รูดม่านเปิดฉากอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ “งานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์”ครั้งที่ 33 ซึ่งปีนี้มาพร้อมคอนเซ็ปต์งาน “ความเหมือนที่แตกต่าง” โดยเนรมิตพื้นที่ขนาดมหึมา ชาเลนเจอร์ ฮอล อิมแพ็ค เมืองทองธานี บรรจุสุดยอดยนตรกรรมล้ำอนาคตรอให้ผู้เข้าชมนับล้านได้ชื่นชมอย่างใกล้ชิด ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม ถึง 8 เมษายน 2555
BMW
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ประกาศความเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับพรีเมี่ยมอีกครั้งในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 33 ซึ่งในงานนี้ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีย์ 5 ได้รับการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ด้วยการเพิ่ม BMW TwinPower Turbo ใหม่ พร้อมทั้งเปิดตัวซีรีย์ 5 ใหม่ในรุ่น 520i, 528i, และ 528i Sport
นอกจากนี้ ยังเปิดตัว BMW ActiveHybrid 5 เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเป็นการเสริมทัพบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีย์ 5 ด้วยเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ไฮบริดเต็มรูปแบบ โดยวิศวกรของบีเอ็มดับเบิลยูได้พัฒนาระบบไฮบริดแบบใหม่สำหรับ BMW Concept 5 Series ActiveHybrid ขึ้นมาโดยเฉพาะ ที่เป็นการผนวกระบบมอเตอร์ไฟฟ้า เข้ากับเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียง พร้อมด้วยเทคโนโลยีระบบอัดอากาศแบบ TwinPower Turbo
ซึ่งแหล่งกำเนิดกำลังทั้งสอง จะทำงานร่วมกันในแบบ Full Hybrid คือ สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ กำลังที่ผลิตจากทั้งสองระบบ ถูกเปลี่ยนเป็นกำลังขับเคลื่อนผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
ไฮไลต์สำคัญของงานนี้ที่ขาดไม่ได้ คือ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีย์ 3 ใหม่ ที่มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งภายในและภายนอกที่มีให้เลือกถึง 3 ไลน์ เพื่อกำหนด 3 คาแรกเตอร์อันโดดเด่น ประกอบไปด้วย สปอร์ตไลน์, โมเดิร์นไลน์ และลักชัวรี่ไลน์
นอกจากนี้ เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 1,995 ซีซี 184 แรงม้าที่ 4,000 รอบนี้ มาพร้อมกับ BMW TwinPower Turbo และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ทำให้ประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยมที่อัตรา 22.7 กิโลเมตรต่อลิตร และมีอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ต่ำเพียง 117 กรัมต่อกิโลเมตร ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU
ซึ่งรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูที่เข้ามาจัดแสดงในงานทุกรุ่น จะมาพร้อมกับโปรแกรมบริการหลังการขาย BSI BMW Services Inclusive ซึ่งเป็นการรับดูแล บำรุงรักษาและซ่อมแซมตลอดระยะเวลา 5 ปี/ 100,000 กิโลเมตร
CHEVROLET
เชฟโรเลต ประเทศไทย เข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งนี้ ด้วยยนตรกรรมชั้นนำของจีเอ็มเช่นเคย นำโดยรถไฮไลท์ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้ากับ เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ รถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย โดยมาพร้อม 2 เครื่องยนต์ 2.5 และ 2.8 ลิตร และความสะดวกสบาย สมรรถนะที่รองรับทุกรูปแบบการใช้งาน ทั้งในเมืองและออฟโรด บวกกับความกว้างขวางภายใน ทำให้เทรลเบลเซอร์ ทำให้ดูน่าสนใจขึ้น
นอกจากนั้นยังมีในส่วนของ เชฟโรเลต โคโรลาโด กระบะพันธ์แรง ที่จะเข้ามาปั้นยอดขายกันในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ ตามมาด้วย เชฟโรเลต ครูซ รถซีดาน สุดหรู และเชฟโรเลต แคปติวา ที่กระแสกำลังดีขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะนี้
ซึ่งผู้เข้าชมงานอาจจะได้เห็นกับรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดของเชฟ อีก 1 คัน ที่คาดว่าจะเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ก้คือ เชฟโรเลต โซนิค รถเล็กขนาดกระทักรัด ที่จะเข้ามาขายแทน ดชฟโรเลตอาวีโอที่กำลังจะปลดระวางไป
FORD
ฟอร์ด ประเทศไทย เข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2012 ด้วยการเผยโฉม ฟอร์ด โฟกัส ไททาเนียม ใหม่ เป็นครั้งแรก โดยจะให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสตัวจริงทั้งแบบแฮทแบ็กซ์และซีดาน พร้อมกับรูปลักษณ์ใหม่ที่โดดเด่น โชว์ความเป็นรถระดับโลก แม้จะยังไม่ได้เปิดให้จองกันในงาน แต่ก็ถือว่าเป็นการชิมลาง กระตุ้นความสนใจแฟน ๆ ของฟอร์ดได้เป็นอย่างดี
ผู้เข้าชมบู๊ธฟอร์ดจะได้พบกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ระดับโลก จากการจัดแสดงภายในบูธแล้ว ท่านจะยังได้พบกับรถทุกเซ็กเมนท์ของฟอร์ดที่จะเรียงหน้ามาโชว์ความสวยงามให้ท่านได้เห็นอย่างเต็มตาๆ ไล่กันไปตั้งแต่ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ กระบะพันธ์แกร่ง ที่พกพาทั้งเทคโนโลยีและความสวยงามมาให้แก่ลูกค้า มีให้เลือกขนาดเครื่องยนต์ทั้งแบบ 2.2 ลิตร 150 แรงม้า และดีเซล 5 สูบ 3.2 ลิตร 200 แรงม้า และ เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร 166 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และสองล้อ
เฟียส ต้า ยังมาพร้อมกับความโฉบเฉี่ยว และความสะดวกสบายอย่างสมบูณณ์แบบ ด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์เหนือระดับ กับ เฟียสต้า 1.6 แอล สปอร์ต อัลติเมต เหนือชั้นด้วยความทันสมัยกับถุงลมนิรภัย 7 ใบ รอบคัน และชุดแต่งใหม่รอบคัน และเมื่อเช่าซื้อผ่านฟอร์ด ลีสซิ่ง รับฟรีทันทีประกันภัยชั้น 1
ส่วน เฟียสต้า 1.5 ลิตร ที่เปิดตัวไปก่อนหน้างานมอเตอร์โชว์ไม่นานนัก เพื่อออกมาสู่กับตลาดรถยนต์ขนาดเล็กในเรื่องของสิทธิ์รถภาษีคันแรก ก็น่าจะถูกโชว์ตัวอยู่ในงานนี้ด้วยเช่นกัน โดย รุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ใช้เครื่องยนต์ระบบแปรผันแคมชาร์ฟแบบอิสระคู่ Ti-VCT ติดตั้งระบบ หรือ ESP, ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน หรือHill Launch Assist, ระบบเบรก ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD พร้อมการติดตั้งถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
นอกจากนี้ ฟอร์ด จะยังนำ ฟอร์ด เทอริทอรี่ เอสยูวี ใหม่ล่าสุดของค่ายที่จนกันข้ามน้ำข้ามทะเลมาโชว์ตัวให้ชาวไทยได้เห็นกัน โดย ทเอริทอรี่ เป็นเอสยูวี ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการเชื่อมต่ออัจฉริยะ USB และ iPod พร้อมเครื่องยนต์ TDCi V6 ขนาด 7 ที่นั่ง พร้อมระบบใหม่จากฟอร์ด ระบบเบรกป้องกันล้อล็อคขณะที่เบรกกะทันหัน และระบบช่วยเบรกเพื่อป้องกันการลื่นไถลของรถครับเ หมาะเป็นรถสำหรับครอบครัวตัวจริง ถือเป็นอีกรุ่นที่น่าจับตามองมากในปี 2012
HONDA
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งนี้ ด้วยการขนขบวนรถระดับหรูมาล้นบูธ โดยในงานนี้ เป็นการเผยโฉม ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยแนวคิด “ความเป็นที่สุดของรถซีดาน” เครื่องยนต์ i-VTEC 1.8 ลิตร และ 2.0 ลิตร ใช้น้ำมัน E85 ได้เป็นรุ่นแรกของฮอนด้า มีจำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่น เปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ในราคาที่ใกล้เคียงกับรุ่นปัจจุบัน หรือเพิ่มขึ้นในบางรุ่น แต่ไม่เกิน 20,000 บาท
ต่อด้วย รถแต่งต้นแบบ ฮอนด้า บริโอ้ ที่มาด้วยการแต่งรถใน 2 สไตล์ คือ Day Life Concept ที่สะท้อนความโฉบเฉี่ยวเต็มรูปแบบอย่างลงตัวกับสีพิเศษ ส้ม โซล่าร์ เมทัลลิก และ Night Life Concept ที่แสดงถึงความล้ำสมัยของพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ บ่งบอกถึงความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เอาใจคนรักการแต่งรถโดยเฉพาะ
อีกหนึ่งไฮไลท์อันสำคัญ คือ ขบวนรถนำเข้าที่ฮอนด้าขนมาอวด เริ่มตั้งแต่ โอดิสซีย์ ยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับหรู พิถีพิถันในทุกรายละเอียด ผสานกับสมรรถนะการขับขี่ที่นุ่มนวลอย่างซีดานให้ความคล่องตัวในทุกการขับขี่ เครื่องยนต์อัจฉริยะ DOHC i-VTEC 2.4 ลิตร 180 แรงม้า สมรรถนะสูง แต่มลพิษต่ำผ่านมาตรฐาน Euro 4 เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมปุ่ม ECON Mode ที่ช่วยให้การขับขี่มีประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงยิ่งขึ้น
สเตปแวกอน สปาด้า รถมินิแวนสปอร์ตหรู ห้องโดยสารกว้างขวางรองรับได้ถึง 8 ที่นั่ง เครื่องยนต์แบบ SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC 2.0 ลิตร 150 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้งถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ระบบควบคุมการทรงตัว VSA ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่ บนทางลาดชัน (Hill Start Assist) เพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่
ส่วน ซีอาร์-ซีร์ ยนตรกรรมสปอร์ตไฮบริด อัจริยะแห่งนวัตกรรมการขับเคลื่อนที่ให้ประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตอบสนองการขับขี่ที่สนุกเร้าใจได้ทุกวัน ดีไซน์ล้ำสมัยสไตล์รถแข่ง เครื่องยนต์อัจฉริยะ SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC 1.5 ลิตร และระบบมอเตอร์ไฟฟ้า IMA (Integrated Motor Assist) มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา ให้ประสิทธิภาพสูง แรงและประหยัดน้ำมัน พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยระดับโลก ทั้งระบบถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ และม่านถุงลมด้านข้าง ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบช่วยควบคุมการทรงตัวแบบ VSA ให้ทุกการขับขี่มั่นใจยิ่งขึ้น
HYUNDAI
ไฮไลท์ของ “ฮุนได” น่าสนใจเมื่อนำ Hyundai Veloster เข้ามาโชว์ให้ลูกค้าชาวไทยได้ยลโฉมตัวเป็นๆ กันอย่างใกล้ชิด เป็นเสมือนการกระตุ้นต่อมอยากของผู้ที่ชื่นชอบในรถรูปทรงแบบ Hatchback Coupé โฉบเฉี่ยว ดุดัน ด้วยเส้นสายที่คมชัดสะท้อนความมั่นใจ มีสไตล์กับหลังคาแก้ว Panoramic Sunroof เครื่องยนต์ Gamma 1.6 MPI ให้กำลังสูงสุด 130แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 156.8 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 6 จังหวะ และใช้เชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยต่ำสุดถึง 17.4 กม./ลิตร ในกรณีใช้งานนอกเมือง สอดคล้องกับทิศทางการออกแบบรถยนต์ยุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ส่วนรุ่นอื่นที่พร้อมโชว์ตัวให้ได้จับจอง นั้น นำโดย ฮุนได เอลันตร้า ใหม่ ที่เป็นรถธงนำขบวนรุ่นอื่นๆ เข้าร่วมงานในครั้งนี้ เอลันตร้า ใหม่ มีให้เลือก 3 รุ่น ด้วยกัน คือ รุ่น 1.8E (เกียร์ธรรมดา 6 สปีด) ในราคาแนะนำช่วงเปิดตัว และในงาน มอเตอร์โชว์ เพียง 899,000 บาท (จำนวนจำกัดสำหรับ 200 คันแรก) รุ่น 1.8S (มาตรฐานเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด) 1,088,000 บาทและรุ่น 1.8G (รุ่นสูงสุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด) 1,198,000 บาท
ด้านรถขายดีอันดับหนึ่งของค่าย อย่าง ฮุนได เอช-1 ปี 2012 ก็มีมาให้จับจองถึง 3 รุ่น คือ ฮุนได เอช-1 ดีลักซ์ ราคา 1,524,000 บาท ฮุนได เอช-1 เอ็กคลูซีฟ ราคา 1,442,000 บาท และ ฮุนได เอช-1 ทัวร์ริ่ง เกียร์ธรรมดา ราคา 1,086,000 บาท พร้อมด้วย ฮุนได แกรนด์ สตาเร็กซ์ วีไอพี ใหม่ ลักชัวรี่ เอ็มพีวี แบบ 7 ที่ นั่งขนานแท้ ราคา1,928,000 บาท ด้านของฮุนได ทูซอน และ ฮุนได โซนาต้า ก็มีมาให้ได้ชมในงานนี้ด้วยเช่นกัน
แคมเปญพิเศษ จองฮุนได เอลันตร้า ใหม่ ทั้ง 3 รุ่น จะได้รับ Modern Premium satisfaction ที่มาพร้อมรถเอลันตร้าทุกคัน ฟรี รับประกันคุณภาพ 4 ปี หรือ 120,000 กม.ฟรี บำรุงรักษานาน 4 ปี หรือ 80,000 กม.และฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 4 ปี
ISUZU
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ระดมสุดยอดรถปิกอัพสำหรับคนทั้งโลก โชว์ศักยภาพเต็มพื้นที่มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 33 ในคอนเซ็ปต์ “PICKUP FOR THE WHOLE WORLD” นำธงโดย “อีซูซุดีแมคซ์ รุ่นใหม่หมด!” วี-ครอส 4×4 แบบ Big Foot ครั้งแรกในประเทศไทยกับชุดยกช่วงล่างขนาด 9 นิ้ว จาก Unicorn โช๊กอัพแบบสตรัทปรับเกลียว (Coil Over Shock) พร้อม Sub-tank จาก Hot Bits และยางขนาดใหญ่ 37 นิ้ว สปอตไลท์จาก Light Force พร้อมด้วย Winch, Snorkel และ Mud Guard สวยงาม ดุดัน
ตามมาด้วย “อีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ รุ่นใหม่หมด!” ตกแต่งพิเศษสไตล์ City Racing ดีไซน์พิเศษเจาะใจวัยรุ่น ด้วย Car Wrapping สีฟ้าคาดดำ สุดเท่ พร้อมชุดโหลดช่วงล่างด้านหน้าแบบสตรัทปรับเกลียว (Coil Over Shock) จาก Hot Bits และชุดปรับช่วงล่างด้านหลัง ล้ออัลลอยด์ขนาด 22 นิ้ว ยางขนาด 305/45 R22 ตอบโจทย์เทรนด์ใหม่ของไลฟ์สไตล์คนทันสมัย
พร้อมด้วย “อีซูซุมิว-เซเว่น ช้อยส์” รุ่นพิเศษ Premium Sound by Kenwood จำนวนจำกัดเพียง 300 คัน ดีไซน์พิเศษด้วยชุดเครื่องเสียงระดับ Hi-end พร้อมการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของแอพพลิเคชั่นสมบูรณ์แบบ รถปิกอัพ “อีซูซุดีแมคซ์ รุ่นใหม่หมด!” อาทิ ระบบการเตือนเพื่อเข้ารับบริการตรวจเช็คสภาพรถตามระยะทาง (i-Service), ระบบบันทึกอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง (i-Fuel) และโปรแกรมนำทาง Google Map เคียงคู่กับระบบนำทางอัจฉริยะจากอีซูซุที่ช่วยระบุทุกพิกัดอย่างแม่นยำ พร้อมให้คุณโหลดและอัพเดทใน iPhone และ iPad
นอกจากนั้น ยังมีการโซน Synergic Social Network เพื่อแชร์ความสนุกในโลกออนไลน์ด้วย Facebook พร้อมศิลปินดาราและคนบันเทิงที่ผลัดเปลี่ยนกันมาร่วมพบปะและเล่นเกมสร้างความสุขกันทุกวันตลอดงาน พร้อมเชิญร่วมสนุกกับ Isuzu Photo Contest ถ่ายภาพรถปิกอัพ “อีซูซุดีแมคซ์ รุ่นใหม่หมด!” ประชันคู่กับสาวสวย หรือภาพความทรงจำดีๆ ในบริเวณบูธอีซูซุภายในงาน เพื่อลุ้นรับรางวัลกล้องถ่ายรูป FUJI รุ่น X100, กล้องถ่ายรูป Nikon 1 รุ่น J1 และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท
LEXUS
ไฮไลท์สำคัญสำหรับงานมอเตอร์โชว์ของค่ายรถหรูอย่าง เลกซัส ก็คือ เลกซัส จีเอส ใหม่ สปอร์ตซีดานหรู ที่มีมา 2 รุ่น ด้วยกัน คือ จีเอส250 และ จีเอส350 โดดเด่นด้วยดีไซน์กระจังหน้าแบบใหม่ “Spindle Grill” ถือเป็นการสะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์เลกซัส
เลกซัส จีเอส จะถูกวางจำหน่ายก่อน 4 รุ่น ด้วยกัน คือ จีเอส350 รุ่น F-SPORT พร้อมมูนรูฟ ราคา 6,690,000 บาท จีเอส250 รุ่น Premium ราคา 5,090,000 บาท จีเอส250 รุ่น F-SPORT พร้อมมูนรูฟ ราคา 4,990,000 บาท จีเอส250 รุ่น Luxury ราคา 4, 590,000 บาท โดยในช่วงเดือนเมษายนจะทำการเปิดตัว จีเอส450เอช ซึ่งใช้เทคโนโลยีไฮบริด ออกมาทำตลาดด้วยราคา 7,790,000 บาท
ทั้งยังขนกองทัพรถไฮบริดมาโชว์ในงานอย่างคับคั่ง อีก 1 รุ่นเด่นก็คือ เลกซัส ซีที200เอช ยอดยนตรกรรมไฮบริดจากเลกซัส ใช้เครื่องยนต์รหัส 2ZR-FXE 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VVT-i ความจุ 1.8 ลิตร แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที
พร้อมด้วย แอลเอส600เอช รถไฮบริดระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้อ (AWD) เครื่องยนต์ V8 ขนาด 5 ลิตร ใหม่ พร้อมระบบ LEXUS Hybrid Drive ให้กำลังสูงสุดด้วยแรงม้า รวมทั้งระบบ 445 แรงม้า ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 6.3 วินาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันน้อยที่สุด ด้วยค่าเฉลี่ย 10.8 กิโลเมตรต่อลิตร
อาร์เอ็กซ์450เอช เอสยูวีคันโต เครื่องยนต์รหัส 2GR-FXE บล็อก V6 DOHC 24 วาล์ว 3,456 ซี.ซี. จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด EFI พละกำลังสูงสุด 245 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มอเตอร์สำหรับล้อคู่ และมอเตอร์ล้อคู่หลังเป็นแบบ กระแสสลับ (แบบแม่เหล็กถาวร) เมื่อรวมเข้ากันแล้ว ก็เท่ากับว่า RX450h มีระบบขับเคลื่อนแบบ E-Four คือ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า
MERCEDES-BENZ
ไฮไลท์พิเศษของบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ในปีนี้ นอกจากจะมีคอนเซ็ปต์ คาร์ อย่างเอ- คลาสมาให้ชมและ เมอร์เซเดส เบนซ์ ยังภูมิใจนำเสนอ กับรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดที่เผยโฉมครั้งแรกในอาเซียนถึง 3 รุ่น รวมทั้งจัดทัพนำขบวนยนตรกรรมหรูกว่า 22 คัน ครบครันในทุกเซ็กเมนต์
โดยเริ่มจาก เอสยูวี ล่าสุดอย่าง เอ็ม-คลาสใหม่ รถยนต์อเนกประสงค์ออฟโรดสไตล์สปอร์ต เอ็มแอล 250 ซีดีไอ บลูเอฟฟิเชียนซี (BlueEFFICIENCY) 4 เมติก เครื่องยนต์ดีเซล แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุกระบอกสูบ 2,143 ซีซี ขุมพลัง กำลัง 204 แรงม้าที่ 4,200 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ 7G-TRONIC PLUS ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบออฟโรด
อีกรุ่น คือ บี-คลาส ใหม่ ยนตรกรรมรูปลักษณ์ดีไซน์สไตล์สปอร์ต โดย บี 200 บลูเอฟฟิเชียนซี คล่องแคล่ว ปราดเปรียว และมีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมมากขึ้น มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ รหัสตัวถัง W246 ความจุกระบอกสูบ 1,595 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 156 แรงม้า ที่ 5,300 รอบ/นาที ระบบเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะแบบ 7G-DCT (Dual Clutch Transmission) พร้อมฟังก์ชัน ECO Start/Stop เพื่อช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น
อีกรุ่นที่เป็นไฮไลท์น่าสนใจก็คือ C 63 AMG Coupé Black Series & Ducati Diavel AMG Special Edition : ซุปเปอร์คาร์สปอร์ตคูเป้เหนือระดับสไตล์รถแข่งที่เคียงคู่มากับมอเตอร์ไบค์ดูคาติ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สองแบรนด์ ชั้นนำระดับโลก ร่วมกันออกแบบชุดแต่งพิเศษโดยนำมาตกแต่ง เครื่องยนต์รุ่น M 156 แบบ V8 ขนาด 6.3 ลิตร 517 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 300 กม./ชม. ระบบส่งกำลัง AMG SPEEDSHIFT MCT 7 Speed พร้อมด้วยระบบกันสะเทือน AMG Sports ที่พัฒนาใหม่ ภายในยังตกแต่งให้ได้บรรยากาศเช่นเดียวกับรถแข่งความเร็วทางเรียบชั้นนำ
เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังจัดโปรโมชั่นพิเศษให้ลูกค้า ดังนี้ ข้อเสนอพิเศษ ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุดถึง 60 เดือน พร้อมประกันภัยชั้น 1 สำหรับ ผู้สั่งซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่น S-Class หรือ เมอร์เซเดส-เบนซ์ E 300 AVANTGARDE Sports ทุกคัน และ ข้อเสนอพิเศษ ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุดถึง 36 เดือน พร้อมประกันภัยชั้น 1 หรือเลือกผ่อนเริ่มต้นเพียง 47,900 บาทต่อเดือน สำหรับผู้สั่งซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ C 250 BlueEFFICIENCY Coupé Edition 1
MITSUBISHI
สำหรับ มิตซูบิชิ ในปีนี้ ไม่ต้องบอกก็เป็นที่รู้กันว่า ไฮไลท์สำคัญคงอยู่ที่ มิตซูบิชิ มิราจ อีโคคาร์คันแรกของค่าย ที่ส่งลงมาแข่งขันในตลาดรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดน้ำมัน มิตซูบิชิ เคลมว่า “มิราจ” จะให้อัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 22 กม./ลิตร เครื่องยนต์เบนซินรหัส 3A92 ขนาด1.2 ลิตร 3 สูบ DOHC MIVEC 12 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และอัตโนมัติ CVT 6 จังหวะ พร้อม Sportronic ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์อัจฉริยะ INVECS-III กับราคาขายเริ่มต้นที่ 380,000 บาท ถึง 546,000 บาท
อีกรุ่นที่น่าสนใจก็คือ มิตซูบิชิ ปาเจโรสปอร์ต V6 เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร MIVEC เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ พร้อม Sportronic กำลัง 219 แรงม้าที่ 6,250 รอบต่อนาที ระบบเปลี่ยนเกียร์ Paddle shift ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise control กล้องมองหลัง พร้อมอุปกรณ์ความบันเทิงรุ่นใหม่ ชุดอุปกรณ์ต่อพ่วง iPod และ USB จอภาพด้านหน้าแบบหน้าจอสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว จอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด ใหญ่ 10.2 นิ้ วเปิดรับจองในงาน พร้อมราคาไม่เกิน 1,300,000 บาท ก่อนเปิดขายอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน
ส่วน ไทรทัน สีใหม่ น้ำตาลทอง ทางเลือกให้กับลูกค้า โดยในรุ่นเมกะ เค็บ พลัส และ รุ่นดับเบิล แค็บ พลัส และไทรทันรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นเครื่องยนต์ 2.5 วีจี เทอร์โบ 178 แรงม้า ในขณะที่รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ เป็นเครื่องยนต์ 2.5 DI-D เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 128 นอกจากนี้จะยังมีในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินซึ่งติดตั้งระบบซีเอ็นจี ทั้งในรุ่น ซิงเกิ้ลแค็บ เมกะแค็บ และดับเบิ้ลแค็บ ประหยัดน้ำมันจากการเลือกใช้พลังงานได้ถึง 2 ระบบ ทั้งน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ อี 20 และ ก๊าซธรรมชาติ ซีเอ็นจี
ข้อเสนอพิเศษ สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ ทุกรุ่น ในช่วงเปิดตัว รับฟรีประกันภัยชั้น 1 “ไดมอนด์ อินชัวรันซ์” และรับโบนัสพิเศษเงินคืน 10,000 บาท เฉพาะ 9,000 คนแรก และ ดอกเบี้ยต่ำสำหรับผู้ที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 12 เมษายน 55 ไทรทัน เดับเบิ้ลแค็บดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้นที่ 1.79% ปาเจโร สปอร์ต ทุกรุ่น (ยกเว้นรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน) ดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้นที่ 1.99%
แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ทุกรุ่น ดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้นที่ 1.99% มิตซูบิชิ แลนเซอร์ 1.6 ลิตร ทุกรุ่น ดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้นที่ 0.99% ซื้อรถกับมิตซูบิชิวันนี้ มีสิทธิ์ลุ้นรับทองคำถึง 3 ครั้ง รวม 352 รางวัล มูลค่ารวม 10 ล้านบาท
MAZDA
มาสด้า เป็นค่ายรถอีกแบรนด์ที่คึกคัก นอกจากจะนำเอารถต้นแบบมาจัดแสดงเพื่อให้คนไทยได้สัมผัสและเข้าถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคตแล้ว ยังได้ บีที-50 โปรใหม่ เป็นตัวนำธงความ ซูม ซูม มาสู่ผู้เข้าชมงาน โดยชูรูปลักษณ์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวสไตล์ ซูม-ซูม ฉีกกฎปิกอัพแบบเดิมๆ ผสานแนวคิดการออกแบบที่เน้นความสวยงามควบคู่กับการใช้งานอเนกประสงค์
มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ มีหลากหลายรุ่นทั้ง ฟรีสไตล์แค็ป หรือบานแค็ปเปิดได้ และดับเบิ้ลแค็ป 4 ประตู มาใน 2 เครื่องยนต์ คือ ดีไอ-ธันเดอร์ โปร 3.2 ลิตร 200 แรงม้า แรงบิด 470 นิวตันเมตร และ ดีไอ-ธันเดอร์ โปร 2.2 ลิตร 150 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และอัตโนมัติ 6 สปีด มีทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ
ส่วน มาสด้า 2 ทั้งแฮ็ทแบ็คและซีดาน รถเล็กขายดีของค่าย ยังคงไว้ซึ่งความสปอร์ต โฉบเฉี่ยวปราดเปรียว พร้อม เครื่องยนต์ MZR ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOCH) 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1500 ซีซี 103 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 135 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อมระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ S-VT ( และระบบวาล์วควบคุมการไหลเวียนของไอดี TSCV ตอบสนองการขับขี่ทุกจังหวะความเร็วและแม่นยำ
มาสด้า 3 ที่ยังคงความสปอร์ตอันโดดเด่น พร้อมทำตลาดกับรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เช่นเดียวกับเครื่องยนต์เบนซิน MZR บล็อกเดิม ขนาด 1999 ซีซี DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมวาล์วแปรผัน S-VT ให้กำลังสูงสุด147 แรงม้า ต่ปรับระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดซึ่งเป็นระบบเทพที่ใช้ใน “อาร์เอ็กซ์8” และ “มาสด้า 6”
มาสด้ายังใจปล้ำเอาใจลูกค้า ด้วยการมอบข้อเสนอสุดพิเศษ โดยเฉพาะ มาสด้า บีที -50 โปร ใหม่ ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 589,000 บาทเท่านั้น พร้อมรับฟรีทันทีประกันภัยชั้น 1 ในส่วนของรถยนต์นั่งมาสด้า2 และมาสด้า3 รับข้อเสนอพิเศษเช่นเดียวกัน โดยดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 2.35 พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง รถยนต์ประเภทพรีเมี่ยมคาร์ ทั้งสปอร์ตโรดสเตอร์มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 และสปอร์ตครอสโอเวอร์สุดหรู 7 ที่นั่ง มาสด้า ซีเอ็กซ์-9 รับดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 2.35% แถมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ยังมอบแพ็กเกจบำรุงรักษานาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ซึ่งลูกค้าที่สนใจสำหรับข้อเสนอสุดพิเศษนี้จะมีถึงเพียงวันที่ 8 เมษายน นี้ เท่านั้น
NISSAN
เจ้าตลาดรถอีโคคาร์ ขนรถในสังกัดเข้าร่วมงานทุกเซ็กเมนท์ แต่ก็ยังนำหัวขบวนด้วย นิสสัน มาร์ช ปี 2012 ซึ่งเป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ล่าสุดของมาร์ช นิสสัน มาร์ช รุ่นปี 2012 ที่ได้เพิ่มอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก และสีใหม่ ม่วง พลัม เพิ่มช่องเก็บของพร้อมฝาปิดบริเวณคอนโซลหน้า หมอนรองศรีษะเบาะหลัง และเบาะหลังปรับให้พับได้ 60:40 ส่วนในรุ่น Sports version ได้รับการติดตั้งสเกิร์ตข้าง และเบาะนั่งสีดำใหม่เพื่อเพิ่มอารมณ์เข้มสไตล์สปอร์ต
นิสสัน อัลเมร่า อีโคคาร์ 4 ประตู รุ่นแรกของไทย ซึ่งเป็นรถธงอีกรุ่นของค่ายนิสสัน ที่มีจุดเด่นในเรื่องของความใหญ่โตของตัวถังที่กว้างขวางใหญ่โต เทียบเท่าระดับรถในกลุ่มซีเซ็กเมนท์ ภายในห้องโดยสารเน้นความสะดวกสบาย มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง 1,828 มม. โดดเด่นด้วยระบบกุญแจอัจฉริยะ Intelligent key พร้อมปุ่มเปิดฝากระโปรงท้ายรถบนรีโมท และปุ่ม Push Start สะดวกสบายในการเข้า-ออก สตาร์ท ดับเครื่องยนต์
อีกรุ่นที่น่าจะได้รับความสนใจเป็นอย่างมากก็คือ นิสสัน นาวารา รุ่นปี 2012 ที่กำลังมาแรงในตลาดรถกระบะ มาพร้อมกับแคมเปญ พิเศษ นาวารา เอส/แคป รับฟรีประกันภัยชั้น 1 Premium Protection 1 ปี พื้นปูกระบะท้าย (Bed liner) รุ่นนาวารา เค/แค็ป ทุกเกรด เลือกรับข้อเสนอพิเศษ “Nissan Easy Pay” ผ่อนเริ่มต้นเพียง 6,655 บาท (ช่วงแรก (งวดที่ 1-48) หรือ(2) อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2.29% (เงินดาวน์ 20% ระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน) ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Premium Protection 1 ปี
ส่วนแคมเปญของมาร์ช เลือกรับข้อเสนอพิเศษ*:(1)ดาวน์เริ่มต้น 5.55% (อัตราดอกเบี้ย 3.99% ระยะเวลาผ่อนชำระ 55 เดือน)หรือ(2) “Nissan Easy Pay” ดาวน์เพียง 55,555 บาท (ผ่อนชำระต่องวด 4,555 บาท (ช่วงแรก งวดที่ 1-55) หรือ (3) อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% (เงินดาวน์ 30% ระยะเวลาผ่อนชำระ 24 เดือน) หรือ(4) “Platinum+” ดาวน์เริ่มต้นที่ 29,999 บาท (อัตราดอกเบี้ย 2.99% ระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน) หรือ(5) ระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 84 เดือน รับสิทธิซื้อประกันภัยชั้นหนึ่ง Premium Protection ราคาเพียง 5,555 บาท** ทุกรุ่น
นิสสัน อัลเมรา เลือกรับข้อเสนอพิเศษ “Nissan Easy Pay” ผ่อนเริ่มต้นเพียง 4,222 บาท (ช่วงแรก (งวดที่ 1-48)หรือ(2) อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% (เงินดาวน์ 30% ระยะเวลาผ่อนชำระ 24 เดือน)หรือ(3) “Platinum+” ดาวน์เริ่มต้นที่ 29,999 บาท (อัตราดอกเบี้ย 2.99% ระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน)หรือ(4) ระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 84 เดือน * เงื่อนไขนี้สำหรับลูกค้าที่จัดไฟแนนซ์กับ Nissan leasing เท่านั้น
Rolls-Royce
สำหรับในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 33 เป็นครั้งแรกของโรลส์-รอยซ์ที่เข้าร่วมงานอย่างยิ่งใหญ่ โดยเตรียมที่จะเปิดตัวรถยนต์หรูหราอย่างโรลส์-รอยซ์ แฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ อย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย เคียงคู่ไปกับรถยนต์โกสต์ ทั้งรุ่นธรรมดาและรุ่นฐานล้อยาว โดยจะมีการจัดแสดงรถยนต์ถึง 4 คันในบูธของบริษัทในปีนี้
สำหรับโรลส์-รอยซ์ แฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ (Rolls-Royce Phantom Drophead Coupe) รถยนต์คูเป้หรูหราเปิดประทุนแบบ 4 ที่นั่ง ที่มาพร้อมความหรูหราในสไตล์ของแฟนธอม มาพร้อมขนาดตัวถังยาว 5,609 มม. กว้าง 1,987 มม. สูง 1,581 มม. และมีขนาดฐานล้อยาวถึง 3,320 มม. ดรอบเฮดมาพร้อมเครื่องยนต์วี 12 ขนาด 6.8 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 460 แรงม้า และให้แรงบิดสูงสุด 720 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 240 กม./ชม. โดยใช้เวลาวิ่งจาก 0-100 กม./ชม. เพียง 5.8 วินาที
โรลส์-รอยซ์ โกสต์ เอ็กซ์เทนเดด วีลเบส (Rolls-Royce Ghost Extended Wheelbase) หรือรุ่นฐานล้อยาว รถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดจากโรลส์-รอยซ์ ที่เข้ามาจับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความสะดวกและคล่องตัวบนพื้นฐานของรถยนต์หรูหรา แต่เต็มเปี่ยมด้วยสมรรถนะและความเพียบพร้อมในแบบของโรลส์-รอยซ์ มาพร้อมขนาดตัวถังยาว 5,569 มม. กว้าง 1,948 มม. สูง 1,550 มม. มาพร้อมเครื่องยนต์วี 12 ขนาด 6.8 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 570 แรงม้า และให้แรงบิดสูงสุด 780 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กม./ชม. โดยใช้เวลาวิ่งจาก 0-100 กม./ชม. เพียง 5 วินาที
ขณะที่ โรลส์-รอยซ์ โกสต์ สแตนดาร์ด วีลเบส (Rolls-Royce Ghost Standard Wheelbase) หรือ รุ่นฐานล้อธรรมดา มาพร้อมกับสมรรถนะและความหรูหราในแบบเดียวกับรุ่นฐานล้อยาวทุกประการ แตกต่างแค่ในส่วนของความยาวของตัวรถที่อยู่ที่ 5,399 มม. เท่านั้น สามารถวิ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาที่สั้นกว่าเพียง 4.9 วินาที แต่ก็ยังให้ความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารเหมือนเดิม ซึ่งในงานมอเตอร์โชว์นี้ ทางบริษัทได้เตรียมรถรุ่นนี้มาจัดแสดงถึง 2 คันด้วยกัน
SUZUKI
นับเป็นครั้งที่ 2 ของซูซูกิ ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ที่เข้าร่วมงาน บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ โดยได้นำเสนอรถยนต์คันเก่ง “ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่” อีโคคาร์ตัวแรง ที่ดูว่าจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากขากทั้งรูปทรงและสมรรถนะ
สวิฟท์ ใหม่ มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่า 20 กม./ลิตร ยึดพื้นฐานการพัฒนาบนแพลตฟอร์มเดิม ไล่ตั้งแต่กระจังหน้า กันชนหน้า โคมไฟหน้าแนวตั้งขนาดใหญ่ เส้นสายปราดเปรียวมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ส่วนไฟท้ายดีไซน์ใหม่รับกับ Shoulder Line พร้อมล้อกระทะขนาด 15 นิ้วใน รุ่น GA และ GL ขณะที่ล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้วจะมาในรุ่น GLX
เครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12B ขนาด 1242 ซี.ซี. 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบ VVT วาล์วแปรผันทั้งฝั่งไอดี-ไอเสีย ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้า รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 20 เกียร์อัตโนมัติ CVT โดยซูซูกิ จะส่งแค่ตัวเกียร์อัตโนมัติ CVT ออกมาจำหน่ายก่อนในราคา 469,000-559,000 บาท
ส่วนรุ่นอื่น ๆ ของของซูซูกิ จะประกอบไปด้วย รุ่น เอสเอ็กซ์4 รถครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก ใช้เครื่องยนต์รหัส เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1,586 ซีซี 112 แรงม้า ต่อด้วย ซูซูกิ แกรนด์ วิทาร่า รถนั่งอเนกประสงค์ (SUV) อย่างแท้จริง ภายใต้คอนเซปท์ “off-road athlete” ซูซูกิ แกรนด์ วิทาร่า รุ่น 5 ประตูเหมาะสมกับกลุ่มครอบครัว
โดยจะมอบแคมเปญพิเศษให้กับลูกค้าในงานคือ ซื้อ สวิฟท์ ใหม่ จะได้สิทธิ์ซื้อประกันภัยชั้นหนึ่งเพียง 50% พร้อมดอกเบี้ยพิเศษ ซื้อ เอสเอ็กซ์ 4 รับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ระยะเวลา 1 ปีฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ตลอดระยะเวลา 3 ปี และอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ซื้อ แกรนด์ วิทาร่า ได้ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ ซื้อ เอพีวี รับฟรีประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลา 1 ปี พร้อมดอกเบี้ยพิเศษ และ ซื้อ แครี่ รับดอกเบี้ยอัตราพิเศษ
SSANGYONG
ซันยองสุดยอดรถ MPV หรู 11 ที่นั่ง มาตกแต่งใหม่ เพื่อให้สตาวิค รุ่นพิเศษ Black Edition ถูกใจแฟนคลับซันยอง มีโอกาสเลือกใช้รถยนต์ในมาดเข้ม หรู ดูมีสไตล์ ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ในขณะเดียวกันยังคงเพียบพร้อมด้วย สมรรถนะที่ทรงประสิทธิภาพและคงไว้ซึ่งความประหยัด เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่คุ้มค่า โดย มีให้เลือก 2 แบบ ด้วยกัน
New Stavic Black Edition รุ่น Standard มาพร้อมเบาะหนังแท้โทนสีเข้มควบคุมด้วยไฟฟ้า เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งชุดเครื่องเสียง จอเพดาน ล้อแม็กขอบ 16 นิ้ว ครู๊ซคอนโทรล ระบบควบคุมการเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบควบคุมการปรับตั้งไฟหน้า เรนเซ็นเซอร์ กลาสซันรูฟ และกล้องแสดงภาพขณะถอยหลัง ราคาแนะนำเฉพาะในงานเพียง 1,580,000 บาท
New Stavic Black Edition รุ่น Sport มาพร้อมเบาะหนังแท้โทนสีเข้มควบคุมด้วยไฟฟ้าและชุดทริมภายในแบบ Black Piano เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้งชุดเครื่องเสียง จอเพดาน จอหัวหมอนคู่หน้า ล้อแม็กลายสปอร์ตขอบ 18 นิ้ว ครู๊ซคอนโทรล ระบบควบคุมการเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบควบคุมการปรับตั้งไฟหน้า เรนเซ็นเซอร์ กลาสซันรูฟ และกล้องแสดงภาพขณะถอยหลัง ราคาแนะนำ ในงานเพียง 1,780,000 บาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้นำรถซันยองทุกรุ่นทุกแบบที่มีจำหน่ายเข้าร่วมจัดแสดงในครั้งนี้อย่างครบครันไม่ว่าจะเป็น REXTON II, ACTYON, KYRON และพิเศษสุดกับรถเอนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุดในค่ายซันยองคือ KORANDO ใหม่อเนกประสงค์ขนาดกะทัดรัด ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคอมมอนเรลขนาด 2.0 ลิตร 175 แรงม้า ให้แรงบิดสูงถึง 360 นิวตันเมตร มาพร้อมกับชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะพร้อมระบบควิกชิฟ ในราคาพร้อมส่งมอบเพียง 1.68 ล้านบาท
TOYOTA
โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เข้าร่วมแสดงนวัตกรรมยานยนต์ ภายใต้วิสัยทัศน์และเทคโนโลยีของโตโยต้าในการสร้างสรรค์ความเป็นไปได้ของรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเทคโนโลยีไฮบริดที่ โตโยต้า ได้ทุ่มเทในการพัฒนาระบบไฮบริดมาเป็นเวลากว่า 20 ปี และได้รับความนิยมจากลูกค้าทั่วโลก
โตโยต้าได้แนะนำ “คัมรี ไฮบริด ใหม่ ” ยนตรกรรมอัจฉริยะเข้าสู่ตลาดและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากคุณสมบัติที่โดดเด่น อาทิ ประหยัดพลังงาน ลดมลพิษ อัตราเร่งราบลื่นไม่ติดขัด และ ไร้เสียงรบกวนขณะขับขี่ ซึ่งในขณะนี้โตโยต้าได้ทุ่มเทในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างทันท่วงที
โตโยค้า พรีอุส ใหม่ รุ่น ไมเนอร์เชนจ์ ยังคงมีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว และมีเทคโนโลยีล้ำสมัย ที่ช่วยลดการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดเชื้อเพลิง ส่วนเครื่องยนต์ ขนาด 1,797 ซี.ซี. กำลัง 99 แรงม้า รองรับพลังงานทางเลือก E10 มอเตอร์ไฟฟ้าแบบมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร ให้แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 650 โวลต์ กำลังสูงสุด 60 กิโลวัตต์ (82 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 207 นิวตัน-เมตร
และนอกจากจะมีโคโรลล่า อัลติส ซีเอ็นจี ซีดานยอดประหยัดเข้ากับยุคสมัยน้ำมันแพง โตโยต้า ยังส่งโตโยต้า วีโก้ แชมป์ ซีเอ็นจี ลงสู่ตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือก หวังโกยยอดในช่วงขาขึ้นของราคาน้ำมัน ด้านของ วีออส ได้รับการปรับปรุงแมเพื่อรับงานใหญ่ หวังรักษามาตรฐานยอดขายให้เป็นเก่งขนาดกลางอันดับ 1 ต่อไป
นอกจากรถที่ตลาดให้ความนิยมแล้ว โตโยต้า ยังขนรถหรูชั้นดีที่ยังอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมประหยัดพลังงาน อย่าง อัลฟาร์ด ไฮบริด รถตู้อเนกประสงค์ยอดประหยัด และรถที่น่าจะเรียกเสียงฮือฮาดได้พอสมควรแน่ ๆ ก็คือ พรีอุส ซี รถซับคอมแพคท์ แฮทช์แบค พลังไฮบริด มีความยาว 3,995 มิลลิเมตร กว้าง 1,695 มิลลิเมตร และสูง 1,445 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อยาว 2,550 มิลลิเมตร
ระบบขับเคลื่อนที่ใช้เป็นระบบไฮบริดซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.4 ลิตร ขนาด 74 แรงม้าที่ 4,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 111 นิวตันเมตรที่ 4,800 รอบ/นาที และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 61 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 169 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนผ่านเกียร์ CVT ส่วนกำลังรวมสูงสุดคือ 100 แรงม้า โดยในต่างประเทศทำสถิติจำหน่ายได้รวดเร็วที่สุดรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว
ส่วนรุ่นอื่น ๆ ที่เหลือก็ยังพาเหรดกันมาเป็นขบวนเช่นเดิม อาทิ โตโยต้า วีโก้ แชมป์ โตโยต้า ยาริส โตโยต้า วีออส และ โตโยต้า โคโรล่า อัลติส
VOLVO
วอลโว่ ลุยตลาดรถหรูในบ้านเราอย่างเต็มที่สำหรับในปีนี้ ขนกองทัพรถยนต์ทั้ง 9 รุ่น เข้ารวมงานมอเตอร์โชว์ ไฮไลต์ของงานในปีนี้ ได้แก่ XC90 เอสยูวีระดับพรีเมียม โฉมใหม่ล่าสุด เครื่องยนต์ดีเซล D5 ความจุ 2.4 ลิตร ขนาด 200 แรงม้าที่ 3,900 รอบต่อนาที ตอบสนองทันใจ พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบเกียร์โทรนิค 6 สปีด ให้การขับขี่ราบรื่น นุ่มนวล ทันใจ และสามารถเติมน้ำมันไบโอดีเซล B5 ได้
XC90 โฉมใหม่ยังให้ความปลอดภัยเหนือระดับ และการขับขี่ที่มั่นใจสูงสุด ด้วยนวัตกรรมระดับโลก ได้แก่ ระบบความปลอดภัยควบคุมเสถียรภาพป้องกันการโคลงและพลิกคว่ำ (Roll Stability Control System – RSC) ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับที่นั่งทั้ง 3 แถว ที่นั่งเด็กแบบดึงขึ้นมาจากเบาะได้ในตอนกลางของที่นั่งแถวสอง เข็มขัดนิรภัยแบบมีระบบปรับแรงดึงอัตโนมัติสำหรับทุกที่นั่ง
ส่วนรุ่นอื่น ๆ ประกอบไปด้วย V60 DRIVe สปอร์ตแวก้อนที่ปราดเปรียวพร้อมพื้นที่มากขึ้นสำหรับการใช้งานอเนกประสงค์ วอลโว่ S40 คอมแพคซีดาน วอลโว่ V50 รถยนต์เอสเตทยอดนิยมสำหรับครอบครัว วอลโว่ S60 DRIVe สปอร์ตซีดานทั้งรุ่น B และ S ที่ปราดเปรียวทันสมัย วอลโว่ S80 2.5FT ที่มีให้เลือกทั้ง Dynamic version และ Superior ซีดานหรู และวอลโว่ XC60 D3 เอสยูวีครอสโอเวอร์ที่ปราดเปรียวทันสมัยสะกดทุกสายตา
โปรโมชั่นพิเศษ ในงานโดยลูกค้าที่ซื้อรถยนต์วอลโว่ตั้งแต่วันนี้ – 8 เมษายน โดยในรุ่น วอลโว่ S40 Sport ฟรีชุดแต่งสปอร์ตเพิ่มความเท่มูลค่า 240,000 บาท รุ่น S80 2.5FT มีข้อเสนอพิเศษให้เลือกระหว่างฟรีชุดแต่งไดนามิกมูลค่า 260,000 หรือฟรีดอกเบี้ย 0% นาน 4 ปี รุ่น XC90 รับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งนาน 2 ปี และ รุ่น V50 รับเพชรน้ำงาม 0.5 กะรัตที่ได้รับการรับรองจากสถาบัน GIA
VOLKSWAGEN
สำหรับการเข้าร่วมแสดงรถยนต์ ภายในงานมอเตอร์โชว์ของ“ไทยยานยนตร์ กรุ๊ป” นำรถยนต์โฟล์คสวาเกนทุกรุ่นมาจัดแสดงอย่างครบครัน ทั้งจัดสรรพื้นที่สำหรับแสดงนิทรรศการประวัติความเป็นมาของ “ไทยยานยนตร์ กรุ๊ป” และวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจใน อนาคต พร้อมมุมสันทนาการที่จัดเตรียมกิจกรรมเกมส์การละเล่นต่างๆ เพื่อสร้างความสนุกสนานเพลิด
ภายในงานทาง “โฟล์คสวาเกน” จะมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด โฟล์คสวาเกน รุ่น The new Multivan อิสระกับชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ด้วยรถยนต์เอนกประสงค์ 7 ที่นั่ง เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร ออกสู่ตลาดไทยอย่างเป็นทางการ คาดว่ารถยนต์รุ่นดังกล่าวจะได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคคนไทยนอกจากนี้ ผู้เข้าชมงานยังอาจจะได้เห็น Volkswagen The new Beetle เข้ามาโชว์ตัวภายในงาน เพราะทางทาง “โฟล์คสวาเกน” มีนโยบายที่จะนำเข้ารถยนต์ เข้าสู่ตลาดในประเทศไทย
พร้อมกันนี้ เพื่อสร้างความสะดวกสบายในการเป็นเจ้าของรถยนต์โฟล์คสวาเกน ทาง “ไทยยานยนตร์ กรุ๊ป” จึงได้มอบโปรแกรม Worry Free ที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา การซ่อมบำรุง ค่าอะไหล่ และค่าแรง ตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร สำหรับผู้ที่สั่งจองหรือเป็นเจ้าของรถยนต์โฟล์คสวาเกน รุ่น Golf GTI รุ่น Passat CC รุ่น Passat CC R-Line รุ่น Scirocco และ รุ่น Scirocco R-Line รวมทั้งรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด The New Multivan ภายในบู๊ธ “ไทยยานยนตร์ กรุ๊ป”
******************************************************************************
สารฑูล สักการเวช
sarathun@caronline.net
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…