Brand: MITSUBISHI Model: Lancer
Year: 1994 Miles: 100001 – More
From: พิชิต บัณฑิตเลิศรักษ์
: E-Care 1500cc
รถเอียงต่ำมาทางขวาหน้าครับและมีอาการกินยางขอบด้านนอกทั้ง2ล้อหน้าเลยครับ เอาไปให้ช่างทำช่วงล่างมาเสียเงินไปหมื่นนึงแล้วก็ไม่หายครับ แถมช่วงล่างแข็งกว่าเก่าโดนหลุมหรือเนินทีกระโดดกึงๆเลยครับ ช่างบอกเปลี่ยนshock upให้แล้วอัดน้ำมันใหม่ครับ ผมควรทำอย่างไรดี
และขออีกปัญหานึงครับ คือวาวล์ดังมาก ช่างตั้งแล้ววิ่งไม่ได้ครับกระตุกแบบไม่มีแรง เลยต้องปล่อยให้มันดัง(ถ้าวิ่ง120ซัก30นาทีความร้อนจะขึ้นเกินปกติด้วยครับไม่รู้เกี่ยวกันหรือเปล่า)และมีอาการสะดุ้งๆตลอดเวลาครับช่างเคยเปลี่ยนคอล์ยจานจ่ายแล้วครับแต่ไม่ดีขึ้น ควรเอาเข้าอู่ไปทำอะไรอีกดีครับ ช่างยุแต่จะให้เปลี่ยนเครื่องตลอดเลย รถผมวิ่งกินน้ำมันประมาณ10กิโล/ลิตรครับ ทางด่วนตลอด ขอบคุณครับ
1.เปลี่ยนคอล์ยจานจ่าย
2.เช็คช่วงล่าง เปลี่ยน shock up
ก่อนอื่น ต้องขอให้เข้าใจกันเสียก่อนว่า Shock-absorber นั้น ช่วยในการซับแรงกระเด้งของสปริง หาได้มีส่วนใดช่วยในการรับน้ำหนักรถไม่
ดังนั้น การที่รถทรุดตัวลง ไม่ได้เป็นส่วนใดอันมาจากความเสียหายหรือผิดพลาดของ Shock-absorber เลยแม้แต่น้อย ยกเว้นแต่คุณจะใส่ S-a อย่างสั้นกว่าควรเข้าไปข้างหนึ่ง อีกข้างใส่อย่างปกติ ก็อาจจะเกิดการเอียงข้างของรถขึ้นมาได้บ้าง
เมื่อเป็นที่เข้าใจกันแล้ว ว่า S-a ไม่ได้มีส่วนในเรื่องการเอียงของรถ การที่ช่างบอกให้เปลี่ยน Shock-absorber และอัดน้ำมันใหม่นั้น จึงไม่ถูกต้อง และเป็นการแก้ปัญหาโดยคนไม่รู้เรื่องการทำงานของชิ้นส่วนรถยนต์ครับ
คุณควรจะหาช่างใหม่ เพื่อให้ตรวจดูอาการทรุดของรถ อันน่าจะมาจากสปริงทรุดตัว จะเป็นด้วยฐานสปริงเอียง หรือยางรองสปริงด้านหนึ่งขาดหายไปแล้ว หรือสปริงทรุดเองเนื่องจากการใช้งาน ก็ต้องหาปัญหาจากการตรวจสอบชิ้นส่วนอะไหล่เท่านั้น แนะนำให้ไปหาช่างที่อื่น ไม่ใช่ที่ที่บอกคุณว่า Shock-absorber เสียครับ
รถของคุณ หากเป็นเครื่องที่ตั้งวาล์วได้ ก็จะต้องตั้งให้เงียบได้ คือผมไม่ทราบว่า วาล์วรุ่นนี้เป็นไฮดรอลิกหรือไม่ หากไม่ใช่ ก็ต้องตั้งได้ และตั้งให้เงียบได้ ช่างตั้งแล้วตั้งอีก ไม่เงียบ หรือเมื่อเงียบแล้ว กลับวิ่งไม่ออก เป็นผม ผมจะเปลี่ยนช่าง ไปให้ไกลจากช่างคนนั้น คนที่บอกให้เปลี่ยนเครื่องยนต์ไปเลยนี่แหละครับ ไปให้ไกล ไปให้พ้น อย่าได้มาพบเห็นหน้ากันอีกเลยจะดีที่สุด
แค่ฝีมือการตั้งวาล์ว ก็ทำไม่ได้เสียแล้ว จะไปเอาอะไรมากิน นอกจากปลิ้นปล้อนเขาว่า ตัวเองเป็นช่าง ทั้งที่ไม่ได้เป็นแม้แต่เพียงนิดเดียว
การที่วิ่ง 120 ราว 30 นาทีแล้วเครื่องยนต์ค่อยค่อยร้อนขึ้นนี่ ผมเห็นว่า เป็นปกติ เพราะเครื่องยนต์เก่าแล้ว ช่องทางน้ำระบายความร้อนก็อาจจะถูกตะกรันอลูมิเนียม หรือสนิมเหล็กไปจับ ทำให้ช่องลดขนาดลง เมื่อคุณเร่งความเร็วต่อเนื่องกัน ก็จะมีน้ำไประบายความร้อนน้อย ไม่เพียงพอ เครื่องยนต์จึงร้อน
อีกอย่าง ก็คือการละเลย ไม่ยอมเติมน้ำยาหม้อน้ำ นี่เป็นความเสียหายที่มากมาย สำหรับระบบระบายความร้อนของรถยนต์ปัจจุบัน ที่ผู้ใช้ไม่ค่อยยอมรับว่า ไม่ได้เติม ไม่ได้ผสม เพราะแพง ทั้งที่ไม่แพง โดยเฉพาะเมื่อเอาราคาน้ำยามาเปรียบเทียบกับความเสียหายของระบบระบายความร้อน ที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จัดการเสียนะครับ แก้ไขระบบระบายความร้อน และเติมน้ำยาให้ระบบให้เรียบร้อย อ้อ ดูด้วยว่า สายพานตึงพอหรือไม่ และปั๊มน้ำทำงานเต็มที่ดีหรือไม่
แต่ผมถามหน่อย คุณหาทางที่ไหน วิ่ง 120 หรือ 2 กิโลเมตรต่อนาที หรือ 60 กิโลเมตรต่อครึ่งชั่วโมง อย่างที่คุณบอก แบบต่อเนื่องกันครับ
ขนาดผมวิ่งบนทางด่วนสายชลบุรี-บางนา ยังใช้เวลาไม่ถึงอย่างนั้น และไม่สามารถจะวิ่งต่อเนื่องกัน 120 ได้ตลอดเส้นทางเสียด้วย นอกจากกลางคืน ดึกดึก เท่านั้นแหละ
อาการสะดุ้งของเครื่องยนต์? เอ เป็นอย่างไร เอาเป็นว่า มีอาการสะอึกเป็นระยะ ก็ต้องดูน้ำมัน กับการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง หากเป็นการสะดุดของเครื่องยนต์ ก็ต้องดูสายหัวเทียน และหัวเทียนครับ-ธเนศร์
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…