ตามมาด้วยซูเปอร์คาร์อีกรุ่น แมคลาเรน นำเสนอ 675แอลที คู่ต่อกรของ เฟอร์รารี่ 458 สเปเชียล พัฒนามาจากรุ่น 650เอส ที่พัฒนาจนได้นำ้หนักเบาขึ้น ตั้งเป้าประกอบเพียง 500 คัน ราคาขายเพียงคันละ 7,785,000 บาท โดยทีมงานที่พัฒนารถรุ่นนี้ เรียกชื่อเล่นว่า หางยาว Longtail เพราะใส่สปอยเลอร์ขนาดใหญ่ แถมยื่นออกมาข้างหลังกลายเป็นหางไปด้วย รวมทั้งพัฒนาเพื่อให้วิ่งในสนามเท่านั้น
กันชนหน้า และส่วนรับอากาศช่องรับลมขนาดใหญ่คู่หน้า ทำด้วยคาร์บอน ไฟเบอร์ ส่วนสปอยเลอร์หลัง ช่วยดักลมให้กดลงบนตัวถัง ใหญ่กว่าเดิมถึง 50% โครงสร้างตัวถังพัฒนาโดยใช้คาร์บอน และอลูมิเนียม ช่วยลดนำ้หนักลงได้ถึง 100 กก. เช่นเดียวกับระบบคายไอเสีย ที่ใช้ไททาเนียม ทำให้นำ้หนักรวมลดเหลือ 1,230 กก. เบากว่า 458 สเปเชียล ถึง 60 กก.
เครื่องยนต์ วี8 3.8 ลิตร เทอร์โบคู่ ได้แรงม้าเพิ่มจาก 641 เป็น 666 แรงม้า แรงบิดเพิ่มเป็น 700 นิวตันเมตร ที่คุยว่า ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์มากกว่าครึ่ง เปลี่ยนมาใช้วัสดุรุ่นใหม่ ทั้งเทอร์โบ ระบบคายไอเสีย และหัวลูกสูบที่ช่วยเพิ่มกำลังอัด ทำความเร็ว 0-100 ได้ภายใน 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 330 กม./ชม. แต่ที่น่าสนใจเป็นความเร็วที่ 0-200 ทำได้ลดลงจากเดิม 8.4 วินาที เหลือเพียง 7.9 วินาที
เอ็มตัวต่อไปเป็น เมอร์เซเดส เบนซ์ ที่นำเสนอรถหลายรุ่น ตั้งแต่ เอ็ม-คลาส เอ็มแอล ไฮบริด ไฟฟ้า ที่มีภาพสปายช็อตมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เพิ่งนำคันจริงมาโชว์ในงาน คาดว่าจะใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ มาจากรุ่น ซี350 พีเฮชอีวี หรืออาจเป็น วี6 3.0 ลิตร จากรุ่นเอส500 ปัจจุบัน มาใช้งาน เพราะตัวเลขประหยัดเชื้อเพลิงทำได้ถึง 100 ไมล์/แกลลอน ภาพสปายช็อตที่นำเสนอนี้ มาจากสนามเนอร์เบิร์กริง ระหว่างชาร์จไฟอยู่
ถัดมาเป็นรุ่น ซีแอลเอ ชู๊ตติ้งเบรก ที่วางตลาดแล้ว หลังเก็บความลับจนลือกันทั่วประเทศเยอรมันเมื่อปีก่อน ที่บ้านเราก็ได้เห็นหน้าตาแบบนี้กันแล้ว กระโปรงหน้าขนาดยาว กระจังหน้าลายตะแกรงพร้อมโลโก้ดาวสามแฉกขนาดใหญ่ ที่คุยว่าพื้นที่ของผู้โดยสารด้านหลังมีเหลือเฟือ ประมาณว่าใหญ่กว่ารถคูเป้เสียด้วยซ้ำ
มีเครื่องยนต์ให้เลือกแบบเดียวกับรุ่นคูเป้ โดยรุ่น 250 4เมติค ขับเคลื่อนสี่ล้อ 208 แรงม้า จะพัฒนาโดย เอเอ็มจี ขณะที่รุ่นซีดีไอ 220 4เมติค ในชูตติ้งเบรก จะออกสู่ตลาดเดือนกันยายน ปีหน้า ส่วนคันที่เห็นนี่ออกจำหน่ายเรียบร้อยแล้ว
อีกคันเป็น ซี-คลาส ไฮบริด ไฟฟ้า ซี350 เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 279 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตันเมตร วิ่งด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวได้ 30 กม. มีให้เลือกทั้งรุ่น ซาลูน และ เอสเตท โดยมีค่าไอเสียเพียง 48 กรัม/กม. ขณะที่รุ่นซาลูน ทำ 0-100 ได้ภายใน 5.9 วินาที ส่วนรุ่นเอเตท ช้ากว่า 0.3 วินาที
เทคโนโลยีทันสมัยก็มี ระบบขับเคลื่อนชาญฉลาด intelligent drive system ที่จะคำนวณสถานการณ์จราจรรอบข้าง และขับเคลื่อนตัวรถเองให้มีประสิทธิภาพและประหยัดเชื้อเพลิงมากที่สุด, ระบบช่วงล่างถุงลม, ระบบเบรกเมื่อฉุกเฉิน และระบบหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ หรือการชน และยังมีระบบปรับอุณหภูมิภายในรถให้เหมาะสม ก่อนที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารจะขึ้นไปบนรถ
เอ็มถัดไปเป็น มินิ นำเสนอรุ่นพิเศษ พาร์คเลน Park Lane ใส่สปอยเลอร์ให้กับรุ่นครอสโอเวอร์ คันทรี่แมน เตรียมออกขายในเดือนกรกฎาคม นี้ เปลี่ยนกะทะล้อเป็นขนาด 18 นิ้ว พร้อมตกแต่งภายนอกรอบคัน ไปตัดหมอก แอลอีดี มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 4 สูบ เบนซินและดีเซล ทั้งรุ่นขับสอง และขับสี่ หรือหากต้องการใช้เครื่องจาก คูเปอร์ เอส เทอร์โบ 189 แรงม้า ก็สามารถทำได้