ระบบ Vacum และสายไฟในรถ
Brand: TOYOTA Model: Corolla
Year: 1992 Miles: 100001 – More
From: wannachai wannasawade
TOYOTA : CORONA ST171 2000
สวัสดีครับ อาจารย์ธเนศร์ ผมไม่ได้เข้ามาเกือบเดือนแล้ว ช่วงอาทิตย์ก่อนก็เข้าไม่ได้ ผมมีเรื่องจะมารบกวนอาจารย์อีกแล้วครับ สืบเนื่องจากครั้งที่แล้วผมถามอาจารย์เกี่ยวกับคาร์บูเรเตอร์ ปัญหาที่เกิดคือตัวกรองอากาศของคาร์บูเรเตอร์อุดตัน ผมจึงไปหาซื้อมาใส่ แต่ไม่มีขนาดเดียวกับที่มากับเครื่อง อันทีผม่ซื้อมาจะใหญ่กว่าครับ
ปัญหาคือ
1. เวลาสตาร์ทตอนเช้ารอบเครื่องจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนถึง 1100 รอบ แล้วไม่ยอมลง ต้องเหยียบคันเร่งจึงลดลงมาอยู่ที่ 800 รอบ เกี่ยวกับตัวกรองอากาศหรือไม่ครับ ผมเปลี่ยนหมดทั้ง 3 ตัวครับ
2. เวลาเครื่องร้อนแล้วสตาร์ทยากต้องปิดพัดลมแอร์แล้วสตาร์ทบางครั้งก็ติดเร็ว แต่บางครั้งบิดกุญแจแล้วค้างไว้ ประมาณ 5-10 วินาทีจึงสตาร์ทได้ครับ ตอนที่สตาร์ทไม่ติด ผมได้ลองสตาร์ทตรงโดยต่อไฟจากแบตเตอรี่เข้ากับขั้วของไดสตาร์ท ก็สตาร์ทได้ตามปกติ ช่างที่ศูนย์บอกว่าน่าจะมาจากสายไฟที่เดินในรถเก่าแล้วอาจจะมีที่รั่วเมื่อเครื่องร้อน ซึ่งรวมไปถึงแตรรถด้วยครับ ไม่ทราบว่าเกี่ยวกันหรือไม่ครับ
3. ตอนนี้กินน้ำมันมาก ประมาณ 8 Km/ลิตร ผมไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวกับตัวโซลินอยด์ของคาร์บูเรเตอร์หรือไม่ครับ เพราะตอนปีใหม่เคยค้างน้ำมันไม่เข้าแล้วถอดออกมาซ่อมเอง ตอนถอดปะเก็นที่รองขาดแล้วไม่ได้ใส่เข้าไปเวลาที่เร่งเครื่องโดยที่ไม่ได้ติดเครื่องจะเห็นน้ำมันมีลักษณะเป็นควันในคาร์บูเรเตอร์ แต่ตอนนี้ไม่เป็นแล้วครับแต่เป็นหยดน้ำมันแทนครับ จะต้องแก้ไขอย่างไรครับ แต่ก่อนจะกินน้ำมันประมาณ 10 Km/ลิตรครับ(ในกรุงเทพครับ ถ้าต่างจังหวัด ประมาณ 12-14 Km/ลิตร)
รบกวนขอคำแนะนำจากอาจารย์ด้วยครับ ว่าจากอาการที่เล่ามาควรที่จะแก้ไขอะไรบ้าง และแก้ไขอย่างไรครับ
ท้ายนี้ของให้อาจารย์และครอบครัวรวมถึงทีมงานทุกท่านมีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง เป็นที่พึ่งให้กับพวกเราไปนานๆ ครับ
ขอบพระคุณมากครับ
วรรณชัย
เช๊คระยะ 150,000 Km เปลี่ยนกรองเบนซิน/น้ำมันเครื่อง
1-เป็นเรื่องปกติครับ เพราะ Chock น้ำมันทำงาน จึงทำให้รอบสูงขึ้น หากปล่อยไว้สองสามนาที แล้วกดคันเร่ง หรือตบคันเร่งด้วยเท้า รอบก็จะลงเอง เพราะคันเร่งขึ้นไปล็อกไว้ในรอบสูงเท่านั้นเอง
2-มันมีเรื่องสงสัยอีกแหละครับ ว่าตอนคุณบิดกุญแจค้างไว้ 5-10 วินาทีนั่น มีเสียงมอเตอร์สตาร์ทหมุนหรือไม่ ทำไมไม่บอกไป ผมจะเดาเอาเป็นอย่างไรดีครับ
ขอไม่เดา แต่ยังไม่ตอบ จนกว่าจะได้ข้อมูลชัดเจนครับ เพราะหากตอบ ก็ต้องตอบกันยาวเกินไปอยู่ดีนั่นแหละครับ
3-รถอายุมากแล้ว ก็กินน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นได้นะครับ ผมว่า ดูลมยางให้พอดี ดูเบรกว่าติดหรือไม่ น้ำหนักบรรทุกในรถก็ลดลงบ้าง อย่าบรรทุกอะไรมากนักเสียก่อน
อีกอย่างหนึ่ง ในเมืองตอนนี้ ผมว่ารถติดขึ้น อากาศก็ร้อนขึ้นกว่าเมื่อสิบปีที่แล้ว คุณจะให้กินน้ำมันเหมือนเดิม คงไม่ได้หรอกครับ
ส่วนเรื่องซอลินอยอะไรนั่น ผมว่าไม่ใช่หรอกครับ ที่คุณเปลี่ยนนี่ น่าจะเป็นปั๊มเร่งมากกว่า และเมื่อคุณกดคันเร่ง น้ำมันสดสดก็จะพุ่งออกมาจากนมหนูตัวเร่ง อันเกิดจากการดันของปั๊มเร่ง เป็นปกติครับ
ตอนทีเห็นเป็นควันนั่น เพราะคาร์บิวฯยังร้อนอยู่เท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องอื่น
ทุกอาการที่เล่าไป ยังไม่สมควรจะซ่อมอะไรทั้งสิ้น นอกจากตรวจสอบอย่างที่แนะนำในข้อ 3 แล้วบอกรายละเอียดข้อ 2 ที่ผมถามไปมาใหม่ก่อนครับ-ธเนศร์