Brand: TOYOTA Model: Camry
Year: 2001 Miles: 60001-80000
From: นายอภิรักษ์ หัชชะวณิช
TOYOTA : CAMRY 2.2 SE.G 4 ECT
เรียน คุณธเนศร์ฯ ที่นับถือ
สืบเนื่องจากคำถามเดิม เรื่องระบบไฟฟ้ารวน ถามเมื่อ 1/28/2007(28 มค.2550) เวลา 6:27:53 PM ปัจจุบันปัญหายังคงมีอยู่ ผมจึงต้องรบกวนขอคำปรึกษาจากคุณธเนศร์ฯอีกครั้งครับ จากที่เคยสอบถามมาแล้ว ตามวันและเวลาข้างต้น โดยขอท้าวความถึงอาการของรถยนต์ที่ผมใช้อยู่ให้ทราบก่อนนะครับ คือเมื่อมีอาการ ในกรณีที่รถยนต์จอดอยู่กับที่ หากเปิดไฟหน้ารถ เครื่องยนต์จะดับทันที และเมื่อสตาร์ทใหม่เครื่องยนต์จะติดอย่างง่ายดาย สามารถขับออกไปได้ตามปกติ แต่ในกรณีที่รถยนต์กำลังวิ่งอยู่ หากเหยียบเบรคหรือเปิดไฟหน้ารถ แม้กระทั่งไฟเลี้ยว หรือกระพริบไฟหน้ารถสูงต่ำ เครื่องยนต์จะวูบเกือบดับ หรือบางครั้งจะดับไปทันที ไฟหน้าปัดเช่นไฟเบรค,ไฟ ABS,ไฟเข็มขัดนิรภัย เป็นต้น จะโชว์ขึ้น เข็มไมล์และเข็มวัดรอบจะแกว่งไปมาและตกลงไปอยู่ที่เลขศูนย์ แม้จะเหยียบคันเร่งเครื่องยนต์ไม่มีอาการตอบสนอง ต้องปล่อยให้รถไหลไปซักระยะหนึ่ง เครื่องยนต์จะติดขึ้นมาเอง สามารถขับต่อไปได้ตามปกติ อาการทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นบ่อยมาก โดยเฉพาะในช่วงเช้า สตาร์ทรถออกจากบ้านจะมีอาการก่อนซักครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นในระหว่างวันอาการจะมีเป็นระยะๆ ขึ้นอยู่กับว่ามีการใช้รถบ่อยแค่ไหน และมีข้อสังเกตก่อนที่จะเกิดอาการข้างต้น คือ
1. จะมีเสียงหวีด คล้ายกับจะดังออกมาจากช่องแอร์ ได้ยินชัดเจนในห้องโดยสาร หลังจากนั้นจะมีอาการดังกล่าวข้างต้นตามมาทันที ถ้าไม่มีเสียงหวีดจะไม่มีอาการ
2. อาการมักจะเกิดขึ้นขณะกำลังชลอรถเพื่อเข้าโค้ง หรือชลอรถเมื่อเจอด่านตรวจ,เจอไฟแดง หรือเข้าวงเวียน เมื่อชลอรถเสียงหวีดจะดังขึ้น พร้อมกับอาการที่กล่าวถึงข้างต้นจะตามมาทันที หากทดลองจอดรถและเปิดไฟหน้า เครื่องยนต์จะดับ หรือหากวิ่งต่อไป แล้วทดลองเปิดไฟหน้ารถหรือเหยียบ เบรค เครื่องยนต์จะวูบเกือบดับ หรือดับ
คราวที่แล้วคุณธเนศร์ฯ ได้กรุณาแนะนำว่า กรณีดังกล่าว แสดงว่า กินไฟมาก หรือไฟชาร์ทน้อย ไม่พอ ไปเช็กระบบชาร์ทไฟก่อนอื่น และให้ช่างดูด้วยว่า ตัวช่วยเร่งรอบยังทำงานดีหรือไม่ และคุณธเนศร์ฯ ยังตั้งข้อสงสัยว่าผมไปติดตั้งเครื่องเสียงเพิ่มเติมหรือเปล่า ในเบื้องต้นจึงขอเรียนให้ทราบว่า รถยนต์คันนี้ ปัจจุบันอยู่ในสภาพเดิมๆ มิได้ติดตั้งเครื่องเสียงหรืออะไรเพิ่มเติมแม้แต่น้อย ออกจากโชว์รูมมาอย่างไรก็เป็นเช่นนั้น ผมได้ปรินท์คำแนะนำของคุณธเนศร์ฯ และนำรถยนต์ไปให้ช่างหลายๆคนในจังหวัดปัตตานี และอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ทั้งช่างซ่อมระบบไฟรถยนต์ที่เปิดร้านอยู่ต่างหาก หลายร้าน และช่างในศูนย์บริการโตโยต้า หลายศูนย์ นับจำนวนได้เกือบ 10 คน ตรวจเช็คดู ผลคือทุกคนฟันธงว่าเกิดจากไดชาร์ท หรือไม่ก็แบตเตอรี่เสีย โดยไม่ได้มีการตรวจสอบว่า ตัวช่วยเร่งรอบยังทำงานดีหรือไม่ ดังที่คุณธเนศร์ฯ แนะนำเลย พร้อมกับช่างเหล่านั้นได้มีการดำเนินการแก้ไขและซ่อมแซมให้ดังนี้คือ
1. ช่างซ่อมระบบไฟรถยนต์ ที่เปิดร้านอยู่ในจังหวัดปัตตานี ได้ลองนำไดชาร์ท ขนาด 90 แอมป์ ใส่แทนได้ชาร์ทขนาด 70 แอมป์ ที่ติดรถยนต์มาเดิม พร้อมกับให้สังเกตอาการ ระยะแรกอาการหายไปพักนึง หลังจากนั้นก็มีอาการเช่นเดิม ไม่ได้ผล(ข้อนี้ผมได้เรียนให้คุณธเนศร์ฯทราบแล้วในการสอบถามครั้งก่อน) ผมจึงได้ขอให้ช่างถอดไดชาร์ทขนาด 90 แอมป์ ออก และนำไดชาร์ทที่ติดรถยนต์มาใส่กลับเข้าไปเช่นเดิม
2. หลังจากนั้นผมได้นำรถยนต์ไปให้ช่างที่เปิดร้านอยู่ในอำเภอหาดใหญ่ช่วยตรวจเช็ค ช่างฟันธงว่าไดชาร์ทเสีย ผมได้แจ้งให้ทราบว่า ได้ลองเปลี่ยนไดชาร์ทแล้ว ไม่ได้ผล ช่างจึงแจ้งให้ทราบว่าถ้าหากเป็นเช่นนั้น ก็ไม่กล้าวินิจฉัย หรือซ่อมให้อีก เพราะเกรงว่าจะกระทบกับระบบการทำงานของกล่องควบคุมระบบเครื่องยนต์ ขอให้นำรถเข้าศูนย์บริการโตโยต้าดีกว่า
3. ผมจึงได้นำรถเข้าศูนย์บริการโตโยต้าที่อำเภอหาดใหญ่ ช่างประจำศูนย์บริการโตโยต้า ได้ลองนำไดชาร์ทจากรถยนต์คันอื่นซึ่งเป็นรุ่นเดียวกันมาเปลี่ยนให้ ซึ่งก็ไม่ได้ผล อาการเกิดขึ้นทันทีที่เปลี่ยนไดชาร์ทเสร็จและนำไปทดลองวิ่ง ช่างจึงนำไดชาร์ทเดิมใส่ให้คืน พร้อมกับเปลี่ยนขั้วแบตเตอรี่ให้,เปลี่ยนขั้วสายกราวน์(สายดิน)ให้ พร้อมกับให้นำรถไปลองใช้ดูและขอให้สังเกตอาการ ซึ่งจากการสังเกต อาการดีขึ้น ไม่เกิดถี่เหมือนก่อนหน้านี้ เกิดอาทิตย์ละประมาณ 2-3 ครั้ง แต่ก็ไม่หายขาด ยังมีอาการอยู่ ช่างประจำศูนย์ได้โทรฯถามอาการเป็นระยะ ผมแจ้งให้ทราบว่าอาการยังมีอยู่ แต่ไม่ถี่เหมือนเดิม ช่างก็บอกว่าขอให้สังเกตอาการไปเรื่อยๆแล้วจะโทรฯถามอาการเป็นระยะๆ
4. ล่าสุดผมตัดสินใจเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ เป็นแบตเตอรี่ขนาด 12 โวลท์ 60 แอมป์ โดยยอมเสียตังค์กะจะวัดดวงไปเลย ก็ไม่ได้ผลอีก ออกจากร้านหลังเปลี่ยนแบตเตอรี่ไปได้ไม่ถึง 1 กม. อาการเกิดขึ้นทันที มีเสียงหวีด เมื่อลองเปิดไฟหน้ารถเครื่องดับทันที กลับถึงบ้านจอดรถไว้ซักพัก แล้วถอยรถออกจากบ้านเพื่อจะไปลองขับดู ก็เกิดอาการอีก มีเสียงหวีด จึงจอดรถและเปิดไฟหน้ารถเครื่องยนต์ดับอีกเช่นกัน
หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ดำเนินการอะไรอีก เพราะจนปัญญา และคงไม่กล้านำรถออกวิ่งไปต่างจังหวัดอีก เกรงจะเกิดอันตรายขึ้น เพราะก่อนหน้านี้วิ่งไปหาดใหญ่ ความเร็ว 140 กม./ชม. ออกจากปัตตานีไปได้ประมาณ 30 กม.เจอด่านตรวจ จึงชลอรถ เสียงหวีดเกิดขึ้นทันที ผมทำไม่รู้ไม่ชี้วิ่งต่อไปได้ระยะหนึ่ง มีรถยนต์วิ่งสวนมา และทำท่าจะยูเทิร์นผ่านเกาะกลางถนนมายังเส้นทางที่ผมวิ่งอยู่ ผมจึงได้กระพริบไฟใหญ่เตือน ปรากฎว่าเครื่องยนต์วูบดับไปทันที ไฟหน้าปัดโชว์ เข็มไมล์ เข็มวัดรอบ แกว่งและตกลงมาอยู่ที่เลขศูนย์ พยายามเหยียบคันเร่ง ก็ไม่มีอาการตอบสนอง จึงปล่อยให้รถไหลไปเรื่อยๆ ซักพักทุกอย่างก็เหมือนเดิม ไฟหน้าปัดดับ เข็มไมล์ เข็มวัดรอบขึ้นไปอยู่ที่ปกติ เหยียบคันเร่งรถก็ทะยานไปได้เช่นเดิม ผมมานั่งคิดว่าค่อนข้างอันตรายจริงๆ
ทั้งหมดที่เล่ามา ผมขอความกรุณาคุณธเนศร์ฯ ช่วยแนะนำด้วยครับ คำถามคือ
1. ตัวช่วยเร่งรอบคืออะไร อยู่บริเวณใดของรถยนต์ จะเห็นว่า ผมได้เน้นไว้ด้านบนแล้วว่า ช่างทุกคนที่ผมไปหา ไม่ยอมตรวจสอบว่าตัวช่วยเร่งรอบยังทำงานดีหรือไม่ ตามที่คุณธเนศร์ฯแนะนำเลย ผมจึงได้พยายามสอบถาม สุดท้ายได้ความจริงว่า ช่างทั้งหมดที่ผมไปหา ไม่มีใครรู้จักว่า ตัวช่วยเร่งรอบที่คุณธเนศร์ฯกล่าวถึง คืออะไร อยู่ตรงไหน มีหน้าที่อะไร ผมละงงจริงๆ
2. คุณธเนศร์ฯ มีอะไรแนะนำเพิ่มเติมอีกมั๊ยครับ เพื่อแก้ปัญหาให้เสร็จเด็ดขาด
3. คุณธเนศร์ฯมีอู่ หรือช่างแนะนำในต่างจังหวัดบ้างหรือไม่ครับ ผมจะได้เจอคนที่รู้ปัญหาจริงๆซะที
4. หากผมจะนำรถเข้ามากรุงเทพฯ ขอความกรุณาคุณธเนศร์ฯ ช่วยแนะนำด้วยครับ ว่าจะนำไปให้ช่างที่ไหนดูได้บ้าง เพราะผมจนปัญญากับช่างในท้องถิ่นซะแล้ว
จดหมายค่อนข้างยาวนะครับ เพราะต้องการเล่าให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้ อีกอย่างผมรู้สึกค่อนข้างเครียดกับปัญหานี้มากครับ เพราะอาการเกิดขึ้นมานานร่วมปีแล้ว ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ก็หวังพึ่งคุณธเนศร์ฯนี่แหละครับ พร้อมกันนี้ก็ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงมาล่วงหน้า ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
ขอแสดงความนับถือ
อภิรักษ์ หัชชะวณิช
ตัวช่วยเร่งรอบ เป็นระบบครับ ของรถยนต์เครื่องยนต์คาบิวเรเตอร์ จะเป็นท่อยางเล็กเล็กเสียบอยู่กับท่อไอดีของเครื่องยนต์ อาศัยลมดูดของท่อไอดี เพื่อสร้างแรงดูดให้กับไดอะแฟรมข้างจานจ่าย เพื่อเร่งไฟจุดระเบิด
หรือจากตัวไดอะแฟรมหากอยู่ข้างคาบิวเรเตอร์ ก็มีขาต่อออกไปยังตัวเตะคันเร่ง เพื่อยกคันเร่งขึ้นรองรับการตกของรอบเครื่องเมื่อมีภาระ เมื่อรอบเครื่องตกเพราะภาระ ปีกผีเสื้อก็จะถูกดันจากขาเตะ ให้เปิดกว้างขึ้น เป็นการชดเชยรอบที่ตกไป ให้กลับขึ้นมาอยู่ในระดับเดิม
แต่ของคุณนี่ ผมสงสัยนิดหน่อยนะครับ คือคุณบอกว่า วิ่งวิ่งอยู่ก็รอบตกจนดับไป อันนี้แปลกแฮะ
เพราะตัวช่วยเร่งรอบ ของระบบหัวฉีด แม้จะทำงานคล้ายกับของคาบิวเรเตอร์ ผิดกันแค่ไม่ได้เตะอะไร หากไปส่งสัญญาณให้กล่องเล็กเล็ก ขนาดลูกเต๋าใหญ่ แล้วเปลี่ยนสัญญาณเป็นกระแสไฟฟ้า ไปบอกคอมพิวเตอร์ให้เร่งเครื่อง ก็จะทำงานเฉพาะเมื่อรอบเดินเบา ไม่ทำงานในรอบสูง นอกจากเร่งจังหวะจุดระเบิดเท่านั้น
ผมจึงสงสัยอีกทีแล้ว ว่าตัวเร่งจังหวะจุดระเบิดของคุณ อาจจะไม่ทำงานก็ได้
หรือทำงานไม่สมบูรณ์ก็ได้
ศูนย์โตโยต้า หาดใหญ่ น่าจะมีคอมพิวเตอร์ตรวจเช็กรหัสความบกพร่อง ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นแน่นอน และค้างอยู่ในระบบตรวจสอบตัวเองของคอมพิวเตอร์ประจำรถ
เขาน่าจะเช็กให้ได้นะครับ ถ้าคุณเข้าไปให้เขาเสียบตัวสแกนเนอร์ให้หารหัสให้
ถ้าพบ ก็จะแก้ไขได้เลยครับ
สายไฟสัญญาณจากตัวจับจังหวะจุดระเบิดอาจจะหักใน คือต่อบ้าง ไม่ต่อบ้าง หรือตัวอื่นอาจจะมีปัญหาอยู่ บางทีตัวจับจังหวะจุดระเบิดอาจจะเสียหายอยู่แล้วก็ได้นะครับ
ตอนนี้ ผมคงแนะนำได้เท่านี้ก่อน หาอู่ หรือศูนย์ ที่มีตัวสแกนเนอร์ครับ อย่าเพิ่งขึ้นมา พอได้ความว่าอย่างไรแล้วบอกผมอีกทีก็แล้วกัน-ธเนศร์
มูลนิธิกลุ่มอีซ…
“มหกรรมยานยนต์ …
นายณัทธร ศรีนิเ…