Brand: TOYOTA Model: Soluna
Year: 2003 Miles: 5001-20000
From: stoyota corolla
: vios
วันนี้ผมมีเรื่องอยากได้ความรู้ความเข้าใจหน่อย เกี่ยวกับเรื่อง เครื่องยนต์ กะน้ำมัน อยากทราบว่า เนื่องจาก มีหลายความคิดเห็นที่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และการทดสอบคู่มือรถบอกสามารถใช้น้ำมันตั้งแต่ ออกเทน 91 ขึ้นไป แต่มีคนได้ทำการเปลี่ยนไปใช้ น้ำมันที่มีค่าออกเทน 95 และจากการทดสอบได้ผลที่อยากรู้สาเหตุดังนี้ ระยะทาง การใช้งาน สำหรับ ออกเทน 95 จะได้ระยะทางมากกว่า เทียบกับเงินที่ถูกลง แล้ว ผลคือ 95 จะคุ้มค่ากว่า ทำไมถึงได้ระยะทางมากว่า และผลจากการที่ใช้ ออกเทน 95 กับ 91 มีผลต่อเครื่องยนต์อย่างไรครับ เคยได้ยินว่าหากใช้ 91 มีผลทำให้การเผาไหม้ไม่หมด ให้มีสารตกค้างเยอะจริงไหมครับ และจากการที่เคยได้อ่านมา ว่า มีบางคันถึงกับต้องไปทำการล้าง carbon clean เป็นผลจากเรื่องนี้ไหม
อ้อ! การที่รถเราเป็น ดีสเบรค 4 ล้อ เวลาตอนเช้าๆ เบรคเย็น เวลาถอยหลัง มีเสียงเหมือนเบรคติด เป็นเพราะอะไรได้บ้างครับแบบว่าจะเป็นแค่ตอนเช้า พอร้อนๆ หาย แต่บางครั้งพอขับถึง จอด ดึงเบรคมือ ปล่อยเบรคมือ ถอยหลัง ก็มีเสียงอื้นๆ 1 ครั้ง พอเดินหน้าใหม่ ถอยหลังหายไปแล้วอะครับ เคยไปให้ศูนย์ทำการเช็ค เขาก็ทำความสะอาดหน้าผ้าเบรค ให้ เขาว่าม้นเป็น มันๆ อาจจะมาจากสาเหตุนี้ คุณอาเคยมีประสบการณ์ด้านนี้ไหม ก็ขอคำแนะนำด้วยน่ะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
หากใช้น้ำมันออกเทนสูงกว่า (เฉพาะในประเทศเราหรือประเทศทางตะวันตก) ทำไมได้ระยะทางมากกว่า? อันนี้ ผมยอมรับว่า ผมทราบอย่างนั้นจากการทดลองของผู้ใช้อย่างหนึ่ง และได้ทราบจากเพื่อนช่างของผม ใน www.iATN.com อีกแหล่งหนึ่ง ที่แจ้งว่า ได้ระยะทางมากกว่า
แต่ก็จะเป็นกับเครื่องยนต์หัวฉีดเท่านั้น และเล็กน้อย ไม่สูงจนเห็นชัดนัก
ประการแรก ที่ผมเข้าใจเอาเอง ก็คือความไวไฟของน้ำมันออกเทนต่ำนั้น ไวกว่าน้ำมันออกเทนสูง เป็นผลให้การเผาไหม้เร็วกว่า รวมถึงการระเหยตัว ก็เร็วกว่าด้วย เมื่อการระเหยเร็วกว่า ขณะถูกฉีดออกมารอที่หลังวาล์ว ก็จะระเหยเร็วหน่อย ออกไปทางสูบอื่นบ้าง จังหวะอื่นบ้าง ซึ่งก็เล็กน้อยมากเหมือนกัน แต่จำนวนรวมกันแล้ว ก็คงถือว่าไม่มีจำนวนไม่ได้
เมื่อเข้าไปในห้องเผาไหม้ แล้วออกเทนต่ำไหม้เร็วกว่า การทำงานของเครื่องยนต์ก็จะไม่ได้กำลังเต็มที่พอสำหรับเครื่องยนต์ที่ออกแบบไว้ให้ใช้น้ำมันออกเทนสูง ย้ำนะ ว่าเครื่องยนต์ที่ออกแบบไว้ให้ใช้ออกเทนสูง กำลังที่ไม่เต็มที่ ก็จะออกไปหมุนอะไรต่ออะไรต่างต่างนอกกระบอกสูบได้ไม่เต็มที่ เป็นผลให้กำลังตกลงกว่าที่ควร ตรงนี้ เมื่อผ่านทอรค์คอนเวิร์ทเตอร์ หรือคลัทช์สำหรับเกียร์ธรรมดา กำลังที่ต่ำกว่าควร จะหมุนไม่ได้เร็วหรือแรงเท่าที่ควร ก็จะได้อะไรต่ออะไรน้อยลงเหมือนกัน ก็เป็นผลให้กินน้ำมันมากกว่าสำหรับออกเทนต่ำ
และเมื่อมองในแบบของผม ต่อให้เครื่องยนต์นั้น เป็นเครื่องที่ออกแบบให้ใช้ออกเทนต่ำ เมื่อเราเอาน้ำมันออกเทนสูงใส่เข้าไป ตัว Knock Sensor ก็จะจับอาการได้ว่า เครื่องยนต์ไม่น็อก ดังนั้น จึงลดจังหวะจุดระเบิดลงได้ระดับหนึ่ง แล้วแต่ว่า ตัวเซนเซอร์จะไว และมีระดับการทำงาน แค่ไหน อันนี้ เราไม่รู้ ดังนั้น จึงต้องบอกว่า ขึ้นอยู่กับแต่ละเครื่องยนต์ ที่ออกแบบมาไม่เหมือนกัน แต่อย่างต่ำก็น่าจะเท่ากัน และมีโอกาสที่ออกเทนสูงจะน้อยกว่าได้
ถือเป็นแค่โอกาสก็ได้ครับ
แล้วคราวนี้ มาถึงผลของการใช้น้ำมัน 91 และ 95 ว่าจะเป็นอย่างไรกับเครื่องยนต์?
ผมคงไม่ต้องตอบ เพราะหากคุณใช้กับเครื่องยนต์ที่เขาออกแบบมาให้อย่างถูกต้อง ผมก็ไม่ได้ขัด และไม่ได้เคยให้ความเห็นอย่างอื่น จริงไหมครับ
ดังนั้น ผมจึงไม่จำเป็นจะต้องตอบปัญหาใครในข้อนี้ เมื่อผมแนะนำเสียแล้วว่า ให้ใช้น้ำมันออกเทนตามที่ผู้ผลิตเครื่องยนต์เขาแนะนำเท่านั้น ไม่เคยแนะนำเป็นอื่น
หากจะยังสงสัยอยู่ ว่าจะเป็นอย่างไร ก็ต้องขอให้คุณไปถามคนที่แนะนำเป็นอย่างอื่นก็แล้วกัน
ปกติแล้ว ผมจะไม่ตอบปัญหาแบบนี้ เพราะเหมือนกับการเขียนคอลัมน์ ที่ผมไม่ชอบในการตอบปัญหา เพราะไม่ใช่ปัญหาเทคนิค แต่เห็นว่า คุณถามประจำ ก็เลยตอบให้
คือเรียนตามตรงว่า การตอบปัญหาแบบกว้างชะมัดเลยนี่ ผมเสียเวลามากพอกับการเขียนคอลัมน์ของผมเอง ขายให้กับหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร ที่ผมจะมีรายได้คอลัมน์ละเกือบสี่พันหรือเกินห้าพันบาท ขอให้เห็นใจ อย่าถามผมอย่างนี้อีกเลย รออ่านเวลาผมเขียนถึง หรือคนอื่นเขียนถึง จะดีกว่าครับ
ไม่เสียรายได้ผม ไม่เสียเวลาผมมากเกินไป ไม่เสียน้ำใจกันด้วย หากผมไม่อยากตอบ
อ้อ ดีแล้ว คุณมาถามทำให้ผมต้องตอบนานดีนัก ดังนั้น ผมจะเอาตอนที่ผมตอบปัญหาให้คุณนี่แหละ ส่งไปลงในคอลัมน์คาร์คลินิกของผมเสียเลย ได้ตังค์ด้วย สมน้ำหน้าคุณที่ไม่ได้ตังค์กับผม เพราะผมไม่แบ่งให้คุณหรอก ฮ่า ฮ่า
เรื่องเบรก ผมว่า เกิดจากสนิมระหว่างผ้าเบรกโลหะ กับจานที่เป็นโลหะ จึงทำให้มีอาการเหมือนติดในตอนออกรถเมื่อจอดทิ้งไว้ทั้งคืน หรืออาจจะเป็นเพราะผ้าเบรกของคุณไหม้ก็ได้ครับ-ธเนศร์
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…