เซม่า โชว์ (2)

มาต่อกันอีกวัน รายการ เซม่า โชว์ จาก ลอส แอนเจลิส รอบนี้นำเสนอ มาสด้า ส่ง เอ็มเอ็กซ์-5 สไปเดอร์ และ เอ็มเอ็กซ์-5 สปีดสเตอร์ มาโชว์สำหรับคอความเร็วโดยเฉพาะ โดย สไปเดอร์ ออกในแนวรถโบราณด้วยสีเงิน และหลังคาผ้าใบสีนำ้ตาล พร้อมกะทะล้อ 17 นิ้ว และอุปกรณ์ตกแต่ง ทั้งกระจังหน้า ครอบหน้า ทำจาก คาร์บอน ไฟเบอร์ พร้อมภายในเบาะหนัง

ขณะที่ สปีดสเตอร์ มาแบบรถแข่งสมัยโบราณ ไม่มีหลังคาหรือกระจกมองข้าง มีแต่โครงรับพนักพิงศีรษะคู่ ซ้าย-ขวา เปิดรับอากาศเต็มที่ แต่มีจุดรับลมเล็กๆ ด้านบนแผงหน้าปัด เพื่อช่วยให้สามารถอ่านหน้าปัดได้ง่าย ความสูงจากพื้นเพียงนิ้วเดียว พร้อมคอยล์ที่ปรับแต่งได้ กะทะล้อ 16 นิ้ว ท่อไอเสียกลาง ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ช่วยให้ลดนำ้หนักรวมลงไปได้ถึง 400 กก.

รถทั้งคู่ พื้นฐานมาจาก เอ็มเอ็กซ์-5 ไมอาต้า รุ่นปี 2016 ด้วยสโลแกนประจำตัวที่ว่า น้ำหนักบา, ขับสนุก และโรดสเตอร์ เครื่องยนต์ สกายแอคทีฟ 4 สูบ 2.0 DOHC 16 วาล์ว พร้อม วีวีที ทั้งคู่ แต่ข่าวร้ายสำหรับคอความเร็ว ที่ว่ารถทั้งสองคันนี้ทำมาโชว์เฉยๆ ไม่คิดจะขึ้นสายการผลิตแต่อย่างใด

ตามมาด้วยค่าย โตโยต้า ที่ขนรถมาโชว์มากมาย มาดูแค่รถเด่นที่อิงหนังโด่งดังของอเมริกา จากภาพยนตร์ เจาะเวลาหาอดีต ที่ ด็อค และ มาร์ตี้ ใช้ขับข้ามเส้นแบ่งเวลาโลกด้วยประตูปีกนก โตโยต้า ก็จับเอา มิราอิ มาพัฒนาให้เป็นประตูปีกนก ด้วยเครื่องยนต์เชื้อเพลิงฟูอัลเซลส์ และมอบให้ เอ็มวี ดีไซน์ ปรับโฉมให้เข้ากับรถในภาพยนตร์ เลยได้ประตูปีกนกมาสองบาน ระบบรองรับด้วยถุงลม กะทะล้อ 19 นิ้ว ไปแอลอีดี สีนำ้เงิน พร้อมตกแต่งอลูมิเนียม มีประจุไฟฟ้าติดตั้งอยู่ด้านหลัง ให้เกือบเหมือนรถในหนังเลยทีเดียว แถมจดทะเบียนแคลิฟอร์เนีย ในชื่อ OUTATIME อีกต่างหาก

นอกจากนั้นยังมี ทาโคม่า ตกแต่งแบบในหนังออกโชว์อีก โดยใช้รถรุ่นล่าที่เพิ่งออกจำหน่าย ในแบบ 4×4 อีกด้วย

อีกเจ้าหนึ่งเป็น ฮอนด้า ที่กำลังจะเปิดโรงงานใหม่ เรานำเสนอ ริดจ์ไลน์ ตัวแข่งสำหรับงาน บาจา 1000 ไปแล้ว แต่ยังมีอีกตัวหนึ่ง สดๆ ร้อนๆ ที่เก็บเงียบ โดยการนำเอารุ่นล่าสุดของบ้านเรา เฮชอาร์-วี มาแต่งในแนวรถเรซซิ่ง พรั่งพร้อมด้วยไฟแอลอีดี การ์ดห้องเครื่อง กันชนเตรียมรับแรงกระแทก พร้อมยางออฟโรด เตรียมสู้ศึก

โดย ฮอนด้า ต้องการแปลงโฉม เฮชอาร์-วี ว่าสามารถตกแต่งได้หลากหลายแบบ จากรถปกติ