ค่ายนำ้มันยักษ์ใหญ่ เชลล์ ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ได้ร่วมมือกับ กอร์ดอน เมอร์เรย์ Gordon Murray อดีตนักออกแบบรถฟอร์มูล่า วัน ของ แมคลาเรน ในการพัฒนารถซิตี้คาร์ รหัส ที25 T25 ซึ่งเคยนำเสนอในฐานะรถต้นแบบเมื่อปี 2553 ที่ออกแบบเพื่อเป็นแนวทางสำหรับรถซิตี้คาร์ ควรจะต้องมีฟังก์ชั่นหรืออุปกรณ์เพื่อการใช้งานในตัวรถที่เหมาะสม เท่าที่จำเป็นในการใช้งาน
เชลล์ ร่วมมือกับ เมอร์เรย์ และ อดีตวิศวกรที่ออกแบบเครื่องยนต์สำหรับ ฮอนด้า ในการแข่ง เอฟ วัน โอซามุ โกโตะ Osamu Goto เพื่อพัฒนารถในขนาดที่เหมาะสม ด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน มีกำลังพอควร สำหรับการใช้งานภายในเมืองใหญ่ โดยจากภาพร่างที่เปิดเผย ยังยึดติดกับซิตี้คาร์ ที25 รถ 3 ที่นั่งเครื่องยนต์วางหลัง ที่พัฒนาให้ใช้วัสดุสังเคราะห์สมัยใหม่ ทดแทนโครงสร้างแบบเดิม ที่ยังใช้เหล็กในการทำตัวรถอยู่
โครงการนี้ใช้ชื่อว่า โพรเจ็ค เอ็ม โดยรถคันต้นแบบเตรียมเผยโฉมในเดือนพฤศจิกายน นี้ และจะทดสอบการใช้งานต่อไป แต่ยังไม่มีแผนงานแน่นอนที่จะเข้าสู่สายการผลิตได้เมื่อใด ตั้งเป้าหมายที่จะจำหน่ายในตลาดเกิดใหม่ อย่างเช่น อินเดีย ให้ได้มียานพาหนะราคาถูก สำหรับการใช้งานขนส่ง หรือเพื่อการเดินทางสำหรับมวลชน
เป้าหมายของโครงการนี้ เชลล์ ต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์นำ้มันหล่อลื่น ชนิดความฝืดตำ่ เพื่อช่วยให้สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้เพิ่มขึ้น 6.5% และมีแผนจะแนะนำในการแข่ง เชลล์ อีโค่-มาราธอน ที่ ดีทรอยต์ โดยผลิตภัณฑ์ตัวจริงจะออกสู่ตลาดได้ในเดือนพฤศจิกายน
การผลิตเจ้า ที25 จะใช้แนวทางการผลิตแบบใหม่ ในชื่อ ไอสตรีม iStream เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการลงทุน เนื้อที่ของโรงงาน และพลังงานที่ใช้ในการผลิต เพื่อให้ได้ยานยนต์ขนาดเล็ก ขับสนุก ให้ความประหยัด นำ้หนักราว 575 กก. 3 ที่นั่ง คนขับนั่งหน้า ผู้โดยสาร 3 คนนั่งหลัง และจะเล็กกว่ารถขนาดเล็กในปัจจุบัน อย่าง สมาร์ท ฟอร์ทู หรือ โตโยต้า ไอคิว ด้วยความยาว 240 ซม. กว้าง 130 ซม. สูง 140 ซม. ที่จะสามารถเข้าจอดในช่องจอดรถปกติขนานกับขอบทางได้ 3 คัน
ระบบรองรับด้านหน้าและหลังแยกจากกัน ออกแบบให้ขับเคลื่อนล้อหลัง เครื่องยนต์วางหลังขับหลัง 3 สูบ 660 ซีซี. ให้กำลัง 51 แรงม้า แรงบิด 42 ฟุตปอนด์ เกียร์ 5 สปีด แบบไม่ใช้คลัทช์ ทำความเร็วสูงสุด 145 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 ภายใน 16.2 วินาที ค่าไอเสียระดับ 86 กรัม/กม. สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 74 ไมล์/แกลลอน
เมอร์เรย์ เชื่อว่า รายละเอียดทางเทคนิคที่ได้จากการแข่งขัน ฟอร์มูล่า วัน จะช่วยให้ได้โครงสร้างของวัสดุสังเคราะห์ที่แข็งแรง และมีความปลอดภัยเพียงพอ โดยค่ามาตรฐานการชนจะทำให้ได้เทียบเท่ารถในกลุ่ม บี-เซ็กเมนต์ อย่าง ฟอร์ด เฟียสต้า หรือ มินิ แต่ก็ยังไม่มีแผนงานการผลิตเพื่อจำหน่ายใดๆ ทั้งสิ้น