ค่ายเยอรมัน เตรียมนำมาให้บริการในระบบรถแบ่งปัน car-sharing แต่เตรียมจะออกจำหน่ายตามปกติในอนาคต โดยรถรุ่นมาตรฐาน จะเดินทางได้ราว 130 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แต่หากใช้ชุดแบตเตอรี่พิเศษ จะสามารถยืดระยะออกได้เป็น 165 กม.
เป้าหมายเริ่มต้น จะเป็นรถชนิด 2+2 ที่นั่ง พร้อมที่นั่งด้านหลังที่สามารถรองรับผู้โดยสารผู้ใหญ่ได้ ระบบขับเคลื่อนจะมีทั้งชนิดสองล้อ และขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยใช้มอเตอร์และแบตเตอรี่ชนิดเดียวกัน โดยรุ่นขับสองล้อ ใช้มอเตอร์ตัวเดียวและแบตเตอรี่ชุดเดียว ส่วนรุ่นขับสี่ล้อ ใช้มอเตอร์ 2 ตัวและแบตเตอรี่ 6 ชุด
นักข่าวได้ทดลองนั่งในที่นั่งผู้โดยสารรถคันต้นแบบ และบอกว่าน่าจะเหมาะสำหรับการใช้งานในชนบท อย่างที่ผู้ผลิตตั้งเป้าเอาไว้ แต่ไม่เหมาะสำหรับการเดินทางระยะไกล แม้ว่าเสียงมอเตอร์อาจดังเล็กน้อย แต่ผู้ผลิตบอกว่าสำหรับรุ่นที่ผลิตจำหน่ายจริง เสียงจะเงียบกว่านี้
อี.โก ไลฟ์ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า กระแสตรง ขนาด 10.5 กิโลวัตต์ จากชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 48 โวลต์ โดยชุดแบตเตอรี่ 6 ชุด นำ้หนักรวม 90 กก. ความแรง 14.4 กิโลวัตต์ แบตเตอรี่แต่ละชุด ติดตั้งระบบควบคุมการจ่ายกระแสไฟฟ้าในตัว ที่ช่วยลดการเดินสายไฟในตัวรถและนำ้หนักด้วย เมื่อไฟหมด สามารถชาร์จได้จากชุดชาร์จที่ติดตั้งบนรถ ใช้เวลา 5 ชั่วโมงครึ่ง สามารถทำความเร็ว 50 กม./ชม. ได้ภายใน 5.7 วินาที
ผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งและตรวจสอบระบบการทำงานของแบตเตอรี่ ได้จากแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 4 ช่วง โก Go เป็นการขับขี่แบบปกติ, ครุยส์ Cruise สามารถเร่งไปจนถึงความเร็วที่ต้องการ ตามความสามารถของแบตเตอรี่, บู๊สท์ Boost ให้กำลังงานสูงสุด แต่ระยะทางก็ลดลงเช่นกัน และ ครอว์ Crawl จำกัดความเร็วแค่ 3.2 กม./ชม. เพื่อการเข้าจอด
กรรมการบริหาร บ็อช มาร์กัส เฮยน์ Markus Heyn เชื่อว่า ระบบการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 48 โวลต์ น่าจะเหมาะสมกับรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก เพราะมีความปลอดภัย และสามารถหาจุดชาร์จได้ง่าย รวมทั้งนำ้หนักรถราว 600 กก. ก็นับว่าน่าจะเพียงพอกับขนาดของรถแล้ว แต่หากเป็น 1,000 กก. ก็น่าจะหนักเกินควร
อีซูซุส่งเครื่อ…