Brand: ISUZU Model: Rodeo
Year: 2005 Miles: 100001 – ขึ้นไป
From: บุษกร พลดิศัย
เรียนคุณธเนศร์
รบกวนอีกครั้งรถ D`max คันเดิมที่มีปัญหาเครื่องดับ หลังจากเปลี่ยนสวิช SCV แล้ว เครื่องปกติ วิ่งก็ปกติ เปลี่ยนมาได้เดือนกว่าๆ พนักงานขับรถก็แจ้งว่ารถดับวิ่งไม่ได้สตาร์ทก็ไม่ได้ อาการก่อนดับคือมีควันดำออกมากผิดปกติ เลยเร่งเครื่องไล่ควันดำ พอควันหายดำเครื่องก็ดับ สตาร์ทก็ไม่ติดมีทางเดียวลากกลับที่ทำงาน พอช่างซ่อมจากศูนย์มาช่วยดู เอาเครื่องมือมาอ่านค่า ช่างบอกว่าเครื่องไม่รัน ตอนนี้อาการก็คือเครื่องโอเวอร์รัน มีทางแก้อยู่ 2 ทางคือ 1.ยกเครื่องใหม่ 2. ฟิตเครื่อง ช่างบอกอีกว่าเครื่องรุ่นนรี้เค้าเรียกคืนนานแล้วทำไมพี่ไม่เคลมคืน มึนมากๆ เพราะไม่เคยได้รับการติดต่อจากอีซูซุเลยจะรู้ได้อย่างไร และช่างก็บอกอีกว่ารถพี่ไม่มีประวัติเข้าศุนย์เลย เค้าUPกล่องกัน เค้าติดตัวดักไอกัน เค้าเคลมเครื่องกัน อีกหลายๆอย่าง งงมากๆดิฉันไม่รู้เลยตอบไม่ได้เลย เลยอยากถามคุณธเนศร์ดังนี้นะคะ
1. อาการของรถที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไรคะ จะต้องซ่อมอย่างไร
2. รถเสียเป็นอย่างที่ช่างบอกใช่หรือไม่
3. รถระบบใหม่ๆอย่างนี้ต้องมีการปรับทางเทคนิคอยู่เรื่อยๆอย่างที่ช่างบอกหรือคะ
4. วิธีการดูแลรักษารถที่ถูกต้องที่ควรนั้น ควรปฏิบัติอย่างไร
5. รถไม่เข้าศูนย์ฯ เสียหายมากขนาดนี้เลยหรือคะ
ขอบคุณมากค่ะที่เป็นที่พึ่งที่ดีเสมอ
1-อาการของรถ บังเอิญผมไม่ได้เห็น ไม่ได้เป็นผู้เช็กเอง ต้องเชื่อช่างจากศูนย์ที่เอาเครื่องมือมาเช็กให้ และคุณบอกผมว่า เกิดอาการโอเวอร์รัน ที่เดาเอาว่า มาจากคำว่า Over-run หรือหมุนเกินระดับ หรือหมุนเกินขีดแดง เกินขีดจำกัดของเครื่องยนต์ เป็นผลให้วาล์วชนหัวลูกสูบ ลูกสูบแตก ร้าว วาล์วหักหรือคดงอ เครื่องยนต์จึงไม่ทำงาน ต้องยกเครื่องยนต์ฟิตใหม่หมด แบบโอเวอร์ฮอลครับ
การหมุนเกินจากขีดจำกัด หากจะให้ผมบอกว่าเกิดจากอะไร ก็ไม่กล้าบอกแบบเต็มปากเต็มคำนัก เพราะเหตที่หลายท่านที่อ่านข้อความที่คุณเขียนมา ก็คงจะเข้าใจผมดีอยู่แล้ว ว่าไม่อยากโทษใครโดยไม่จำเป็น
แต่ก็เกิดได้จากการกระทำของคนขับรถนั่นเอง คือเมื่อคนขับรถเห็นควันดำออกมาทางท่อไอเสีย นั่นหมายถึงหัวฉีดส่งน้ำมันเข้าไปมากเกินไป ก็ควรจะเอารถเข้าไปรับการเช็กปรับเครื่องยนต์จากศูนย์บริการ แต่ไม่ทำ
กลับมาใช้วิธีเร่งเครื่องยนต์ขณะตัวเปล่า เมื่อเร่งเต็มที่ และไม่ได้มองเลยว่า เครื่องยนต์หมุนเกินกำหนด หรือเกินขีดแดงไปแล้วไม่กี่ครั้ง ก็เกิดอาการอย่างนี้แหละครับ คือเครื่องยนต์พัง
2-หากมีการเร่งเครื่องยนต์อย่างที่คนขับรถของคุณบอกกับคุณ ก็เป็นไปได้ครับ ที่จะเกิดอาการอย่างที่ช่างผู้ตรวจสอบบอกคุณ
3-รถยนต์รุ่นใหม่ หรือรถยนต์รุ่นใดก็ตาม ที่ออกมาใหม่ใหม่ ระยะแรกแรกภายในช่วงรับรองคุณภาพ หรือเกินไปบ้างนิดหน่อย ก็จะมีการเรียกกลับไปเพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง ปรับปรุงอะไรต่ออะไรเสมอ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ในบ้านเรานั้น ปกติไม่ค่อยมีการเรียกกลับเข้าไปเปลี่ยนอะไร แต่ช่างจะรู้และเปลี่ยนให้ เมื่อเอาเข้าไปเช็กตามระยะเวลา เช่นทุกหมื่นกิโลเมตร ในศูนย์บริการ
เพราะทุกศูนย์จะทำประวัติรถยนต์ไว้ทุกคัน ที่เข้ารับบริการตามระยะเวลาหรือไม่ก็ตาม เรียกขึ้นมาดูก็จะทราบว่า ถึงคราวต้องทำอะไรแล้ว และทำให้ไปเลย คือคนไทยเราไม่ค่อยยอมรับว่า การเรียกกลับไปเปลี่ยนชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ เป็นเรื่องดีที่ผู้ผลิตรับผิดชอบอย่างถูกต้อง กลับไปคิดเอาเองเสมอว่า เป็นความบกพร่องของรถแต่ละคันไปโน่น
4-การดูแลรักษารถยนต์ที่ถูกต้อง เริ่มจากเมื่อซื้อใหม่ไปก็ต้องอ่านคู่มือการใช้ วิธีการใช้งานอย่างละเอียด เหมือนกับกล้องถ่ายรูป หรือแม้แต่เตารีดไฟฟ้า พัดลม ฯลฯ ของพวกนี้ ราคาไม่ถึงรถยนต์ เรายังอ่านคู่มือกันได้เป็นวรรคเป็นเวร แต่กลับไม่เคยดูแม้กระทั้งหน้าปกหนังสือคู่มือการใช้รถยนต์ ปล่อยทิ้งไว้จนราขึ้นอยู่ในเก๊ะหน้ารถนั่นเองเป็นส่วนมาก
คู่มือการใช้รถยนต์ จะบอกวิธีการติดเครื่องยนต์ วิธีปรับทุกอย่างแม้กระทั่งที่นั่ง การเติมน้ำมัน การเติมลมยาง การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องน้ำมันกียร์น้ำมันเฟืองท้ายฯลฯ ระยะการใช้งานก่อนจะเข้ารับบริการตามกำหนด ขอบเขตการรับรองคุณภาพและการปฏิบัติเพื่อรักษาการรับรองคุณภาพไว้ อะไรต่ออะไรเหล่านี้ ที่คุณคงไม่ได้อ่าน และไม่ได้สนใจจะทำตามเลย อันนี้ เป็นความรับผิดชอบของผู้เป็นเจ้าของรถ กับผู้ใช้รถครับ
5-รถที่ไม่ได้เคยเข้าศูนย์บริการเลย แม้แต่ครั้งแรก ที่ 10,000 กิโลเมตรแรก เขาก็ไม่มีข้อมูลอยู่ในศูนย์ และก็อาจจะ อาจจะนะครับ อาจจะไม่รู้แม้กระทั่งชื่อและที่อยู่ผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครอง ก็เลยไม่ได้ติดต่อกัน ไม่ได้แจ้งอะไรให้ทราบเลย
อันนี้ โทษศูนย์บริการคงไม่ได้ เพราะก่อนจะซื้อรถ คุณก็ต้องรู้อยู่แล้วว่า บริษัททุกบริษัทต้องมีศูนย์บริการ และศูนย์บริการก็ต้องมีไว้ให้บริการ ถ้าคุณไม่รู้ว่า เมื่อไรจะเข้ารับบริการ ไม่รู้จะหาข้อมูลที่ใด ก็ต้องถามพนักงานขายผู้ขายรถให้คุณ เขาจะแนะนำคุณโดยเอาหนังสือคู่มือการใช้รถยนต์ และคู่มือรับบริการ มาอ้างให้คุณเห็น และให้คุณได้รับรู้
แต่นี่ คุณซื้อรถยนต์ราคาเกือบล้าน เอาไปให้ลิงที่ไหนก็ไม่รู้ขับรถ แล้วลิงนั้นก็ไม่รู้เรื่องอะไรแม้แต่น้อยเกี่ยวกับรถยนต์ ไม่รู้แม้กระทั่งว่า ขีดแดงในมาตรวัดรอบหมายถึงอะไร ผ่าไปเร่งรอบให้หมุนเกินขีดแดง จนเครื่องพังไป นี่นอกจากไม่ยอมเอารถเข้ารับบริการ และยังไม่รู้อีกว่า ตัวเองเป็นผู้รับผิดชอบรถยนต์คันนั้น จะต้องรู้เรื่องการรับบริการตามระยะเวลา ก็กลับไม่รู้เรื่อง ผมเรียกว่า ลิง ก็ถูกต้องแล้วละครับ ยังดีนะ ที่เรียกอย่างนี้เท่านั้น ไม่ใช้คำอื่น เพราะเกรงใจเจ้านายของเขา คือคุณนั่นแหละครับ
คราวต่อไป สอบถามคนขับรถใหม่ที่จะรับเข้ามาก่อน ว่ารู้หรือไม่ ว่าจะต้องดูแลรักษารถยนต์อย่างไร ถ้าบอกคุณไม่ได้ว่า ต้องอ่านคู่มือ ต้องรู้ว่าจะต้องเข้าศูนย์เป็นระยะละก็ อย่าจ้างมาให้เป็นลิงตัวที่สองเลยนะครับ-ธเนศร์