จากค่ายญี่ปุ่น มิตซูบิชิ นำเสนอรถต้นแบบไฮบริด ไฟฟ้า เอ็กซ์อาร์ พีเฮชอีวี ทู XR PHEV II ที่จะสามารถขึ้นไลน์ผลิตได้ภายในทศวรรษนี้ หลังจากออกรุ่นแรกมาแล้ว ต้องเอามาปรับหน้าตากันใหม่ เพื่อเตรียมขึ้นสายการผลิตให้ได้ ดูหน้าตาแล้วไปเหมือนกับค่ายอื่นอีกหลายเจ้า แต่ปรับส่วนในห้องโดยสารค่อนข้างมาก
เครื่องยนต์เบนซินวางหน้า ขับล้อหน้า เอาไว้ยืดระยะทาง แต่ยังไม่บอกขนาด แต่ของรุ่นแรกเป็นเครื่อง 1.1 ลิตร 132 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลัง 161 แรงม้า มีค่าไอเสียเพียง 40 กรัม/กม. โดยจะเป็นรุ่นต้นแบบและใช้ในรุ่นอื่นๆ ในอนาคตข้างหน้า ตั้งเป้าผลิตรถไฮบริดให้ได้ 20% ภายในปี 2020
ต่อด้วยค่าย นิสสัน เป็นรถต้นแบบในชื่อ สเวย์ Sway หน้าตาแปลกๆ ที่จะมาแทนที่ ไมคร่า Micra ในกลางปีหน้า โดยเรียกตัวเองเป็น ซูเปอร์มินิ หลังส่งรถหน้าตาแปลก แคชไคว และ จู๊ค ออกตลาดมาก่อนหน้านี้ โดยจะเป็นแนวทางการออกแบบที่จะใช้ในอนาคต กระจังหน้าทรงตัว วี ไฟส่องสว่างทรงเรียว แถมมองเกือบไม่เห็นเสาหลัง เส้นสายไล่ตั้งแต่ด้านหน้าไปจนจรดหลัง แบบเดียวกับรถหลายรุ่นในเครือ เรโนลต์-นิสสัน อย่าง เรโนลต์ แคปทัวร์ หรือ อินฟินิตี้ คิวเอ็กซ์30
ภายใน ดูเรียบง่าย หน้าปัดวงกลมสองวง จอควบคุมขนาดใหญ่ หลังคาแก้ว ขนาดตัวรถใหญ่กว่ารุ่นเดิมเล็กน้อย แต่เตี้ยกว่า
ต่อมาด้วยซูเปอร์คาร์ ปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์เอส ตัวแรง 6 สูบ 4.0 ลิตร 493 แรงม้า ขยับจากความจุ 3.8 ลิตรเดิม เกียร์ออโต้ พีดีเค 7 สปีด พร้อมชุดแต่งสำหรับรถที่ต้องการลงสู่สนามแข่ง ที่ทำให้ทำความเร็วในสนามเนอร์เบิร์กริง ได้เร็วกว่ารุ่น คาร์เรร่า จีที จากเทคโนโลยีที่ลงสู่สนามแข่งมานาน โดยเพิ่มความกว้างช่วงล้อเล็กน้อย สามารถทำ 0-100 ได้ภายใน 3.3 วินาที และทำความเร็ว 200 ได้ภายใน 10.9 วินาที
ภายนอก ปรับหน้าตาเล็กน้อย แต่ยังคงหน้าตาเป็นเจ้าชายกบ เหมือนเดิม ขยายความกว้างช่องรับลม สปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ แบบยึดตัว ทำจาก คาร์บอน ไฟเบอร์ ส่วนภายใน ขอยืมเบาะนั่งทรงสปอร์ต มาจากรถไฮบริด 918 สไปเดอร์ เข็มขัดนิรภัย 6 จุด พร้อมถังดับเพลิง ติดตั้งแบบมองเห็นได้ทันที พร้อมแอพพลิเคชั่นสำหรับสมาร์ทโฟน ที่จะทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลของตัวรถได้ง่าย พร้อมส่งมอบถึงมือลูกค้าได้ในเดือนพฤษภาคม ปีหน้า ด้วยราคาค่าตัวหย่อน 4 ล้านบาทเล็กน้อย
จอดอยู่คู่กันในบู๊ธ เป็นรุ่นน้องของ จีที3 ชื่อรุ่น เคย์แมน จีที4 พร้อมชุดแต่งแอโรไดนามิค ที่สามารถลงสนามแข่งได้เช่นเดียวกับรุ่นพี่ เพื่อช่วยเพิ่มแรงกดด้านหลัง แต่คันนี้ขอเอาไว้ขับบนท้องถนนกลับบ้านด้วย หน้าตาก็คล้ายกับรุ่นพี่ เพียงแต่สปอยเลอร์หลัง ลดขนาดลงมาหน่อย พร้อมเบรกคาร์บอน เซรามิค เป็นอุปกรณ์เสริม แต่กะทะล้อมาตรฐานที่เห็น 20 นิ้ว ส่วนช่วงล่างเตี้ยกว่ารุ่นปกติ 30 มม.
เครื่องยนต์เอามาจาก คาร์เรร่า เอส 6 สูบเรียง 3.8 ลิตร 380 แรงม้า เพิ่มควาจุจากรุ่นเอม 0.2 ลิตร แต่ได้ม้าเพิ่มขึ้นมา 45 ตัว ที่ 7,400 รอบ มีเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้เลือก เพิ่มจาก ออโต้ พีดีเค ทำ 0-100 ได้ภายใน 4.4 วินาที ความเร็วสูงสุดเพิ่มเป็น 295 กม./ชม. แต่ค่าไอเสียลดได้หน่อย 238 กรัม/กม. ด้วยค่าตัวหย่อน 2 ล้านบาทเล็กน้อย