หลังจาก ได้รับการแต่งตั้งจาก Audi AG ประเทศเยอรมนี ให้เป็นผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ Audi อย่างเป็นทางการในประเทศไทย (ออดี้ ประเทศไทย) โดย บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด เดินหน้ารุกอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่และความประทับใจให้กับลูกค้าในด้านการบริการหลังการขาย
นายวัลลภ เฉลิมวงศาเวช รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการบริการหลังการขาย ยืนยันถึงความพร้อมอย่างเต็มที่ทั้งด้านเทคโนโลยี เครื่องมือ บุคลากร และอะไหล่ เพื่อให้ลูกค้ามีความพึงพอใจสูงสุด โดยในปีนี้คาดว่าจะใช้เงินทุนสำหรับการพัฒนางานบริการหลังการขายและอะไหล่จำนวนกว่า 50 ล้าน บาท ใน 4 ด้านหลัก คือการลงทุนด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ การลงทุนด้านบุคลากร การลงทุนด้านระบบไอที และการพัฒนาการบริหารจัดการอะไหล่แท้ ให้สามารถตอบสนองลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีราคาที่สมเหตุสมผล
“ในด้านเครื่องมืออุปกรณ์ รวมถึงอุปกรณ์ตรวจเช็ค วิเคราะห์ ซึ่งยึดตามมาตรฐานของ Audi ทุกประการ มีการลงทุนไปแล้วกว่า15 ล้านบาท ในด้านบุคลากร มีการลงทุนเพื่อพัฒนาความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ ให้ทีมวิศวกร และช่างเทคนิคในทุกระดับ ซึ่งนอกจากจะมีผู้จัดการส่วนงานบริการ เป็นชาวไอริช ที่มีประสบการณ์ยาวนานกับ Audi ถึง 28 ปี เคยคุมดีลเลอร์ที่ใหญ่ที่แอฟริกาใต้มาก่อน เรายังสนับสนุนให้หัวหน้าช่างสอบระดับ Master Technician เป็นระดับสูงสุดของช่าง Audi ซึ่งเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับใบประกาศเกียรติบัตรจากโครงการนี้ ในส่วนของช่างเทคนิคมีการส่งทีมไปอบรมที่ประเทศสิงคโปร์ รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาทักษะในด้านภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ซึ่งสำคัญมาก เพราะมาตรฐานการซ่อมต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษหมด ในด้านเทคโนโลยีไอที มีการลงทุนไปแล้วกว่า 10 ล้านบาท เพื่อนำระบบไอที ตามมาตรฐานของ Audi มาใช้ รวมถึงลงทุนระบบ DMS ที่มีประสิทธิภาพ ส่วนการพัฒนาด้านการบริหารจัดการอะไหล่ มีการประสานความร่วมมือและขอคำแนะนำจาก VRAS (Volkswagen Regional Aftersales) ทำให้การจัดการอะไหล่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ”
นายวัลลภ กล่าวว่า บริษัทมีนโยบายที่จะให้บริการลูกค้ารถยนต์ Audi อย่างทั่วถึง ซึ่งปัจจุบันลูกค้า Audi ที่มาใช้บริการหลังการขาย มีทั้ง ลูกค้าใหม่ ลูกค้าจากผู้จำหน่ายรายเดิม และลูกค้าที่ซื้อรถจากผู้นำเข้าอิสระ ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 50% โดยรวมลูกค้ามีความพึงพอใจและมั่นใจ โดยเฉพาะลูกค้าที่ซื้อรถจากผู้นำเข้าอิสระ ที่บริษัทคิดค่าแรกเข้าเริ่มต้นที่ 10,000 บาท ขึ้นอยู่รถแต่ละรุ่น ซึ่งจะได้รับประโยชน์ในการรับการบริการหลังการขายในครั้งต่อๆ ไป พร้อมตรวจเช็คสภาพรถ 40 รายการ และอัพเดท ซอฟต์แวร์ ของกล่องสมองควบคุมต่างๆ ให้รถมีการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากเดิมลูกค้าต้องเสียเงินหลายหมื่นบาทในการอัพเดทซอฟต์แวร์จากต่างประเทศ
สำหรับความพร้อมในการจัดหาอะไหล่ นายวัลลภ กล่าวว่า นอกจากการบริหารสต๊อคอะไหล่ให้เพียงพอ บริษัทยังเน้นเรื่องความรวดเร็ว แม้ว่าจะมีปัญหาบ้างเนื่องจากไม่มีข้อมูลประวัติรถเก่า แต่ทางทีมงานก็จะทำงานกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด ใส่ใจทุกรายละเอียด ซึ่งในการจัดส่งอะไหล่ ได้นำเสนอทางเลือกให้ลูกค้า ทั้งทางเรือ ทางอากาศ และทางคูเรียร์ โดยหากขนส่งทางอากาศ ก็จะมีค่าส่งเพิ่ม 30% โดยจะได้รับอะไหล่ภายในระยะเวลา 5 – 10 วันทำการ หรือทางคูเรียร์ มีค่าส่งเพิ่ม 60% ในรายที่ต้องการด่วน สามารถรับอะไหล่ภายในระยะเวลา 2 – 3 วันทำการ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญในเรื่องราคาอะไหล่ ซึ่งปัจจุบันอะไหล่แท้ได้มีการปรับราคาใหม่ทั้งหมดทำให้มีราคาที่สมเหตุสมผล ไม่แพง พร้อมทั้งยังรับประกันอะไหล่แท้เป็นเวลา 2 ปี เป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่เน้นให้การบริการหลังการขาย เป็นส่วนสำคัญในการสร้างแบรนด์
ออดี้ ประเทศไทย ยังสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าสูงสุด ด้วยการรับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร และการให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ทั่วประเทศ 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี สำหรับแผนพัฒนาด้านการบริการหลังการขาย เพิ่มเติมจากนี้ไป นายวัลลภ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรองรับปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคต และการขยายโชว์รูมและศูนย์บริการ ที่ตั้งเป้าไว้ประมาณ 10 แห่ง ภายในปี 2562 โดยเฉพาะด้านบุคลากร และการบริหารจัดการอะไหล่ ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะสร้างศูนย์กระจายอะไหล่รองรับการเติบโตด้วย
สำหรับเป้าหมายความสำเร็จ นายวัลลภ กล่าวว่า อยู่ที่ความพึงพอใจของลูกค้าซึ่งขณะนี้บริษัท เพิ่งเปิดดำเนินการมาเป็นเดือนที่ 3 ยังต้องมีการจัดการกับปัญหาเฉพาะหน้าอยู่พอสมควร แต่ด้วยปัจจุบันมีทีมงานที่แข็งแกร่ง แต่ละคนที่เข้ามาร่วมงานล้วนมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมานาน รวมถึงมีแรงบันดาลใจในการทำงาน และมีเป้าหมายเดียวกันในการมอบประสบการณ์ที่สร้างความประทับใจให้ลูกค้าจากการบริการหลังการขาย จึงทำให้ผลตอบรับของลูกค้าออกมาในทางบวก รวมทั้งมีความเชื่อมั่นและประทับใจกับบริการของบริษัทฯ
ปัจจุบัน โชว์รูมและศูนย์บริการแห่งแรกของ ออดี้ ไทยแลนด์ ตั้งอยู่บนถนน เพชรบุรีตัดใหม่ นับเป็นโชว์รูมที่ได้มาตรฐาน มีความทันสมัย มีความพร้อม โดยได้รับการออกแบบและตกแต่งโดยทีมงานมาตรฐานจาก Audi AG ประเทศเยอรมนี โดยจุดเด่นคือ ความครบวงจรและความพร้อม ทั้งในด้านเครื่องมือ อุปกรณ์ เทคโนโลยี ที่ทันสมัยได้มาตรฐานของ Audi กับอะไหล่แท้ รวมถึงการมีจำนวนช่องซ่อมที่มากถึง 16 ช่องซ่อม สามารถรองรับรถที่เข้ามารับบริการได้อย่างเพียงพอ หรือประมาณ 15-20 คัน ต่อวัน โดย ออดี้ ไทยแลนด์ ได้ลงทุนนำนวัตกรรมการบริการหลังการขายอันล้ำสมัยมาใช้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย ได้สร้างประสบการณ์ใหม่ที่ทันสมัย มั่นใจ ในการบริการหลังการขาย เช่น Audi Cam ที่ลูกค้าสามารถเห็นขั้นตอนการตรวจสอบรถยนต์จากวีดีโอที่จะส่งไปให้ลูกค้าผ่านทางอีเมล์ หรือ SMS ทำให้ลูกค้าได้เห็นถึงสภาพปัญหา ที่จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไข รวมถึงรายละเอียดค่าใช้จ่ายก่อนตัดสินใจอนุมัติการซ่อม
ออดี้ ประเทศไทย มีแผนจะแนะนำรุ่นใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย การออกแบบที่เหนือชั้น ขับสนุก สมรรถนะสูง ออกสู่ตลาด ให้ได้ตามเป้าหมาย 13 รุ่นหลัก และ 23 รุ่นย่อย โดยมีรถยนต์ให้ลูกค้าได้เลือกหลากหลายทั้งแบบ Limousine, SUV, Sport ราคาเริ่มต้นที่ 2.299 ล้านบาท จนถึงรุ่นสปอร์ตที่มีราคา 18.99 ล้านบาท ซึ่งลูกค้าที่สนใจเรื่องราวของ Audi Thailand และ รถยนต์ Audi รุ่นต่างๆ รวมถึงโปรโมชั่น และโปรแกรมการบริการหลังการขาย สามารถเข้าไปดูข้อมูลเบื้องต้นได้ที่
www.audi.co.th
Facebook Fanpage : Audi Thailand
IG : Audi Thailand
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…