เบนซ์ แถลงความร่วมมือกับ นิสสัน โดย ลุงอ็อด
เดมเลอร์ หุ้นใหญ่ของ เมอร์เซเดส เบนซ์ แถลงข่าวความร่วมมือเพิ่มเติมกับ เรโนลต์-นิสสัน ในงานแถลงข่าวสำหรับสื่อยุโรป ในงาน ปารีส มอเตอร์ โชว์ ร่วมเป็นพันธมิตร 4 ปี โดย เบนซ์ จะใช้เครื่องยนต์ดีเซล ของ เรโนลต์ สำหรับ เมอร์เซเดส เอส-คลาส และค่ายเรโนลต์-นิสสัน สำหรับรุ่น อินฟินิตี้ จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน ของ เบนซ์ รวมทั้งร่วมกันพัฒนา รถที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองในอนาคต โดย ซีอีโอนิสสัน คาร์ลอส โกสท์ Carlos Ghosn ร่วมกับ ซีอีโอเดมเลอร์ ไดเตอร์ เซสท์ Dieter Zetsche ร่วมกันแถลง
ความร่วมมือของทั้งสองค่าย พิจารณาจากพื้นฐานด้านการเงิน ที่จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งคู่ โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นด้านใด โดยที่แต่ละฝ่ายไม่จำเป็นต้องใช้เงินในการลงทุนพัฒนาด้วยตนเองเพียงฝ่ายเดียว ใช้วิธีแลกเปลี่ยนทางด้านเทคนิคซึ่งกันและกัน เท่านั้น
ความเป็นหุ้นส่วนกันเริ่มต้นเมื่อปี 2553 โดยร่วมกันพัฒนาโครงการใน 3 ด้าน และเพิ่มเป็น 12 โครงการในเวลาต่อมา รวมทั้งโครงการสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ใน อากวัสกาเลียนเตส Aguascalientes ทางตอนกลางของเม็กซิโก โดยผลผลิตยานยนต์รุ่นแรกที่ร่วมกันพัฒนาและออกสู่ท้องตลาดแล้ว คือ เรโนลต์ ทวิงโก้ ที่ออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายน และรถรุ่นใหม่ของ สมาร์ท ทั้งรุ่นสองที่นั่ง และรุ่นสี่ที่นั่ง ออกจำหน่ายแล้วเช่นกัน
ปัจจุบัน เรโนลต์ เริ่มส่งมอบเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร ให้กับ เบนซ์ เพื่อติดตั้งในรุ่น ซี-คลาส และรถตู้ วีโต้ เพื่อจำหน่ายในยุโรป แต่ยังไม่ส่งไปจำหน่ายในอเมริกา เพื่อตัดปัญหาชิ้นส่วนอะไหล่ เนื่องจากสามารถหาได้ง่ายกว่า ขณะเดียวกัน เรโนลต์ ก็ส่งมอบเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตร และ 3 สูบเทอร์โบ สำหรับรถ สมาร์ท ส่วนเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบ 2.0 ลิตร ที่ร่วมกันพัฒนา จะใช้ในรถซีดาน อินฟินิตี้ คิว50 และ เมอร์เซเดส เบนซ์ ซี-คลาส
ซีอีโอ ทั้งสองค่าย กล่าวว่า ความร่วมมือของทั้งคู่ ไปได้ดีกว่าที่คาดไว้ โดยผู้บริหารทั้งสองฝ่ายต่างร่วมกันพิจารณาโครงการ อย่างไม่มีความบาดหมางใดๆ เพราะทราบดีว่า แต่ละโครงการ จะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาด้วยตัวเองอย่างมหาศาล โดยไม่มีการซุกซ่อนสาระใดๆ เอาไว้ โดย โกสท์ ใช้คำพูดว่า “ทุกสิ่งอยู่บนโต๊ะ” “Nothing is off the table”
ในอนาคตอันใกล้ ทั้งคู่ ต่างพิจารณาที่จะร่วมมือกันในโครงการ ยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยตนเอง ที่ เมอร์เซเดส เบนซ์ ได้ริเริ่มพัฒนา และประสบความสำเร็จในบางส่วนไปแล้ว โดยยืนยันว่า การเป็นหุ้นส่วนกันนี้จะยังคงอยู่ต่อไป แม้ว่า ซีอีโอ แต่ละฝ่าย อาจเปลี่ยนแปลงตำแหน่งก็ตามที