บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เตรียมเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้แก่รถยนต์ในหมวด passenger car segment ด้วยการคัดเลือกรถยนต์รุ่นใหม่ๆจากฐานการผลิตและประกอบภายในภูมิภาคอาเซียนเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นครั้งแรกภายใต้การดูแลของบริษัท ที่จะนำเข้ารถเก๋งภายใต้กรอบอาฟต้า (AFTA) ซึ่งในปัจจุบันฮุนไดมีฐานการผลิต และประกอบในภูมิภาคนี้อยู่ 2 ประเทศ คืออินโดนิเซีย และมาเลเซีย ซึ่งประเทศอินโดนิเซียเป็นฐานการผลิตชั้นนำของ Hyundai Grand Starex ในขณะที่ประเทศมาเลเซียได้รับการยอมรับในเรื่องของการผลิตรถเก๋งและ passenger car หลายรุ่น
การนำเข้ารถยนต์จากฐานการผลิตและประกอบในภูมิภาคอาเซียนจะเป็นประโยนช์แก่ฮุนไดในการเจาะตลาดรถเก๋งซึ่งปัจจุบันจะนำเข้าทั้งคันจากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งสิทธิประโยชน์ภายใต้กรอบเงื่อนไขอาฟต้าจะช่วยให้การคัดเลือกอุปกรณ์มาตรฐานและอ็อปชั่นต่างๆ มีจำนวนและความหลากหลายมากขึ้นเพื่อรองรับรสนิยมและความต้องการที่ เหนือกว่า” ของผู้ใช้รถยนต์ในประเทศไทยได้ดีขึ้นไปอีกระดับ ในขณะเดียวกันเงื่อนไขด้านราคาจำหน่ายก็ดีขึ้นกว่าการนำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้เช่นเมื่อก่อน
“เรากำลังศึกษาอย่างจริงจังถึงความเป็นไปได้ในการนำเข้ารถยนต์รุ่นใหม่ๆในหมวด passenger car ที่น่าจะโดนใจผู้ใช้รถยนต์ในประเทศไทยที่มีความต้องการที่ชัดเจนในเรื่องของความคุ้มค่าคุ้มราคาบนสมรรถนะที่เหนือกว่ารถยนต์ทั่วๆไป โดยคาดว่าน่าจะนำรถยนต์ที่ประกอบจากโรงงานในประเทศมาเลเซียที่มีมาตรฐานการผลิตสูงเข้ามาทำตลาด เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้แก่ผู้ที่สนใจรถยนต์ฮุนได และเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้ใช้รถยนต์ยุคใหม่ชื่นชอบความหรูหราจากการออกแบบที่มีระดับ ความปลอดภัยและสะดวกสบายจากอุปกรณ์ล้ำสมัยต่างๆ สมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่นมีคาแร็กเตอร์ และความคุ้มค่าคุ้มราคาในแบบที่สัมผัสได้จริง” มร. ฮิเดกิ ยานากิซาวา ประธานบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าว
“โรงงานประกอบรถยนต์ฮุนไดในประเทศมาเลเซียมีความทันสมัย ความชำนาญ และเป็นที่ยอมรับถึงคุณภาพ โดยเฉพาะในเรื่องของประสิทธิภาพการประกอบที่เทียบชั้นได้กับโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ในประเทศเกาหลีใต้ การนำเข้ารถยนต์จากภูมิภาคจะเป็นการเปิดโอกาสให้บริษัท ฮุนไดมอเตอร์ (ไทยแลนด์) ยกระดับจำนวนอุปกรณ์มาตรฐานและอ็อปชั่นพิเศษต่างๆให้กับตัวรถมากขึ้นเพื่อสร้างความคุ้มค่าคุ้มราคา และโดนใจลูกค้าอย่างชัดเจน เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับรถยนต์รุ่นอื่นๆในตลาด” มร. ยานากิซาวากล่าว
ประธานบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) ยังกล่าวเสริมอีกว่า การทำราคาจำหน่ายที่สามารถแข่งขันกับรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยได้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อรถยนต์ยุคใหม่ได้สัมผัสและเข้าถึงรถยนต์ฮุนไดได้มากขึ้น ซึ่งแนวคิดและมาตรฐานการพัฒนาและผลิตรถยนต์แบบ Modern Premium ที่ได้รับความนิยมและยอมรับไปทั่วโลกจนฮุนไดผงาดขึ้นเป็น 1 ใน 5 แบรนด์รถยนต์ขายดี จะทำให้ผู้ซื้อมีทางเลือกใหม่ๆที่คุ้มค่า และมีเอกลักษณ์มากกว่าเดิม
บริษัทฯยังไม่เปิดเผยถึงรายละเอียดอื่นๆ เช่น รุ่นรถยนต์ที่มีความเป็นไปได้ที่จะนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยในครั้งนี้ แต่คาดว่าการบุกตลาดของรถยนต์ฮุนไดจากฐานผลิตและประกอบในอาเซียนน่าจะมีขึ้นไม่เกินช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…