ฮอนด้าเปิดตัว ซิตี้ ใหม่ รถยนต์ใหม่รุ่นแรกในประเทศไทยที่เข้าหลักเกณฑ์นโยบาย“รถยนต์คันแรก”ของรัฐบาล ตั้งยอดขายถึง 70,000 คัน ในช่วงปีแรกหลังเปิดตัว ปรับรูปลักษณ์และเพิ่มอุปกรณ์ให้ฮอนด้า ซิตี้ มีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น เคาะราคา559,000 – 704,000 บาท
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2554 บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวรถยนต์ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ในวันนี้ โดยปรับรูปลักษณ์และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มความสปอร์ตยิ่งขึ้น ตั้งแต่กันชนหน้า-หลัง ใหม่ กระจังหน้า ไฟท้าย ล้ออัลลอย ทำให้ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มีความสปอร์ตและหรูหรายิ่งขึ้น โดยตั้งเป้ายอจำหน่ายในประเทศไว้ที่ 70,000 คัน และยอดส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ 20,000 คัน ภายใน 1 ปีนับตั้งแต่เปิดตัว
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ นี้ เป็นรถยนต์ใหม่รุ่นแรกของประเทศไทยที่เข้าหลักเกณฑ์นโยบายการรับเงินช่วยเหลือรถยนต์คันแรกของรัฐบาลได้สูงสุด100,000บาท
มร.อาซึชิ ฟูจิโมโตะ ประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ด้วยการผสานนวัตกรรมเทคโนโลยีอันยอดเยี่ยมกับการออกแบบอย่างมีสไตล์ของฮอนด้า ซิตี้ จึงได้รับการตอบรับที่ดีจากการแนะนำเจเนอเรชั่นล่าสุด โดยเฉพาะ ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นที่สาม ได้กลายมาเป็นหนึ่งในรถยนต์ขนาดซับ-คอมแพคท์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุด นับตั้งแต่การเปิดตัวเมื่อ 3 ปีก่อน และได้สร้างกระแสความตื่นเต้นให้ตลาดในประเทศไทย เราจึงตั้งใจที่จะสร้างความเร้าใจด้วยรูปลักษณ์ใหม่สไตล์สปอร์ตและหรูหรายิ่งขึ้น ในตลาดทั่วโลก ฮอนด้า ซิตี้ ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้ามากกว่า 55 ประเทศ รวมทั้งในประเทศไทย ด้วยยอดจำหน่ายรวมทั่วโลกกว่า 1.6 ล้านคัน ซึ่งในประเทศไทย ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นที่สาม เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดและมียอดจำหน่ายสูงสุดของฮอนด้าติดต่อกันเป็นเวลาหลายเดือนนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2551
“ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และยังคงมีราคาที่สูงกว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อลูกค้าในการเลือกซื้อรถขนาดคอมแพคท์และซับ-คอมแพคท์ สำหรับประเทศไทย เมื่อปี 2553 รถยนต์ทั้งสองกลุ่มมียอดจำหน่ายถึง 79% ของยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งทั้งหมด และคาดว่าแนวโน้มนี้จะเกิดขึ้นอีกในปี 2554 และ 2555“ มร.ฟูจิโมโตะ กล่าว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์กลุ่มซับ-คอมแพคท์ ซึ่งฮอนด้า ซิตี้ จัดอยู่ในกลุ่มนี้มียอดจำหน่ายถึง 50% ของยอดขายรถยนต์นั่งทั้งหมดที่จำหน่ายอยู่ในประเทศไทยตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา “เรารู้สึกยินดีกับการตอบรับของซิตี้ในช่วงที่ผ่านมา ในช่วงแรกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราคือ ผู้ที่ต้องการใช้รถขนาดเล็ก มีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำและประหยัดน้ำมัน ซิตี้ รุ่นล่าสุด มีรูปลักษณ์สปอร์ต ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ จึงครองใจลูกค้าจำนวนมากที่ชื่นชอบรูปทรงสไตล์สปอร์ต ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบายในการใช้งาน และสนุกในการขับขี่ ปัจจัยดังกล่าวเป็นเหตุผลทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อและขับ ฮอนด้า ซิตี้” มร.ฟูจิโมโตะ กล่าว
“ด้วยการปรับโฉมใหม่ที่เน้นรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ตทันสมัย ห้องโดยสารกว้างขวางและสะดวกสบายในการขับขี่ ซิตี้ ใหม่ ให้ประสบการณ์ในการขับขี่ที่น่าประทับใจแก่ลูกค้าทั้งยังเป็นรถที่สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์อันทันสมัย และเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับการเป็นรถยนต์คันแรก” มร.ฟูจิโมโตะกล่าวเพิ่มเติม
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร ให้กำลังถึง 120 แรงม้า ที่มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด และระบบควบคุมการเปิด-ปิดลิ้นปีกผีเสื้อแบบอิเล็กทรอนิกส์ DBW (Drive-by Wire) ซึ่งทำงานสัมพันธ์กับเครื่องยนต์ ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่และประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ทุกรุ่นได้ติดตั้งถุงลมคู่หน้า Dual SRS และระบบป้องกันล้อล็อก ABS เป็นอุปกรณ์มาตรฐานด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยในฮอนด้า ซิตี้ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ได้รับการออกแบบภายในห้องโดยสารใหม่ พร้อมกับติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่เพิ่มความสะดวกสบาย รวมไปถึงมาตรวัดเรืองแสง Blue Light พร้อมมาตรวัดอัตราความประหยัดเชื้อเพลิง คอนโซลด้านหน้าตกแต่งด้วยโครเมียม ระบบล็อกประตูอัตโนมัติสัมพันธ์กับความเร็ว ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด ECO Indicator ที่จะสว่างขึ้นเมื่อขับขี่ในเกณฑ์ประหยัดน้ำมันทำให้ทราบถึงรูปแบบการขับขี่ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ
กลุ่มเป้าหมายของฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ คือลูกค้าที่มีอายุระหว่าง 25-39 ปี เพิ่งเริ่มทำงาน ต้องการซื้อรถยนต์คันแรก สำหรับกิจกรรมทางการตลาดจะใช้ทั้งสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ และสื่อออนไลน์ ซึ่งจะเริ่มในเดือนกันยายนนี้ พร้อมทั้งภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ที่จะเชิญชวนให้ลูกค้าไปทดลองขับฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ เพื่อสัมผัสกับประสบการณ์และรูปลักษณ์สปอร์ตหรูหราและสง่างาม ห้องโดยสารกว้างขวางและสะดวกสบายในการขับขี่
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น S, รุ่น V และ รุ่น SV โดยทุกรุ่นสามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ E20 ระบบขับเคลื่อนเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีดในทุกรุ่น และเพิ่มทางเลือกเกียร์ธรรมดาในรุ่น S ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 559,000 – 704,000 บาท (อุปกรณ์แตกต่างกันเฉพาะรุ่น) และมีให้เลือก 6 สี ได้แก่ แดงคาร์เนเลียน (มุก), น้ำตาลสปาร์คลิ่ง (เมทัลลิก) ซึ่งเป็น 2 สีใหม่ นอกเหนือจากขาวทาฟเฟต้า, เงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก), เทาโพลิช (เมทัลลิก), และดำคริสตัล (มุก)
******************************************************************************
สารฑูล สักการเวช
sarathun@caronline.net