Brand: MITSUBISHI Model: Lancer
Year: 1995 Miles: 0-5000
From: Phasuthorn Banrungphuej
รถมิตซูแลนเซอร์ 95 เกียร์ออโต้ มีอาการเครื่องดับ แอร์ทำงานไม่ปกติในบางครั้ง
เคยดับเมื่อสิงหาคม 1 ครั้ง เอาเข้าศูนย์ เขาเปลี่ยนสายหัวเทียนให้
และมาเป็นอีกที ตุลาคมเวลากลางคืน คือขับมาใกล้จะถึงที่หมาย พอรถขึ้นหลังเต่า
ลงมาก็ดับทันที สตาร์ท ขับมาอีกนิดจะถอยหลังจอด พอเข้าเกียร์ก็ดับอีก
ตอนเช้าเลยเอามือดันสายหัวเทียนที่ติดกับจานจ่ายให้แน่นขึ้น เพราะรู้สึกว่าต่อไม่สุด
หลังจากนั้นก้เป็นปกติ ยกเว้นอาการแอร์ทำงานไม่ปกติ คือ เดี๋ยวติด เดี๋ยวตัด
ทำให้รอบเครื่องสวิงเวลาแอร์ทำงาน
และในช่วงสัปดาห์นี้เกิดอาการเครื่องดับอีกแล้ว และบ่อยมาก
โดยเกิดเมื่อตอนเข้าเกียร์ถอยหลังแล้วดับ 2 ครั้ง ขับรถมาแต่ไกลแล้วชะลอความเร็ว
ก็เกิดเครื่องดับ 2 ครั้ง
บางครั้งจอดติดไฟแดงเฉยๆ อยู่ๆก็ดับไปเลยเหมือนเราปิดสวิตกุลแจ และบางครั้งเราขับอยู่
รถมันก็ทำท่าจะดับ ทั้งๆที่ขับโดยความเร็วประมาณ 40 กม/ชม แบบว่ากระตุก
แล้วเครื่องก็ติดตามเดิม อาการคล้ายๆแบบนี้ผมเคยเป็นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
ศูนย์เค้าเคยซ่อมจานจายให้
หัวเทียนเคยเปลี่ยนเมื่อ 2 หมื่นกิโลที่แล้ว กรองเบนซินก็เมื่อกลางปี
-เมื่อเกิดปัญหาก็เอาเข้าศูนย์บริการ ตรวจเช็ค ช่างบอกว่าระบบไฟเป็นปกติ
สัญนิฐานน่าจะเกิดจากเกียร์ เค้าเลยเปลี่ยนถ่ายนำมันเกียร์ให้และกรองเกียร์
-อาการเป็นอีก เลยไปอู่ประจำ เค้าล้างชุดปีกผีเสื้อให้ และบอกว่าเกลียวเฟืองยังดีอยู่
-หลังจากนั้น อาการก็เป็นอีก เลยไปอีกอู่ เค้าบอกว่ากรองอากาศเปลือยตัน ก็เลยเปลียนใหม่
ล้างชุดปีผีเสื้อให้ และเปลี่ยนซ่อม สวิตท์สไลด์และเทอโมแอร์ ช่างบอกว่าคอมแอร์ดังมาก
มันจะดึงรอบเครื่องมากๆ
-ตอนนี้ก็กลัวว่าอาการจะเป็นอีก เพราเมื่อคืนวันก่อนรถทำท่าจะดับตอนขับชะลอ
แต่แล้วเครื่องก็ติดอีก ขับได้ต่อ
ช่างบอกว่าไม่เกียวกับจานจ่าย อาจจะเป็นเซ็นเซอร์เดินเบา
ช่างอีกร้านก็บอกว่าเซ็นเซอร์เดินเบาถ้าเสีย รถจะสตาร์ทไม่ติด น่าจะเป็นที่แอร์
เพราะคอมแอร์ดัง ลูกปืนคงแตก
ช่างที่ศูนย์บริการบอกว่า น่าจะมาจากเกียร์ ลูกท๊อกและผ้าครัสต์เสีย
เพราะช่วงหลังรถวิ่งเร่งไม่ขึ้น ใช้เวลานานมากเหมือนไม่มีแรง
แบบว่ามีเสียงด้วยถ้าฝืนมัน แต่ถ้าปิดแอร์วิ่ง รถวิ่งนุ่มมากเครื่องยนต์นิ่งมากๆ
เกียร์เร่งความเร็วดีกว่า
ไม่ทราบว่าผมต้องทำอะไรบ้าง ไม่อยากเสียเงินซ่อมไม่ตรงจุด
ขอบพระคุณมากครับที่ให้ความช่วยเหลือ
อาการค่อนไปทางข้างจะสับสนนะครับ
ช่างยังอุตส่าห์สงสัยเกียร์เสียอีก ซึ่ง เท่าที่ผมฟังคุณเล่ามานี่ เกียร์ไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย
แต่เป็นจากเครื่องยนต์ และ อาจจะ ย้ำว่า อาจจะมีส่วนบ้างเล็กน้อย จากแอร์ ที่คุณบอกว่า คอมแอร์หนักมาก กินกำลังสูงเหลือเกิน
สำหรับเครื่องยนต์นั้น ผมว่า คงต้องเอาเข้าเช็กแบบเช็กระยะ โดยศูนย์บริการดีดีสักครั้ง และพร้อมกันนั้น ก็ให้เขาช่วยใช้คอมพิวเตอร์จับดูอาการของเครื่องยนต์ ว่ามีรหัสใดค้างอยู่บ้างหรือไม่ หากมี ก็แก้ไขกันก่อน หากไม่มี ก็ดูที่ระบบจักรกลในตอนเช็กระยะ ซึ่งก็มีรายการอยู่แล้ว
แอร์ ก็ตรวจเช็กคอมเพรสเซอร์ และน้ำยาแอร์กันก่อนอื่น แค่นี้ละครับ
เกียร์ ไม่น่าจะต้องไปยุ่งอะไรครับ-ธเนศร์
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…