะทางใช้งานของรถเป็นสำคัญ ซึ่ง คุณคงจะมองเห็นว่า ราคาค่าน้ำมันและน้ำยาเหล่านี้ ของรถยนต์แต่ละคัน ก็ใกล้เคียงกัน จนน่าจะแยกไม่ออกว่า หนึ่งพัน หนึ่งพันสอง หนึ่งพันสาม ห่างกันแค่ไหน อย่างไร ผมจึงต้องตอบว่า ใกล้เคียงกัน จบไปอย่างหนึ่ง
แต่ทีนี้ ที่เราพบว่า อัตราค่าบำรุงรักษา ของแต่ละคราวแต่ละครั้งแต่ละคัน ต่างกันออกไปบางทีหลายพันบาท
นั่น ก็คือค่าซ่อมบำรุง เช่นงานเบรก งานคลัทช์ งานเปลี่ยนหลอดไฟ งานซ่อมมอเตอร์สตาร์ท งานซ่อมแอลเทอร์เนเตอร์ หรืองานอื่นอื่น ในลักษณะของการซ่อมบำรุง ตรงนี้ ตอบไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นผู้ใช้ และไม่ได้เป็นผู้ซ่อม อันจะต้องตัดสินใจกันแค่ละครั้งแต่ละคราวและแต่ละคันไปครับ
ต้องมาดูกันที่ค่าอะไหล่ ที่ก็เห็นจะต้องบอกว่า ของเบนซ์นั้น ราคาหลายอย่างเท่ากับรถญี่ปุ่น ในขณะเดียวกัน หลายอย่างก็สูงกว่ารถญี่ปุ่น ถ้าเลือกรถได้ดี ได้คันที่สมบูรณ์มา การซ่อมบำรุงก็น้อยกว่าได้ หรือเท่ากันได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสภาพรถยนต์ที่คุณเลือกได้ และเอามาใช้งานครับ
ตอบกันอย่างนี้ เป็นการตอบความจริง ไม่ใช่ตอบเอาใจใครทั้งสิ้น อันเป็นลักษณะการตอบปัญหาทางเทคนิคของผมอยู่นานนักหนาแล้ว คุณคงเข้าใจ
เพราะครั้งนี้ ผมได้อธิบายเหตุผลมาหมดแล้ว ถึงการมาของคำตอบ ที่ปกติจะไม่อธิบาย
ก็มาถึงความสงสัยข้อสุดท้ายของคุณ ที่บอกว่า รถจดทะเบียนปีใหม่เกินไป ก็คงจะต้องไปตรวจที่กองทะเบียนเองแล้วละครับ ว่ารถย้ายมาจากไหน อันเป็นการขอเล่มใหม่ หรืออาจจะมีบันทึกไว้ในสมุดจดทะเบียนอยู่แล้ว แต่เผอิญมองข้ามไป เท่านั้นเอง
ส่วนเรื่องควรจะซื้อหรือไม่ ผมขอให้คุณอ่านเรื่องที่ผมเพิ่ง Up-date ให้ในหน้าแรก วันนี้ ดูเอาก่อนก็แล้วกันครับ-ธเนศร์
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…