New Suzuki Swift รถอีโค่คาร์ขนาดกะทัดรัด ขับขี่คล่องตัว ปราดเปรียวได้เปิดตัวไปเมื่อเร็วๆนี้ โดยครั้งนี้จะมีเพียง 2 รุ่น คือ GL และ GLX
และโอกาสนี้ทางบริษัทซูซูกิ มอเตอร์ประเทศไทยจำกัด ก็ได้จัดทริปให้สื่อมวลชนได้ทดสอบ โดยจัดเป็นแบบ One Day Trip เช้าไปเย็นกลับ โดยวิ่งอยู่ในกรุงเทพฯและเขตปริมณฑล เพื่อที่จะให้เห็นสมรรถนะความคล่องตัวของรถและเพื่อเป็นการอัพพาวเวอร์ให้ออกไปสนุกสนานกับการใช้ชีวิตในเมือง
โดยผู้เขียนได้ขับตัว GLX ที่เป็นตัวท็อป ก็จะพูดถึงการขับขี่ของรุ่นนี้แต่ก็ไม่ได้แตกต่างจากตัว GL นะ เพราะทุกอย่างเหมือนกัน แตกต่างกันในเรื่องของ ออฟชั่นภายนอก ภายใน และเรื่องของราคา
‘NEW SUZUKI SWIFTพร้อมการขับขี่ด้วย 3 ไฮไลท์ คือ
-อัพความสนุกทุกในทุกความเคลื่อนไหวไปกับความแรงของเครื่องยนต์ K12M
–พร้อมเทคโนโลยี DUALJET
–และ แพลตฟอร์ม HEARTECT
-ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12M 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 83 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที
มาพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดคู่หรือ DUALJET เพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบหัวฉีดคู่ที่จัดวางไว้ใกล้กับห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ และทำงานโดยฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปที่กระบอกสูบพร้อมกันทั้ง 2 หัวฉีด ทำให้น้ำมันมีละอองที่ละเอียดขึ้น อัดฉีดน้ำมันได้อย่างแม่นยำ ทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงเกิดการเผาไหม้อย่างรวดเร็วเมื่อมีการจุดระเบิด ได้กำลังและแรงบิดที่ดียิ่งขึ้น จึงช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น
-นอกจากนี้เครื่องยนต์ DUALJET ยังมีระบบ EGR ที่ลดอุณหภูมิในห้องเผาไหม้ ระบายความร้อนแก๊สไอเสียด้วยน้ำและหมุนวนเข้าท่อร่วมไอดี เป็นการลดการเผาไหม้ที่ผิดปกติ ทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
– ด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECT ช่วยให้โครงสร้างรถมีน้ำหนักน้อยลงแต่คงความแข็งแกร่ง ทนทาน มีประสิทธิภาพในการทรงตัวที่ดี ขับขี่ได้คล่องตัวซึ่งสังเกตได้จากการที่ได้ขับขี่รถรุ่นนี้ เมื่อขับครั้งแรกออกตัวรถจะมีความรู้สึกว่ารถเหมือนเบาๆ แต่เมื่อขับบนทางด่วนบูรพาวิถีที่ลมค่อนข้างแรง ก็รู้สึกว่ารถนิ่งและเกาะถนนดี ซึ่งเรานั่งไปไปด้วยกัน สี่คนก็ยังคุยกันเลยว่ารถนิ่งดีนะ แรงดีด้วย
ภายนอก
กระจังหน้าตกแต่งโครเมี่ยมและล้ออัลลอยปัดเงาขนาด 16 นิ้ว
ไฟหน้าLED Projector และไฟท้าย LED
ภายใน
หน้าจอระบบสัมผัส 8 นิ้วจัดเต็มระบบเอ็นเตอร์เทนเมนท์ครบครันและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก Apple CarPlay, Android Auto และ Bluetooth
ห้องโดยสารสีดำ ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินสไตล์สปอร์ต กว้างสบายรองรับการใช้งานได้หลากหลาย มาตรวัดตกแต่งลายเส้นสีแดง พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape เพิ่มพื้นที่วางขาและปรับระดับได้ 4 ทิศทาง เบาะนั่งทรงสปอร์ตโอบกระชับสรีระ
Push Start สตาร์ทหรือดับเครื่องยนต์ได้ในปุ่มเดียว และเสริมความปลอดภัยในการถอยจอดด้วยกล้องมองหลังสุดคมชัด
เสริมด้วยระบบ Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ให้ขับสบายตลอดทาง พร้อมมั่นใจในทุกเส้นทางด้วยระบบ Hill Hold Control ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน พร้อมทั้งถุงลมนิรภัยถึง 6 ตำแหน่ง
ช่วงขับไปอัพพาวเวอร์
ซึ่งการเดินทางครั้งนี้เรานั่งไปด้วยกันผู้หญิง 4 คน แต่รถนั่งได้ 5 คน ออกเดินทางจากโรงแรมบันยันทรีถนนสาทร ขึ้นทางด่วนไปลาดกระบัง
ก็นั่งกันไม่อึดอัดนะ โดยคันที่ขับจะเป็นรุ่น GLX ครั้งนี้ก็ทั้งขับและได้เป็นผู้โดยสารด้านหลังด้วย
เมือเดินขึ้นรถกุญแจแบบ Keyless กุญแจอยู่กับตัวไม่ต้องกดเปิด ใช้มือเปิดประตูรถได้เลย ก้าวขึ้นนั่งที่นั่งนั่งเหมือนนั่งเก้าอี้ที่บ้านก็จะนั่งสบาย ที่นั่งปรับมือสูงต่ำได้ กระจกปรับไฟฟ้า เป็นรถเล็กขนาด 5 ประตูที่ทัศนวิสัยดี
นั่งแล้วไม่อึดอัด ก้าวขึ้นขับครั้งแรก ตอนออกรถมีความรู้สึกเหมือนรถเบาๆ อาจเป็นเพราะท้ายสั้น 5 ประตูหรือ คงเป็นด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECTที่กล่าวมาข้างต้น แต่พอได้ขับไปแล้วความรู้สึกว่ารถเบาหายไป รถเกาะถนนดี และเข้าโค้งก็เกาะโค้งได้ดี
นั่งด้านหลังก็ไม่กระเทือน เรานั่งกัน 4 คน ก็คงช่วยกันบาลานซ์น้ำหนัก ขับสนุก วิ่งฉิวเลย
ช่วงขับในเมืองได้ไปขับแถวเยาวราชเพราะว่าเราจะไปไหว้พระที่วัดเล่งเน่ยยี่ ต้องยอมรับว่าคล่องตัวมาก
วงเลี้ยวแคบมาก 4.8 เมตรกลับรถในที่แคบๆ คล่องตัวเลย เมื่อขึ้นไปที่จอดรถ ในเมืองที่จอดรถจะค่อนข้างแคบและชัน คันนี้ก็มีระบบขึ้นทางลาดชันช่วยด้วย
รถสั้นๆกะทัดรัดนี่สบายเลย เข้าช่องจอดนี่ยิ่งง่ายเลยมีกล้องมองหลังด้วยนะ
เติมน้ำมัน E-20 ได้
คันที่ขับรุ่น GLX ราคาเริ่มต้น 629,000 บาท มาใน 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น GL ราคาเริ่มต้น 557,000 บาท และ
รถขนาดกะทัดรักหน้าตาจิ้มลิ้ม เล็กแต่แซ่บ จะจับแต่งตัวก็ได้หรือไม่แต่งก็สวยอยู่แล้ว ดูแลง่ายๆ ราคาไม่แรง ก็เป็นอีกหนึ่งคันที่น่าสนใจใช่มั๊ยคะ
ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา(อาลองของ)
ผู้หญิงขับรถ (Female Drive)
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…