วอลโว่ พัฒนาเครื่องยนต์ ไดร๊ฟ-อี Drive-E เบนซินสี่สูบ 2.0 ลิตร ด้วยการเพิ่มเทอร์โบ เป็น 3 ตัว คาดหวังว่าจะได้กำลังไม่น้อยกว่า 450 แรงม้า และหากเจ้าเครื่องยนต์ไฮเพอร์ฟอร์มแมนซ์ High Performance สามารถให้กำลังได้เกินกว่า 225 แรงม้า ต่อความจุ 1,000 ซีซี ก็จะกลายเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในโลก
ค่ายวอลโว่ พัฒนาเครื่องยนต์สี่สูบ ไดร๊ฟ-อี ที่อยู่ในสายพานการผลิตปัจจุบัน เพื่อหาทางเพิ่มสมรรถนะจากเครื่องยนต์ นอกเหนือจากการพัฒนายานยนต์ที่ใช้ระบบไฮบริด ที่ทำกันอยู่ในปัจจุบัน
เครื่องยนต์ไฮเพอร์ฟอร์มแมนซ์ ไดร๊ฟ-อี ใหม่นี้ พัฒนาทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล ใช้เทอร์โบชาร์จคู่ ทำงานขนานกัน และป้อนเชื้อเพลิงด้วยเทอร์โบไฟฟ้า ตัวที่สาม ที่มีหน้าที่อัดอากาศและป้อนให้กับเทอร์โบคู่ ที่ทำงานป้อนเข้าไปในห้องเผาไหม้ เพื่อลดอาการ เทอร์โบ แล็ก เชื้อเพลิงถูกป้อนเข้าไปในห้องเผาไหม้ ด้วยปั๊มคุณภาพสูง ด้วยแรงอัดมากถึง 250 บาร์ และผสมกับอากาศอัดจากเทอร์โบคู่ ทำให้เกิดมวลของเชื้อเพลิงทรงพลัง ที่จะระเบิดในห้องเผาไหม้
วอลโว่ กล่าวว่า ผลของการทำงานที่แม่นยำของเครื่องยนต์ 3 เทอร์โบ นี้ ไม่เพียงได้กำลังออกมาเพิ่มขึ้น จากความจุของเครื่องยนต์ขนาดเล็กเพียง 2 ลิตร เท่านั้น แต่ยังได้การตอบสนองของเครื่องยนต์ที่แม่นยำ และสามารถลดน้ำหนักเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเครื่องยนต์ทรงพลังทั้งหลาย
เครื่องยนต์ตระกูล ไดร๊ฟ-อี ที่พัฒนาขึ้นครั้งแรกนั้น จุดประสงค์เพื่อให้เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ ที่ก้าวหน้าสุดในอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งจากค่าการปล่อยไอเสีย และความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ที่สัมพันธ์กับพลังของการขับเคลื่อนที่ได้ออกมา แม้ว่าวอลโว่ จะสามารถได้กำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน ถึง 320 แรงม้า แต่การพัฒนาเพิ่มขึ้น จนได้กำลังจากเครื่องต้นแบบ ไดร๊ฟ-อี ถึง 450 แรงม้า ต้องนับว่าเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ทีเดียว
วอลโว่ ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดของเครื่องยนต์ 3 เทอร์โบ 450 แรงม้า นี้ แต่หากขึ้นสายการผลิตเมื่อใด ก็จะนำไปใส่ในรถตระกูล วี40 จนถึงรุ่นใหม่อย่าง เอ็กซ์ซี90 ที่เพิ่งออกจำหน่าย โดย วอลโว่ จะเพิ่มโลโก้ โพเลสตาร์ Polestar หรืออักษร อาร์R บนฝาเครื่อง เพื่อแสดงว่าเป็นเครื่องรุ่น 3 เทอร์โบ
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…