มาสด้า เซลส์ ประเทศไทยเปิดตัวแนะนำ ALL-NEW MAZDA3 ไปเมื่อ 18 กันยายนที่ผ่านมา โดยเปิดตัว 2 รุ่นคือ รุ่น 5 ประตู Fast Back และ 4 ประตู Sedan
หลังจากเปิดตัวได้ประมาณสี่วัน ยอดขายก็ขึ้นมาถึง 1,070 กว่าคัน และตัวที่ขายดีคือตัว Top ขายถึง 70% ส่วนยอดขายของ 4 & 5 ประตูนั้นเท่ากัน 50:50
ALL-NEW MAZDA3 เป็นกระบวนการผลิตครั้งแรกที่นำการออกแบบ KODO design มาผสานกับ “การเคลื่อนไหวที่เป็นหนึ่งเดียว”
ในครั้งนี้มาสด้าได้จัดทริปให้สื่อมวลชนทดสอบขึ้น เส้นทาง ภูเก็ต-พังงา ระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร โดยรถที่ไปทดสอบในครั้งนี้จะเป็นตัวท็อปของทั้ง 2 รุ่นของรุ่น 5 ประตูหรือมาสด้าเรียกว่า Fast Back และรุ่น 4 ประตู หรือรุ่น Sedan
เครื่องยนต์มีขนาดเดียวคือเครื่องยนต์ สกายแอคทีฟเบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ Skyactive Drive 6 สปีดพร้อมแมนนวลโหมด
มี Paddle Shift ที่พวงมาลัย
โดยคันที่ดิฉันขับไปในครั้งนี้คือ ตัว 5 ประตู
ออกแบบสวยสะดุดตา ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED ไฟท้าย LED
ไฟส่องสว่างเวลาขับขี่กลางวัน
ระบบไฟหน้าปรับสูง-ต่ำ และเปิดปิดอัตโนมัติ
กระจกมองข้างปรับมุมต่ำอัตโนมัติเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง
ท่อไอเสียคู่พร้อมปลายท่อโครเมี่ยม
ยางก็ขนาด 215/45 R 18 มียางอะไหล่ให้
เมื่อได้เวลาออกเดินทาง ก็อย่างที่บอกไปว่า ดิฉันได้ขับตัว 5 ประตูหรือ Fast Back โดยเรานั่งไปด้วยกัน 3 คน
ก่อนขับก็สำรวจรถกันก่อน โดยดิฉันเป็นผู้โดยสารไปก่อนนั่งด้านหน้าข้างคนขับ
ขึ้นไปสัมผัสแรกรู้สึกว่ารถกว้างจัง อาจเป็นเพราะคอนโซลหน้าที่ทำให้ต่ำลงไปทำให้ทัศนวิสัยในการเห็นชัดเจนขึ้น
หลังจากนั้นก็ปรับที่นั่ง ที่นั่งปรับได้ 4 ทิศทาง ปรับสูงต่ำได้ด้วย มองเห็นด้านหน้าชัดเลย ส่วนด้านคนขับ ปรับได้ 10 ทิศทางมี ระบบบันทึกที่นั่งคนขับ 2 ตำแหน่งด้วยนะ
เสา A คือเสาด้านหน้าเล็กลงด้วยทำให้ไม่บังสายตา
จอ Display ขนาด 8.8 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่ม Center Commander สามารถเชื่อมต่อทั้งโลกโซเชียลและอัพเดทข่าวสารได้ตลอดเวลาด้วยการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์โฟนผ่านระบบ Mazda Connect ที่มาพร้อม Apple Car Play
และระบบเสียงคุณภาพ Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง ขับไปฟังเพลงไปเพลินเลย
หลังจากนั้นก็เปลี่ยนไปเป็นคนขับ ปรับที่นั่งแบบปรับไฟฟ้าให้เข้าที่
จับพวงมาลัยพร้อมออกตัว รู้สึกถึงความกว้างของห้องโดยสารเหมือนที่พูดไว้ครั้งแรก เมื่อขับไปรู้สึกถึงความกระชับมือ และความเงียบของห้องโดยสาร
แผงหน้าปัดและมาตรวัดดิจิตอลแบบ TFT LCD หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ว่าความเร็วอยู่ที่เท่าไร่แล้วแบบสีบนกระจกหน้า ช่วยให้ไม่ต้องละสายตา เพราะถ้าเร็วจะได้ลดความเร็วลง เพราะเหยียบเพลิน
เส้นทางที่ขับในครั้งนี้เป็นนเส้นทางคดเคี้ยวขับขึ้นเขาลงเขาเป็นส่วนใหญ่ ถนนแบบสองเลน แซงยากต้องใช้อัตราเร่งแซงจากการเปลี่ยนเกียร์ช่วย แต่ถ้าทางเรียบๆไม่ขึ้นเขาลงเขาละก็เหยียบไปความเร็วมาอย่างต่อเนื่องเลย
จะเห็นถีงการเกาะถนนในโค้งเมื่อเร่งแซงแล้วต้องกลับเข้าสู่เลนตัวเองว่าดีทีเดียว ซึ่งมาสด้าบอกว่าตัวมาสด้า 3 นี้จะมี GVC Plusหรือ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) โดยระบบจะปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ตามการหักเลี้ยวพวงมาลัยของผู้ขับขี่ ควบคู่ไปกับการเบรกที่เหมาะสม เพื่อให้รถสามารถขับเคลื่อนไปอย่างนุ่มนวล มีเสถียรภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนของล้อทั้ง 4 ให้ดียิ่งขึ้น ช่วยเพื่มการเกาะถนนเวลาเค้าโค้งหรือออกจากโค้ง
ช่วงล่างเฟิร์มเกาะถนนดี ห้องโดยสารเงียบ แต่เบรกรู้สึกว่าต้องกดลงไปลึกหน่อยแต่อยู่นะ
ที่ปัดน้ำฝนปัดได้สูงมากเกือบถึงขอบหลังคาเลยชอบค่ะ
ส่วนที่นั่งด้านหลัง ไม่ได้นั่ง แต่ผู้โดยสารที่นั่งด้านหลังความสูง 175 ซม บอกว่านั่งได้สบาย ความสูงระหว่างศีรษะคนนั่งกับเพดานยังเหลือๆ และอีกอย่างมีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหล้งด้วย
แต่ถ้าด้านหน้าเป็นคนตัวสูงใหญ่และต้องเลื่อนที่นั่งไปด้านหลังมากขึ้น ผู้โดยสารด้านหลังก็อาจจะอึดอัดได้
ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า ,ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ ที่สามารถตรวจจับรถคันหน้า จักรยาน รวมถึงคนเดินถนน,
ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง ,ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง ,ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ,ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน ,ระบบเตือนเมื่อเกิดความอ่อนล้าขณะขับขี่, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC ,ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ รวม 7 ตำแหน่ง
น้ำมันเติมได้ตั้งแต่ อ๊อกเทน 95, E10, E20, E85
ALL-NEW MAZDA3 รุ่น 2.0 C ราคา 969,000 บาท
ALL-NEW MAZDA3 รุ่น 2.0 S ราคา 1,069,000 บาท
ALL-NEW MAZDA3 รุ่น 2.0 SP ราคา 1,198,000 บาท
ในส่วนของดิฉันเองเป็นคนชอบรถ 5 ประตูเพราะดูแล้วกะทัดรัดน่ารักค่ะ
คงไม่ต้องสรุปให้ท่านผู้อ่านนะคะ สนใจอย่างไรก็สอบถามมาได้ หรือติดตามได้ที่รายการวิทยุ CAR ON LINE Fm.97 เสาร์-อาทิตย์ 13.00 -14.00 น.
หรือไปลองขับลองนั่งดู เพราะที่พูดมาก็เป็นแนวทางให้กับท่านผู้ใช้รถของเรา
ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา (อาลองรีวิว)
ผู้หญิงขับรถ
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…