การตกลงซื้อครั้งนี้ น่าจะดำเนินการด้านเอกสารแล้วเสร็จได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 นี้ โดยค่ายเกรท วอลล์ จะเริ่มแผนงานผลิตและจำหน่ายรถยนต์ หลังค่ายจีเอ็ม ถอนตัวออกจากประเทศจีน
สำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า มูลค่าที่ทำการต่อรองการซื้อขายครั้งนี้ อยู่ระหว่าง 250-300 ล้านเหรียญ ราว 7,500-9,000 ล้านบาท แต่ไม่มีการเปิดเผยราคาซื้อขายที่แท้จริง
“ตลาดรถยนต์ในประเทศอินเดีย มีความเป็นไปได้มากในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และปัจจัยหลายอย่างที่เอื้อต่อการลงทุน นับเป็นก้าวสำคัญของ เกรท วอลล์ ในการก้าวสู่ตลาดโลกในครั้งนี้” ลุย เซียงชาง Liu Xiangshang รองประธานยุทธศาสตร์ระดับโลกของ เกรท วอลล์ กล่าว
ในประเทศจีน เกรท วอลล์ เป็นผู้ผลิตรถเอสยูวี ที่ได้รับความนิยมสูง และวางแผนที่จะส่งรถรุ่น ฮาวาล Haval และรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะเปิดเผยชื่อรุ่นและแผนงาน ในงานแสดงรถยนต์ เดลฮี ออโต้ โชว์ ในเดือนกุมภาพันธ์นี้
ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศจีน ต้องการเร่งแผนงานที่จะทำการผลิตรถยนต์ในประเทศอินเดีย เพื่อเป็นการชดเชยยอดการขายที่ตกต่ำ ภายในประเทศของตนเอง รวมทั้งเห็นความสำเร็จของเพื่อนร่วมชาติอย่าง เอ็มจี มอเตอร์ ที่ออกมาตั้งโรงงานในต่างประเทศ และประสบความสำเร็จอย่างดี
แม้ว่าตลาดรถยนต์ในประเทศอินเดีย จะไม่ค่อยคงที่เท่าที่ควร และก็คาดหมายกันว่า ในปี 2569 ตลาดอินเดีย จะใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก ตามหลังเพียงประเทศจีน และสหรัฐอเมริกา ขณะที่กลุ่มเฟียต, ฟอร์ด และ จีเอ็ม ต่างพากันถดถอยจากตลาดอินเดีย อันเนื่องมาจากเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงมาก รวมทั้งรถในกลุ่มที่ขายดีทเป็นกลุ่มพวกรถเล็กทั้งหลาย อย่าง มารูติ ซูซูกิ และ ฮุนได
จีเอ็ม ซึ่งถอนตัวออกจากอินเดีย เมื่อปลายปี 2560 สามารถจำหน่ายโรงงานประกอบอีกแห่งหนึ่ง ให้แก่ เอสเอไอซี ผู้ผลิตจากจีน ซึ่งผลิตรถยนต์ เอ็มจี ออกจำหน่าย โดยโรงงานแห่งที่ เกรท วอลล์ ซื้อไปนี้ มีกำลังการผลิตปีละ 150,000,160,000 คัน
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…