Brand: HONDA Model: Civic
Year: 1993 Miles: 100001 – More
From: วาที สุรินทะ
คุณอาครับ อย่าพึ่งว่าผมนะครับ อันนี้ข้องใจมานานแล้วครับ
สืบเนื่องจากชอบอ่านหนังสือรถมาก(แต่ความรู้น้อย) จึงอยากเรียนถามคุณอาว่า
1. การใช้ไดโนเทสทดสอบแรงม้าและแรงบิดนั้นใช้หลักการอย่างไรและนำสัญญาณอะไรมาทำการวัด รถดีเซลหรือรถเบนซินเครื่องคาร์บูใช้ได้มั้ยครับ
2. อันนี้แนววัยรุ่นหน่อย คือเห็นพวกที่วางเครื่องตระกูล ฮอนด้าเช่น b16a แล้วนำมาวางเทอร์โบ ถ้าไม่ใช้กล่องแพงๆเมื่อมีการบูสของเทอร์โบก็จะเกิดอาการหัวทิ่มเลย คือกล่องมันตัด(ใช่รึเปล่านะ) จึงต้องใช้การหลอกกล่องด้วยวันเวย์วาล์ว แล้วใช้หัวฉีดเสริมเพิ่มไปโดยใช้เพรชเชอร์คอลโทรล เพื่อน้ำมันที่เพียงพอ
ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่ผมทราบจากหนังสือส่วนใหญ่ แต่ผมมีความรู้สึกว่ามันไม่ค่อยจะสมบูรณ์สักเท่าไร จะไปใช้ของแพงเลยก็ไม่ไหวเช่นกล่องที่มันจูนได้เลย ราคางี้ 2หมื่นขึ้นเลย
มันก็เกิดไอเดียที่ถูกต้องรึไม่นั้นก็อยากจะขอรบกวนคุณอาช่วยแก้ข้อสงสัยให้หน่อยครับ
1. อาการหัวทิ่มนั้นเกิดจากแมปตัวเดิมนั้น อ่านค่าได้ -1 บาร์ – 0 บาร์ จะมีแรงดันที่0-5โวลท์ ฉนั้นเมื่อมีแรงบูสขึ้นมาแรงดันก็จะเกิน ผมก็เลยคิดว่าหาแมปตัวใหม่ที่วัดได้ -1บาร์ – 1 บาร์แล้วได้แรงดันที่0-5 โวลท์แทน ดังตัวอย่าง(เป็นตัวอย่างเฉยๆ)
แรงดันอากาศจริง แรงดันแมปเดิม (โวลท์) แรงดันแมปใหม่ (โวลท์)
-1 บาร์ 0 0
-0.5 2.5 1
0 บาร์ 5 2.5
1 บาร์ …. 5
จากตัวอย่างที่ผมลองให้ดูก็จะทำให้เมื่อมีแรงบูสแรงดันไฟฟ้าที่เกิดขึ้นก็ยังไม่เกินกำหนด ก็ไม่ทำให้รถหัวทิ่มไปทิ่มมาแล้ว ทีนี้มันก็เกิดปัญหาที่สังเกตุได้คือน้ำมันไม่พอเพราะกล่องยังอ่านค่าแรงดันไฟฟ้าเท่าเดิมอยู่ แต่ที่จริงเครื่องมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น ผมจะทำอย่างไรดีครับ
เพราะว่าหัวฉีดเดิมคงจ่ายน้ำมันสูงสุดได้ไม่เพียงพอเท่าที่ต้องการ ผมคิดไว้ 2 กรณีครับ
1. ใส่หัวฉีดเพิ่มอีก 2ตัว แต่ก็ไม่รู้จะควบคุมด้วยวิธีใด
2. เปลี่ยนหัวฉีดให้มีขนาดใหญ่ขึ้นทั้งหมด 4 ตัว แล้วทำการแก้กล่องใหม่เพื่อค่ามีความสัมพันธ์กันและสามารถแก้ไขปรับเปลี่ยนข้อมูลได้
นี่คือความคิดผมครับไม่รู้ว่ามันถูกรึไม่ครับคิดมานานแล้วแต่ก็ไม่กล้าปรึกษาใคร ทำไมต้องเป็นแบบนี้คือ เปลี่ยนแค่แมปและก็หัวฉีดใหญ่ขึ้น แล้วใช้กล่องเดิม เราก็ทำการปรับเปลี่ยนข้อมูลของรอมได้ให้จ่ายน้ำมันมากขึ้นหรือน้อยลงเมื่อค่าของแมปอยู่ แต่ละจุดแต่ละรอบ ใช้การปรับจูนของช่างที่รับแก้ไขรอมมันจะดูง่ายดีมั้ยครับ และก็น่าจะประหยัดดีครับ
ลืมบอกครับว่าใช้การบูสที่ไม่เกิน 0.7บาร์ ครับ
ค่อนข้างจะไร้สาระหน่อยนะครับ ต้องขอโทษไว้ด้วยครับ แต่ผมสงสัยมันมานานแล้วครับ
1-ข้อนี้ หากผมจะรวนคุณ ผมก็จะถามกลับไปว่า แล้วไดโนฯแบบไหนล่ะครับ คุณก็คงต้องรอคำตอบอีกนาน
แต่เอาละ ผมบอกแค่ไดโนฯแท่นตัวใหญ่ ที่เอารถขึ้นไปวางบนนั้นก็ได้ แต่อันที่จริง เขามีหลายวิธีนะ แต่ส่วนใหญ๋แล้ว หากเป็นบริษัทใหญ่ ก็จะเป็นไดโนฯแบบไดนาโมมิเตอร์ ปั่นไฟออกมาให้วัดกระแสไฟฟ้าเลย หากเป็นแบบเล็กเล็กก็จะเป็นการหมุนลูกกลิ้งเพื่อเอาชนะแรงเบรก
คือมีหลายวิธีที่ใช้วัดกันครับ ผมเคยใช้ไดนาโมมิเตอร์แบบหมุนติดกับจานล้อ คล้ายล้อที่ห้าของรถสี่ล้อ เป็นตัววัดกับคอมพิวเตอร์ ก็วัดแรงบิดที่ผ่านเข้าไปในจานไดนาโมมิเตอร์ แล้วแปลงค่าเป็นแรงม้าด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์
จะเป็นเครื่องยนต์อะไรก็วัดได้ทั้งนั้น ผมเคยมีใช้อีกตัวหนึ่ง วัดมอเตอร์ไซค์ ตัวนี้วัดด้วยแรงเบรกของเครื่องวัด
2-1-ผมไม่เข้าใจคำถามของคุณนะ เรื่อง Map หรือแมปที่คุณว่านั่นน่ะ ว่ามันเกี่ยวอะไรกับการจ่ายเชื้อเพลิง คือจริงจริงคุณไม่ได้ถามอะไรหรือเขียนว่าเป็น Map ของระบบเชื้อเพลิงหรอก แต่บอกเหมือนกับว่า เป็น Map ของเทอร์โบ
คือผมเคยเห็นและเคยใช้แต่แมปหรือ Map ของระบบจุดระเบิดเท่านั้นนี่ครับ คุณเข้าใจอะไรผิด หรือผมเข้าใจอะไรผิดตรงไหนหว่า
หรือคุณจะมีความรู้ล้ำหน้า เกินกว่าผมจะเรียนไปถึงแล้ว ถึงได้มี Map แรงดันอากาศเข้าไปบันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์
หรือจะหมายถึง MAP ตัววัดแรงดันอากาศของท่อไอดีกันล่ะหว่า
ไม่เข้าใจครับ
เอาเป็นว่า ไม่อยากคิดให้ยุ่งสมองดีกว่า เพราะผมไม่ได้เกี่ยวกับการทำรถแข่ง รถแต่งอะไรอยู่แล้ว คือหากจะคิดก็ได้อยู่หรอก แต่อยากบอกว่า ไปถามทางคุณวรพล สิงห์เขียวพงษ์ ซึ่งน่าจะมีเวลามาตอบคุณ คงจะดีกว่าถามผมนะครับ
อันที่จริง ก็ไม่ได้เกินไปที่จะตอบหรอก แต่อ่านแล้วมันปวดหัว เลยบอกว่า ความรู้ของผมมันไม่ถึงคุณ อย่างนี้ คุณน่าจะพอใจนะ
ขอถือโอกาส สวัสดีตรงนี้เลยดีกว่า
แต่ว่า เอาละ ไหนไหนก็ถามกันมา ไม่ได้แสดงออกถึงความอยากลองภูมิที่ผมเองก็ไม่มีเสียด้วยแล้ว ก็ตอบตอบกันไป ตามความเข้าใจของผมเองอย่างเดียวก็แล้วกัน ย้ำนะ ว่าตามความเข้าใจของผม และเบสออน หรือวางพื้นฐานอยู่บนข้อมูลที่คุณให้ คุณให้ข้อมูลผิด หรือหลอกมา ผมก็ไม่สนใจ แต่จะตอบไปตามความเข้าใจของผมเท่านั้น ไม่สนใจว่าข้อมูลที่คุณให้นั้น จริง หรือเท็จ แต่จะยึดข้อมูลที่ผมว่า ไม่ว่าจริงหรือเท็จนั้น เป็นหลักในการให้ความเห็นเท่านั้น
หากคุณหมายถึง Manifold Absolute Pressure Sensor ในคำแทนว่า แมป หรือที่ผมเข้าใจเอาเองว่า หมายถึง MAP แล้วละก็ ให้ความเห็นได้ดังนี้ครับ
ผมไม่ทราบว่า คุณจะไปหา MAP Sensor ตัวที่สามารถวัด และให้ค่าแรงดันกระแสตามที่คุณบอกไว้ได้จากไหน ผมลองดูตามข้อมูลที่มีอยู่ ก็ไม่แน่ใจว่าจะหาได้ ที่แน่แน่ก็คือหา Air Flow Meter ที่ใหญ่กว่ามาใส่ได้ แต่คุณคงไม่ต้องการ เพราะแอร์โฟลวมิเตอรใหญ่ก็จะช่วยเพียงให้เร่งขึ้นดีกว่าเท่านั้นอีกด้วย ไม่ได้เกี่ยวกับการจ่ายเชื้อเพลิง
ดังนั้น ก็คงต้องตอบว่า คุณพอจะทำได้ หากจะหาหัวฉีดเพิ่ม โดยใช้ระบบของ System Secondary Injector Driver มาใช้ให้ได้ จะหาจากที่ไหน? ก็คงต้องหาจากอเมริกาแล้วละครับ หากในนี้ ไม่มีใครสั่งเข้ามา อุปกรณ์ชิ้นนี้ จะทำงานสนับสนุนหัวฉีด 10-15 โอมห์ 1-8 หัว
ใช้ได้กับ 4, 6 และ 8 หัวฉีด และใช้ได้กับ -25 ถึง 0 Vacuum, 1 ถึง 15 psi และ 1 ถึง 30 psi เลือกใช้ให้เหมาะกับแรงดันเทอร์โบหรือซูเปอร์ชาร์ทของคุณ
เจ้าชุดที่ว่านี่ มาพร้อมกับสายไฟ และ Map Sensor และ LED มอนิเตอร์ อาจจะเลือกให้มีแบบรีโมดปรับอินพุดได้ และปรับการจ่ายน้ำมันได้ตั้งแต่ 1-15 มิลลิเซคกัน สูงมากนะครับ เพราะปกติก็จ่ายน้ำมันเพียง 3 มิลลิเซคกันเท่านั้น พอไหม?
ลองหา INTERACQ ดูก็ได้ อาจจะมีใครเอาเข้ามาขายในบ้านเรานะ ตัวนี้ต้องใช้คอมพิวเตอร์ปรับ
2-2 ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหัวฉีดใหม่ให้ใหญ่ขึ้นหรอก ใช้หัวฉีดแบบไฮอิมเพนเด้นท์อย่างที่ผมบอกไว้ในข้อ 2-1 ก็ได้ครับ แล้วหากคุณปรับคอมพิวเตอร์ให้จ่ายเชื้อเพลิงได้ยาวขึ้น ก็น่าจะพอกล้อมแกล้มใช้ได้ แต่ไม่ดีเท่าแบบแรก
เอาละ ตอบกันแล้ว ยาวไปหน่อยนะ แต่ก็ตอบเพราะเห็นว่า คุณไม่ได้คิดหรือมีทีท่าว่าจะลองภูมิกันเลย แค่นั้นเอง-ธเนศร์
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…
บริษัท มิตซูบิช…