ปัจจุบันกระแสการพัฒนารถยนต์ให้มีเครื่องยนต์ขนาดที่เล็กลงพร้อมด้วยปริมาตรกระบอกสูบที่มีขนาดเล็กกว่าเดิม แต่กลับสามารถเพิ่มสมรรถนะของเครื่องยนต์ให้มีพละกำลังและแรงบิดที่เพิ่มสูงเพิ่มขึ้นจนเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ที่มีปริมาตรกระบอกสูบที่มีขนาดใหญ่กว่า หรือที่เรียกกันอย่างแพร่หลายว่า เอนจิ้น ดาวไซด์ซิ่งค์ (Engine Downsizing) ซึ่งในขณะนี้กำลังเป็นที่นิยมในตลาดรถยนต์ของประเทศไทย แต่ในตลาดแถบยุโรปและอเมริกาเป็นที่นิยมมานานแล้ว เนื่องด้วยการเผชิญกับสภาวะต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น และความพยายามที่ต้องการลดมลภาวะทางอากาศเพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยตลาดรถยนต์ของประเทศไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รถยนต์ค่ายยุโรปหลายค่ายต่างเปิดตัวรถยนต์ของตนที่มีเทคโนโลยีลักษณะดังกล่าวเพื่อการแนะนำและเปิดโอกาสให้ลูกค้าชาวไทยได้รู้จักและทดลองใช้ แต่ด้วยความใหม่ของเทคโนโลยีจึงส่งผลให้ราคาจำหน่ายของรถยนต์เหล่านั้นมีราคาที่สูงมาก ทั้งนี้ เอ็มจี ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์ชั้นนำจากประเทศอังกฤษ มีนโยบายที่จะพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวด้วยเช่นกัน เพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสเป็นเจ้าของรถยนต์เทคโนโลยีสมัยใหม่ด้วยราคาจำหน่ายที่เหมาะสมและประหยัดกว่า ปัจจุบัน เอ็มจี ได้ทำการศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีระบบการอัดอากาศ หรือ ที่นิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า เทอร์โบ (Turbo) เข้ามาติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงานเพื่อการจำหน่ายในทุกตลาดทั่วโลก
เทอร์โบ ประกอบด้วย ชุดเทอร์ไบน์ (Turbine) และคอมเพรสเซอร์ (Compressor) มีลักษณะคล้ายกังหันทั้งสองข้างติดตั้งอยู่บนแกนเดียวกัน และหมุนพร้อมกันตลอด โดยชุดกังหันเทอร์ไบน์จะถูกขับเคลื่อนด้วยแรงดันไอเสียจากห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ ซึ่งแตกต่างจากเครื่องยนต์แบบไม่มีเทอร์โบ แก๊สไอเสียจะถูกปล่อยออกทางท่อไอเสียโดยตรง ขณะเดียวกันการอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์แบบที่มีเทอร์โบจะมีประสิทธิภาพสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ที่ไม่มีเทอร์โบ ดังนั้น เครื่องยนต์เทอร์โบจึงมีประสิทธิภาพในการนำอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ได้ดีกว่าและมีแรงอัดต่อเนื่องมากกว่า การเพิ่มส่วนผสมระหว่างอากาศ-เชื้อเพลิงที่มากขึ้นในห้องเผาไหม้ทำให้มีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ดีกว่า จึงนำมาซึ่งพละกำลังที่สูงขึ้น
ทั้งนี้บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้แนะนำรถยนต์สมรรถนะเยี่ยมที่มีการติดตั้งเทคโนโลยีเทอร์โบพร้อมด้วยเครื่องยนต์แบบเฟล็กซ์ฟิว (Flex Fuel) ที่สามารถรองรับน้ำมันเบนซินที่มีส่วนผสมของเอทานอล ซึ่งสามารถรองรับได้ตั้งแต่น้ำมันเบนซินธรรมดา แก๊สโซฮอล์ E10 E20 และ E85 จากโรงงานผลิตที่จังหวัดระยองของ เอ็มจี จำนวน 3 รุ่น และจัดจำหน่ายในประเทศไทย ได้แก่ MG5 MG6 และ NEW MG GS เพื่อมุ่งตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าชาวไทย โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ที่สนุกสนาน เร้าใจ และแตกต่างแบบที่ไม่ต้องการตามใคร
ทั้งนี้ เอ็มจี ขอสรุปคุณประโยชน์ของเทอร์โบ 5 ข้อ ดังต่อไปนี้
1. สามารถปรับจูนเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับการใช้งานมากขึ้น
นอกจากการเลือกใช้เครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับรถยนต์ในแต่ละรุ่นแล้ว การติดตั้งเทอร์โบ และการปรับบูสต์เทอร์โบ ยังเปิดโอกาสให้ทีมวิศวกรสามารถปรับแต่งสมรรถนะการขับขี่ให้เหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ที่ช่วยให้การใช้งานในเมืองมีความคล่องตัวเพิ่มมากขึ้น ช่วยเพิ่มอัตราการเร่งแซงและประหยัดเชื้อเพลิงเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันยังสามารถปรับแต่งรถยนต์ให้มีสมรรถนะที่สูงขึ้น และมีอัตราความเร็วที่เพิ่มขึ้น สำหรับการขับขี่นอกเมืองได้อีกด้วย โดยรถยนต์ เอ็มจี แต่ละรุ่นมีการออกแบบและปรับจูนเครื่องยนต์และเทอร์โบให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานตามประเภทของรถยนต์ในแต่ละรุ่น ของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
2. เพิ่มพละกำลังของเครื่องยนต์
เทอร์โบมีหน้าที่เพิ่มไอดีเข้าสู่เครื่องยนต์ได้มากขึ้น จึงช่วยเพิ่มประสิทธิการเผาไหม้และเพิ่มพละกำลังของเครื่องยนต์ได้โดยไม่ต้องขยายความจุของเครื่องยนต์ โดยเครื่องยนต์ที่ได้รับการติดตั้งเทอร์โบและมีการปรับแต่งอย่างถูกต้องเหมาะสม จะช่วยเพิ่มพละกำลังแรงม้าที่มากกว่าเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่แต่ไม่มีเทอร์โบ เช่นเดียวกันกับ NEW MG GS สปอร์ตเอสยูวี ที่สามารถทำอัตราการเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 8.2 วินาที ด้วยขุมพลังเบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร แรงสุด 218 แรงม้า
3. ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลือง
เพราะบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สามารถใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กที่มาพร้อมเทอร์โบแทนที่เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ แต่ยังคงสร้างพละกำลังและแรงบิดได้มากตามเป้าหมาย มีอัตราการเร่งที่ดีเยี่ยมในยามที่ต้องการเร่งแซง ขณะเดียวกันการขับขี่ในชีวิตประจำวันในสภาวะเมืองใหญ่ ท่ามกลางสภาพจราจรที่ติดขัดที่ต้องใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำตลอดเวลา และยังไม่ถึงรอบเครื่องยนต์ที่เทอร์โบต้องทำงาน เครื่องยนต์จึงมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ไม่สูงมากนัก ซึ่งเทียบเท่า หรือ ใกล้เคียงกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่แบบปกติ ทั้งนี้การทดสอบอย่างเข้มข้นในอุโมงค์ลมนานกว่า 200 ชั่วโมง ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าดีไซน์ภายนอกของ NEW MG GS ถูกออกแบบมาตามหลักอากาศพลศาสตร์ แต่ยังคงความโดดเด่น และยังสามารถรองรับการใช้งานในทุกรูปแบบ
4. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นอกจากเทอร์โบจะช่วยเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์ให้สูงขึ้นแล้ว เทอร์โบยังช่วยลดมลพิษด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกระบวนการเผาไหม้ให้มีความสมบูรณ์และสะอาดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ด้วยไอเสียที่มีความสะอาดมากขึ้นนี้ ย่อมหมายถึงการมีปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยออกมาจากเครื่องยนต์ลดลง และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น
5. ขับสนุกมากขึ้น และมีความทนทานสูง
ในอดีตที่ผ่านมาการติดตั้งเทอร์โบมักถูกติดตั้งในรถสปอร์ต หรือ รถที่มีสมรรถนะสูงเป็นส่วนใหญ่ แต่ในปัจจุบันมีการติดตั้งเทอร์โบในรถยนต์นั่งทั่วไปมากขึ้น ซึ่งเทอร์โบจะช่วยเพิ่มแรงบิด เพิ่มอัตราการเร่งที่สูงขึ้น จึงส่งผลให้รถยนต์ที่ติดตั้งเทอร์โบมีการขับขี่ที่สนุกสนาน เร้าใจ เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ NEW MG GS สปอร์ตเอสยูวี รุ่นแรกของ เอ็มจี มีการทดสอบเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนของรถยนต์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศด้วยการขับต่อเนื่องเป็นระยะทางยาวนานถึง 1,000,000 กิโลเมตร รวมทั้งการทดสอบความทนทานในสภาพภูมิอากาศที่ทรหดในหลายประเทศ เพื่อให้ลูกค้าทุกคนมีความมั่นใจและเชื่อมั่นในคุณภาพและความทนทานของ NEW MG GS สปอร์ตเอสยูวี ในแบบที่ไม่ตามใคร
NEW MG GS มีให้เลือก 2 รุ่น คือ 2.0T D 2WD ราคา 1,210,000 บาท และ 2.0T X AWD ราคา 1,310,000 บาท
สามารถติดตามคลิป NEW MG GS กับบททดสอบ อัตราการเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 8.2 วินาที ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=nU67CA71FxU