รายงานข่าวจากประเทศออสเตรเลีย ระบุว่า จากยอดการขายในเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ค่ายรถญี่ปุ่น ยังคงครองตลาด ทำยอดขายเป็นอันดับ 1 ขณะที่ ยอดการขายรถยนต์จากประเทศจีน ขยับขึ้นมาแซงรถยนต์จากประเทศเยอรมัน และสหรัฐอเมริกา เรียบร้อย เป็นประวัติศาสตร์ของตลาดรถยนต์ออสเตรเลีย
สภาอุตสาหกรรมยานยนต์ Federal Chamber of Automotive Industries ระบุว่า ตลาดโดยรวมของออสเตรเลีย หลังจากมีการประกาศล็อคดาวน์ และกลับมาสามารถควบคุมโรถระบาดได้แล้ว สามารถทำยอดขายได้เติบโตเป็นเดือนที่ 3 หลังจากตลาดซบเซาไปนานกว่า 31 เดือน ทำยอดขายในเดือนมกราคม ได้ 79,666 คัน เติบโต 11.1% แม้ว่าจะยังไม่กลับมาถึงยอดขายตามปกติก็ตามที
สภาพตลาดในออสเตรเลีย ที่สามารถควบคุมโรคระบาดร้ายแรงได้เป็นอย่างดี กลับฟื้นคืนตัวมาในเดือนมกราคม ที่ผ่านมา โดยรถยนต์ที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น ยังคงได้รับความนิยมมากสุด ขายได้ 29,275 คัน เพิ่มขึ้นถึง 29.6% ขณะที่รถยนต์ที่ผลิตจากประเทศไทย ยังคงได้รับความนิยมอยู่ในลำดับ 2 ขายได้ 16,903 คัน แต่ยังต่ำกว่าปีก่อน 6.1%, ขณะที่ค่ายรถยนต์จากเกาหลีใต้ ยังคงได้รับความนิยม ขายได้ 11,516 คัน เพิ่มขึ้น 11.5%
ตัวเลขที่น่าสนใจในเดือนมกราคม กลับไปอยู่ที่ยอดการขายของรถยนต์จากประเทศจีน ที่เข้าไปบุกตลาดมานาน สามารถทำยอดขายขึ้นมาเป็นอันดับ 4 ขายได้ 4,198 คัน เพิ่มขึ้น 156% โดยแซงรถยนต์จากเยอรมัน ที่ขายได้ 3,078 คัน ลดลง 42% และจากสหรัฐอเมริกา ขายได้ 2,056 คัน ลดลงเช่นกัน 38% เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยมียี่ห้อ เอ็มจี, แอลดีวี จาก เอสเอไอซี SAIC ทั้งสองยี่ห้อ, และ เกรท วอลล์ มอเตอร์
และที่บันทึกไไว้เป็นประวัติศาสตร์อีกเรื่องหนึ่ง คือการที่ค่ายรถยนต์ โฮลเด้นเจ้าของบ้านที่เคยเกรียงไกร หลังจาก เจเนอรัล มอเตอร์ ประกาศถอนตัวออกจากออสเตรเลีย เดือนนี้นับเป็นเดือนแรก ที่ค่ายโฮลเด้น ไม่มียอดขายเลลยแม้แต่คันเดียว
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…