ครั้งแรกในเอเชียกับ TukTuk ต้นแบบ “e-Rickshaw” โดยเป็นการดัดแปลงการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ของรถไฟฟ้า 100% อย่าง Audi e-tron ที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว นำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ ภายใต้แนวคิด “Second – life Batteries”ซึ่งตัวรถจะเป็นรถตุ๊กตุ๊กที่มาจากประเทศไทย มีอายุถึง 30 ปี ผ่านการปรับโฉมให้ดูทันสมัยขึ้น ที่โรงงานในเมือง Neckarsulm ประเทศเยอรมนี โดยแบตเตอรี่ไฟฟ้าของ Audi e-tron นั้น เป็นแบบ high-energy density ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง ถึงแม้ว่าแบตเตอรี่ดังกล่าวจะเคยถูกใช้มาแล้วในรถทดสอบ Audi e-tron ก็ตาม แต่ยังมีกำลังไฟที่เพียงพอ สำหรับการนำไปปรับใช้ในรถตุ๊กตุ๊กที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าที่กำลังน้อยกว่าได้เป็นอย่างดี ถือเป็นการพิสูจน์ในคุณภาพของแบตเตอรี่ใช้แล้วของ Audi e-tron ว่ายังสามารถนำไปใช้ต่อได้ สะท้อนวิสัยทัศน์ “The mobility of the future” การขับเคลื่อนแห่งอนาคตของอาวดี้ ที่มุ่งมั่นจะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการสร้างโลกแห่งอนาคตที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน ด้วยการนำเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า มีความคิดสร้างสรรค์ และความกระตือรือร้นที่จะสร้างสังคมที่น่าอยู่ ตัวรถสามารถผลิตกำลังได้สูงสุด 8.6 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 34.6 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 2 จังหวะ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ถ้าพูดถึงความหรูหราพรีเมียม ต้องยกให้รถผู้บริหารระดับสูง แฟลกชิปโมเดลแห่งปี ของ Audi ที่ใหญ่ที่สุด The new Audi A8 L โอ่อ่ากว้างขวางมากยิ่งขึ้น ด้วยมิติตัวรถที่เปลี่ยนแปลงจากเดิม ที่สุดแห่งเทคโนโลยีเครื่องยนต์สันดาป Mild Hybrid แห่งอนาคต ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ quattro ทำงานควบคู่กับช่วงล่างระบบถุงลม ช่วยให้ทุกการเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและนุ่มนวล ความโดดเด่นที่นอกเหนือจากดีไซน์ที่ถูกปรับปรุงใหม่ ยังคงไว้ซึ่งความหรูหราสง่างาม และความสปอร์ต อันเป็นเอกลักษณ์ของ Audi ไฟหน้าแบบ HD matrix LED และไฟเลี้ยวแบบ dynamic ที่เป็นจุดเด่นของการออกแบบของ Audi การดีไซน์ของไฟแบบใหม่นี้ สวยสะดุดตาไม่ว่าจะพบเห็นในช่วงกลางวันหรือกลางคืน ซึ่งไฟแบบ HD matrix LED ให้ความคมชัดมากขึ้นและสามารถส่องสว่างได้อย่างเที่ยงตรงมากขึ้นกว่าไฟแบบ matrix LED แบบธรรมดา มาพร้อมดีไซน์ภายในสุดหรู ระดับ First Class Lounge ให้ความสะดวกสบายที่สุด โดยเฉพาะผู้โดยสารตอนหลังและยังคงให้ความสำคัญต่อสมรรถนะการขับขี่ ตำนานความสำเร็จของ Audi A8 เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1994 โดย A8 ถูกพัฒนาต่อมาจาก Audi รุ่น V8 ซึ่งเป็นรถรุ่นที่มีความก้าวหน้าทางนวัตกรรมมากที่สุดในตลาดรถยนต์กลุ่มลักซ์ชัวรี่ซีดานในขณะนั้น และต่อมา Audi A8 ก็ยังคงเป็นผู้บุกเบิกทางด้านนวัตกรรมใหม่ให้กับแบรนด์มาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้เจเนอเรชั่นที่ 4 นับเป็นเจเนอเรชั่นล่าสุด และเป็นที่ยอมรับในอุสาหกรรมรถยนต์ ความสะดวกสบายโดยเฉพาะพื้นที่เบาะนั่งด้านหลังที่เรียบหรูนั่งสบายดั่ง First class lounge ทำให้ Audi A8 L มีความสะดวกสบายที่เป็นเอกลักษณ์ตามคอนเซ็ปความ พรีเมียมของรถยนต์ Audi และยังคงให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจเมื่อต้องการขับขี่แบบสปอร์ตอีกด้วย
ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีด้านพลังงานไฟฟ้าด้วยการนำทัพด้วย Audi e-tron GT และขบวนรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดเจเนอเรชั่นล่าสุด ครบ 3 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น Q8 60 TFSI e quattro S line Black Edition, Audi Q7 60 TFSI e quattro Plug-in Hybrid พร้อมโชว์โฉม The New Audi Q5 Sportback 55 TFSI e และ Audi Q5 55 TFSI e ทางเลือกที่ลงตัวตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ ด้วยระยะการวิ่งด้วยไฟฟ้าที่เหมาะกับการใช้งานในเมือง สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย ที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่รถไฟฟ้า 100% อย่างเต็มรูปแบบ
แฟนอาวดี้ สาย Performance ห้ามพลาด กระหึ่มวงการทุกรอบกับ DNA แห่ง Racing Sport ยกขบวน TT RS Coupé, RS Q3 Sportback และ RS 3 Sportback มาให้ชมที่งานนี้ด้วยเช่นกัน