สตาร์ทติดยากมาก
Brand: TOYOTA Model: Corolla
Year: 1994 Miles: 40001-60000
From: ciss c
สวัสดีอาจารย์ และเพื่อนสมาชิกครับ
ผมใช้รถ toyota หน้ายิ้ม แต่เปลี่ยนเป็นเครื่อง 3s เครื่องหัวฉีด แต่ติดแก๊ส lpG ระบมิ๊กเซอร์
1. ครั้งแรกของแต่ละวัน รถมันสตาร์ท(น้ำมัน)ติดแล้วก็ฟอดดับไปในเวลา 3 วินาที ฟอดดับเหมือนนำมันหมด (แต่จริงๆไม่หมดนะครับ)
2.พอสตาร์ทใหม่ คราวนี้ไม่ติดครับ อาการคือเครื่องหมุน ไฟแรงพอแต่ไม่ติด ต้องสตาร์ทไปเรื่อยๆอะครับ ราว 10 นาที ถึงจะติด แต่ว่าผมไปเจอมาว่าถ้ากดไอสวิทช์แก๊สที่เป็นอัตโนมัตทิ้งไว้ มันจะเปลี่ยนจากน้ำมันเป็นแก๊สครับ (ดูจากไฟสีส้มเม็ดสุดท้ายที่สวิทช์หยุดกระพริบ)คราวก็คือสตาร์ทแก๊สครับ เหยียบคันเร่งแล้วสตาร์ท 2 ทีก็ติด รถวิ่งดีครับ ไม่มีปัญหา
3เมื่อก่อนพอวิ่งแล้วสตาร์ท(น้ำมัน) ชึ่งเดียวติดเลยครับ ติดง่ายมาก แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คราวนี้วิ่งไปแล้วสตาร์ทน้ำมัน ก็ไม่ติดแล้วครับ ต้องแก๊สตลอดเลย (อาการหนักขึ้นแล้วครับ)
4. ผมเคยวิ่งแก๊สแล้วกดเปลี่ยนเป็นน้ำมัน(ขณะวิ่ง) น้ำมันก็วิ่งได้ครับ วิ่งดี เร่งได้ปกติ จังหวะเปลี่ยนเชื้อเพลิงก็โอเค ไม่ค่อยสะดุดเลยครับ
5.มีคนเคยบอกว่าไอตัวกันน้ำมันไหลกลับ เรกกูเรเตอร์ อะไรสักอย่าง ที่อยู่ปลายรางหัวฉีดเสียครับ ไม่รู้ว่าจริงหรือป่าว ยังไง และถ้าตัวนี้เสียจริงๆ ต้องของไหม่หรือเชียงกงดีครับ
ยังไงรบกวนผู้รู้ด้วยนะครับ ถ้าข้อมูลในการวิเคราะห์ปัญหายังไม่พอยังไง บอกได้นะครับ ขอบพระคุณมากๆครับ
1-2-3 น่าจะเกิดจากน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ขึ้น หรือขึ้นแล้วไหลกลับหมด ไม่รออยู่ในรางหัวฉีด ก็ต้องเริ่มเช็กจากปั๊มเชื้อเพลิง ว่ามีแรงดันไหม
ถ้าแรงดันจากปั๊มเชื้อเพลิงตกมากหรือไม่มีเลย ก็ใช่แล้ว เปลี่ยนปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง
หากมีแรงดัน ปั๊มก็ยังใช้ได้ จากนั้นก็เช็กคร่อมกรองน้ำมันเชื้อเพลิง ว่ามีแรงดันเทียบกับก่อนเข้ากรองเท่าไร ถ้าแรงดันตกไปมาก กรองก็เสื่อมแล้ว ต้องเปลี่ยนกรอง
ทีนี้ ถ้าทุกอย่างยังดี มีแรงดันสูง ก็เขยิบจากใต้ท้องรถ มาเช็กที่เครื่องยนต์ ตรงปลายรางหัวฉีด จะมีหัวเช็กแรงดันเหมือนกับหลังปั๊มและหลังกรองอยู่ เช็กตรงนั้น ติดเครื่อง แรงดันต้องขึ้นเต็มพิกัด สี่สิบกว่าปอนด์
ดับเครื่อง แรงดันต้องไม่ตก อยากมากก็ลดลงไปสักห้าปอนด์ ทิ้งไว้สิบห้านาที ก็จะไม่ลงไปมากกว่าอีกสามปอนด์
ถ้าผิดจากนี้ ตัววาล์วตัวนั้นเสียแล้วครับ ต้องเปลี่ยน
เวลาเปลี่ยน ก็เปลี่ยนของใหม่จากร้านอะไหล่ดีกว่า เพราะเอาของเก่าของใครก็ไม่รู้มาใช้ เขาใช้ไว้อย่างไร ยังเหลือดีอยู่อีกไหม เราก็ไม่รู้ เดี๋ยวก็ต้องมาเช็กกันอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เสียเงินแพงนิดดีกว่าครับ ของพวกนี้
4-5 เคย ใช้ได้ดี กับต่อมา ใช้ไม่ได้ดี ก็เป็นธรรมดาของโลก ของเครื่องจักรกล ไม่อย่างนั้น จะมีอู่ซ่อมกันทำไมล่ะครับ ถ้าของเคยดีแล้วต้องดีอยู่ตลอดไป จริงไหม ของก็เสียได้ อย่าไปคิดมากครับ-ธเนศร์