รายงานข่าวจากกรุงปารีส ระบุว่า สำนักงานให้บริการการลงทุน มูดี้ Moody’s Investors Service ประกาศตัดเครดิต ค่ายรถยนต์เรโนลต์ เป็น ขยะ junk หลังจากค่ายรถยนต์เปิดเผยผลดำเนินการปี 2562 ขาดทุนเป็นครั้งแรกในศตวรรษ รวมทั้งประเมินว่า ผลกำไรจากการดำเนินงานก็น่าจะลดลงอย่างมากเช่นกัน
มูดี้ ลดเกรด หนี้สินระยะยาว ของ เรโนลต์ ลง 1 ลำดับ เป็น Ba1 ซึ่งต่ำกว่าเกรดที่แนะนำให้มีการลงทุน ขณะเดียวกัน สถาบันการเงิน สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ Standard & Poor ยังคงเครดิตของ เรโนลต์ เหนือกว่าระดับ ขยะ junk
“เมื่อพิจารณาแผนงานในปี 2563 ของการบริหารงานในระยะยาว ที่ประเมินว่าผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัท จะลดลง อันเนื่องมาจากสภาพตลาดที่อ่อนตัว เราไม่คาดว่า เรโนลต์ จะสามารถทำผลกำไรจากการดำเนินงานได้เพิ่มขึ้น ระยะอันใกล้นี้” จากรายงานของ มูดี้
เรโนลต์ ทำยอดขายได้ลดลงในตลาดที่สำคัญของบริษัท ขณะเดียวกัน การดำเนินงานของค่ายพันธมิตร นิสสัน ก็ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร โดย ซีอีโอ คลอททิล เดลบอส dismal performance ระบุว่า น่าจะมีการทบทวนแผนงานในประเทศจีน และศึกษาถึงการปิดโรงงาน เพื่อลดค่าใช้จ่ายเช่นกัน
ทั้งค่ายเรโนลต์ และ นิสสัน ต่างก็มีผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา ไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร รวมทั้งความสัมพันธ์ที่กระทบกระเทือน อันเนื่องมาจาก อดีตประธานของทั้งสองค่าย คาร์ลอส โกส์น ถูกจับกุมและสอบสวนความผิด กรณีการผิดพลาดด้านการเงิน ในประเทศญี่ปุ่น
ขณะเดียวกันผู้บริหารค่ายเรโนลต์ ก็จัดแถลงข่าวในทันทีเมื่อสัปดาห์ก่อน โดย เดลบอส ระบุว่า บริษัทมีเงินสดที่สามารถใช้งานได้อยู่ราว 16 พันล้านยูโร ราว 640 พันล้านบาท “เราเชื่อมั่นว่า เราไม่มีปัญหาด้านการเงินภายในกลุ่มของเรา” เธอกล่าว “เราเชื่อมั่นว่ามีเงินสดมากเพียงพอในการดำเนินงาน ที่สามารถนำมาใช้งานได้ทันที ที่ต้องการ”
ขณะเดียวกัน การตัดสินใจของค่าย นิสสัน ที่ระงับการจ่ายเงินปันผลจากการดำเนินงานในปี 2562 ก็เป็นปัญหาสำหรับค่ายเรโนลต์ เช่นกัน เพราะถือหุ้นอยู่ใน นิสสัน 43%
ด้าน เรโนลต์ ก็ประกาศตัดเงินปันผลลง 2 ใน 3 เหลือเพียงหุ้นละ 1.10 ยูโร ราว 44 บาท
ในปี 2563 เรโนลต์ ประเมินว่ากำไรจากผลการดำเนินงาน จะใกล้เคียงกับปี 2562 อันเนื่องมาจากความไม่มั่นคงของ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา โดยคาดว่าจะอยู่ในราว 3-4% ขณะที่ในปี 2562 ทำได้ 4.8% ส่วนปี 2561 ทำได้ 6.3%
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…
บริษัท มิตซูบิช…