“งานกู๊ดวู๊ด เฟสติวัล เป็นสถานที่เปิดตัว จีที-อาร์50 ที่นิสสัน พัฒนาร่วมกับ อีตัล ดีไซน์ ได้อย่างยอดเยี่ยม” อัลฟองโซ่ อัลไบซ่า Alfonso Albaisa รองประธานอาวุโสด้านการออกแบบของนิสสัน กล่าว
หากรถรุ่นพิเศษนี้ ขึ้นสายการผลิตจริง ราคาจะเริ่มต้นราวคันละ 1 ล้านเหรียญ หรือราว 30 ล้านบาท ในขณะที่ราคารถ จีที-อาร์ รุ่นธรรมดา ราคาเพียง 177,185 เหรียญ ราว 5,315,550 บาท แต่หากเป็นรุ่นพิเศษ จีที-อาร์50 ราคาจะเริ่มต้นที่ 900,000 ยูโร ราว 36,000,000 บาท หรือแพงกว่าเกือบ 6 เท่าทีเดียว
อีตัล ดีไซน์ ใช้รถ จีที-อาร์ นิสโม่ นำมาพัฒนา โดยการลดความสูงหลังคาลง และออกแบบกระจกด้านหลังใหม่ให้เรียวลง ไปส่องสว่างปรับเป็นแนวเรียว และใช้รูปทรงของดาบซามูไร samurai blade มาเป็นกระจังหน้า โดยมีโลโก้ จีที-อาร์ อยู่กึ่งกลาง พ่นด้วยสีเทาดำ Liquid Kinetic Gray แต่งแต้มด้วยสีทอง Energetic Sigma Gold
ภายใน นักออกแบบยังคงใช้สีทอง เสริมแต่งตามจุดต่างๆ พร้อมเบาะหนัง อัลคานทารา เสริมด้วยคาร์บอน ไฟเบอร์ และแผงหน้าปัดแบบดิจิตัลจากรถแข่ง
ข้อมูลทางเทคนิคก็มีเปลี่ยนแปลงไป โดยยกเอาเครื่อง จีที3 หร้อมเทอร์โบ มาจากรถแข่ง เป็นเครื่อง วี6 3.8 ลิตร ให้กำลัง 710 แรงม้า แรงบิด 575 ฟุตปอนด์ มากกว่ารถมาตรฐาน จีที-อาร์ นิสโม่ ที่ให้กำลังเพียง 600 แรงม้า แรงบิด 481 ฟุตปอนด์ เท่านั้น
ส่วนตัวถังด้านนอก อีตัล ดีไซน์ ขึ้นรูปใหม่ ซึ่งหากผลิตเพิ่มอีก 50 คันจริง ก็ทำให้การขึ้นรูปตัวถัง ซึ่งผลิตด้วยมือ จะมีราคาแพง ทำให้ตัวรถแพงขึ้นไปด้วย
นอกจากนี้ยังมีการปรับแต่งช่วงล่าง และเบรกเพิ่มขึ้น แต่นักข่าวก็ยังสงสัยว่า รถราคาแพงกว่ารถมาตรฐานถึง 6 เท่า จะสามารถขายได้หรือเปล่า แม้ว่าจะผลิตเพียง 50 คัน ก็ตามที
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…