Brand: FORD Model: Escape
Year: 2005 Miles: 100001 – ขึ้นไป
From: Anak Daungkaew
สวัสดีครับ
Ford Escape 2.3L AWD 4AT LPG หัวฉีด + TAP
เรียนสอบถามอาการเครื่องยนต์ดับที่รอบเดินเบาขณะมี load ที่สภาวะต่าง ๆ ดังนี้ครับ (การใช้งานขณะรถวิ่งเป็นปรกติ ตอบสนองดีครับ)
1)รอบเดินเบา รถจอด ไม่เปิดแอร์ เกียร์ N เครื่องไม่ดับ
2)รอบเดินเบา รถจอด ไม่เปิดแอร์ เกียร์ D เครื่องไม่ดับ
3)รอบเดินเบา รถจอด เปิดแอร์ เกียร์ N เครื่องไม่ดับ
4)รอบเดินเบา รถจอด เปิดแอร์ เกียร์ D เครื่องมักจะดับเป็นบางครั้ง
5)รอบเดินเบา รถชะลอความเร็ว ไม่เปิดแอร์ เกียร์ D เครื่องไม่ดับ
6)รอบเดินเบา รถชะลอความเร็ว เปิดแอร์ เกียร์ D เครื่องมักจะดับเป็นบางครั้ง
ส่วนที่ลองแก้ไขแล้วมีดังนี้ครับ
1) เปลี่ยน IAC valve ไม่หาย
2) เปลี่ยนควบคุม Vaccum หลังลิ้นเร่ง ไม่หาย
3) เปลี่ยน Air flow, กรองอากาศ ไม่หาย
4) ปรับ TAP โดยตัดสัญญาณที่รอบเดินเบา ไม่หาย
5) Disable สัญญาณ TAP ไม่หาย
ส่วนที่ยังสงสัยมีดังนี้ครับ
1) กำลังและเสียงเครื่อง, เสียง Valve ปกติ แต่น่าจะต้องปรับตั้ง
2) สายพานและลูกรอกหน้าเครื่องบางตัวเสื่อม ฉุดรอบเครื่องบางจังหวะโดยเฉพาะขณะคอมแอร์ทำงาน
3) ตรวจเช็คโดยละเอียดด้วยเครื่องมือเฉพาะทาง VCM และ Oscilloscope
จึงเรียนมาเพื่อขอคำแนะนำการหาสาเหตุครับ
Ford Escape 2.3 L ปัญหาขณะเครื่องเดินเบาเมื่อมี load ต้องอ่านแล้วอ่านอีก หลายครั้ง 1 รอบเดินเบาที่ไม่ได้บอกว่าขณะรอบเดินเบาอยู่ที่รอบเท่าไร ในรถที่ใช้เกียร์ ออโต รอบเดินเบาเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะ ทอคคอนเวอร์เตอร์ ทำหน้าที่เหมือนเป็นคลัตซ์ เมื่อรอบเครื่องอยู่ในรอบเดินเบาที่ถูกต้อง มันก็เหมือนกันเราเหยียบคลัตซ์ รอบเครื่องยนต์จะไม่ส่งแรงเข้าไปในเกียร์ เมื่อรอบเครื่องสูงขึ้นเหมือนเราปล่อยคลัตซ์ มีแรงส่งเข้าไปในเกียร์ ในข้อ 4 รอบเดินเบา เปิดแอร์ เกียร์ D คุณต้องเยียบเบรกไว้ มันก็คงจะเหมือนเข้าเกียร์ 1 แล้วปล่อยคลัตซ์แต่เหยียบเบรกไว้แน่นอนเครื่องก็คงต้องดับ ดูรอบเครื่องครับ เพราะรถติดแก๊สรอบเดินเบาจะค่อนข้างสูงกว่าปกติ แล้วถ้าบอกว่าเมื่อก่อนไม่เป็น ก็เครื่องใช้งานมาย่อมประสิทธิภาพย่อมลดลง วาล์วนั้นควรจะปรับตั้ง รถที่ติดแก๊ส 60.000 กม ควรจะตรวจตั้งวาล์ วาล์วยันปิดไม่สนิทจะไม่มีเสียงผิดปกติ เมื่อวาล์วไอเสียปิดไม่สนิท ในจังหวะดูดจะดูดเอาไอเสียเข้าไปทำให้เครื่องยนต์เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ในรอบเดินเบาได้
กลุ่มเพื่อนช่าง คุณ ธเนศร์ เสนีวงค์ ณ อยุธยา 7/5/2012 14:25