Brand: SUBARU Model: Impreza
Year: 1996 Miles: 60001-80000
From: Satjapon Tiemtinkrit
ผมได้รับรถมาจากคุณอา (ท่านเสียไปแล้ว) Subaru Impreza ปี96 1600 CC ไม่มีเทอร์โบ เกียร์ออโต้ ขับ 2 ล้อ เดิมๆทั้งคัน ตอนรับมา 68000 km ใช้งานได้ดีไม่มีปัญหา (เจ้าของเดิมไม่ค่อยได้ใช้งาน) พอครบ 70000 km นำไปเซอร์วิสที่ศูนย์เปลี่ยนของเหลว และเช็คช่วงล่าง ช่างบอกเรียบร้อยดี แต่พอผมรับรถกลับมาพบว่า ขณะเหยียบคันเร่งจะได้ยินเสียง แกร๊กๆ ไม่ดังมาก มาจากด้านขวา น่าจะเป็นบริเวณล้อแต่หากไม่เหยียบปล่อยให้รถไหลเองจะไม่ได้ยินเสียงเลย และพอขับทางไกลต่างจังหวัดไปได้สักระยะเสียงก็หายไปเลยเช่นกัน แต่ทุกวันพอตื่นมาขับรถไปทำงาน(1km) จะได้ยินเสียงทุกครั้ง พอนำรถเข้าศูนย์อีกครั้งก็ต้องทิ้งรถไว้ข้ามคืนเพราะพอขับระยะทางไกลเสียงก็หาย (ผมอยู่ชลบุรี ศูนย์ Subaru อยู่ใน กทม) ครั้งแรกบอกตัวยึดกันชนหลวม, ครั้งที่สองเปลี่ยนสายไมล์ ทุกครั้งพอรับรถกลับมาวันแรกจะเงียบกริบ ประมาณวันที่ 3 เสียงดังกล่าวจะกลับมากวน ตอนนี้ก็ยังได้ยินอยู่ อยากกลับไปเช็คที่ศูนย์แต่ไม่มั่นใจไปแต่ละครั้งเสียเวลาและค่าใช้จ่ายมากแล้วแก้ปัญหาไม่ได้ อยากแก้ให้ถูกจุดครับ
แก้ไขล่าสุดเปลี่ยนสายไมล์ครับที่ศูนย์ เสียงหายไปพักหนึ่ง ตอนนี้กลับมาอีกเสียงเบากว่าเดิม แต่ตอนนี้ชักได้ยินดังขึ้นเรื่อยๆครับ
ถ้าต้องการแก้ไขให้ถูกจุด ก็ต้องพยายามหาจุดบกพร่องให้เจอเท่านั้นแหละครับ
คือคุณต้องเข้าใจก่อน ว่าการตอบปัญหาทางเทคนิคนั้น แม้ผู้ตอบจะเก่งกาจสักเพียงใด เชี่ยวชาญเพียงไหน ก็ยังไม่มีทางจะชี้จุดบกพร่องของแต่ละปัญหา อันเกิดขึ้นเบื้องหลังของผู้ตอบได้อย่างแม่นยำเสมอไป
ด้วยว่า ปัญหาทางเทคนิคไม่ได้เกิดขึ้นแบบเป็นแบบเป็นแผนเสมอไป โดยเฉพาะปัญหาที่มาจากเรื่องเสียง ที่จะได้รับการบอกเล่าจากผู้ใช้รถ ซึ่ง ตรงจุด หรือไม่ตรงจุด ก็ขึ้นอยู่กับความแม่นยำของผู้บอกเล่า
ผู้ตอบปัญหา ก็ไม่มีทางเลือกนอกจากจะคาดคะเนไปตามที่ผู้บอกเล่าบอกไป
อันนี้ ไม่ดีเลยครับ ไม่มีใครชอบ เพราะนั่นก็คือการเดา และอยากจะเรียกว่า เดาสุ่มเอาด้วยซ้ำ
ผมไม่นิยม ไม่ยินดี
แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อเป็นการตอบปัญหาทางจดหมาย ไม่มีหนทางใดที่จะสอบถามกลับไปถึงอาการข้างเคียง ที่หากได้รับคำตอบ ก็อาจจะทำให้คลำเข้าไปถึงต้นเหตปัญหาได้
ซึ่ง นี่ก็คือสิ่งที่ผมอยากทำ และต้องการทำ
แต่ทำไม่ได้ จะทำอย่างไร ก็ต้องขอถามกลับ แต่ทีนี้ เมื่อถามกลับไป คุณก็ต้องเขียนมาอีก กลับไปกลับมาอยู่อย่างนี้ ผมก็เลยบอกไว้แต่แรกแล้วว่า ขอให้เขียนให้ละเอียด
แต่อย่างไรก็ตาม ความละเอียดของแต่ละบุคคล ไม่เหมือนกันไปอีกนี่ซีเล่า
ผู้หญิง จะเล่าปัญหา และอาการข้างเคียงได้ชัดเจนกว่าผู้ชาย
อาจจะเพราะผู้ชายเข้าใจเอาเองว่า รถยนต์เป็นเรื่องของบุรุษ จึงเล่าแบบไม่ใส่ใจกับปัญหา เพียงแต่อย่างรู้การแก้ปัญหา อันเป็นเรื่องไม่ถูกต้องตั้งแต่ต้น คือการเล่าแบบไม่ใส่ใจกับปัญหา
เรื่องของคุณนี้ ผมเดาเอาว่า ไม่น่าจะเป็นเรื่องของชิ้นส่วนใดทั้งสิ้น หากแต่เป็นเพราะออกเทนของเชื้อเพลิงที่เติมเข้าไป ไม่ถึงความต้องการของเครื่องยนต์ อันเป็นผลมาจากกระบอกสูบ ห้องเผาไหม้ หัวเทียน และที่สำคัญ เขม่าในห้องเผาไหม้
ลองเพิ่มออกเทนให้เชื้อเพลิงด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งก่อน อาจจะเปลี่ยนที่เติมเชื้อเพลิง เช่นสมมุติว่าใช้ของเชลล์อยู่ ก็ไปใช้ของบางจาก หรือ ปตท. เลือกออกเทนสูงสุดที่มี
หากอาการไม่ดีขึ้นหลังจากเปลี่ยนเชื้อเพลิงแล้วสักถังเต็มเต็ม ก็คงต้องดูจังหวะจุดระเบิด และหากจำเป็น ก็ต้องเปิดฝาสูบออกมาขูดเขม่าแล้วละครับ
นี่พูดถึงว่า ผมเข้าใจว่า เสียงที่ดังนั้น มาจากการเขกหรือ Knock ของเครื่องยนต์ ถูกต้อง
ลองดูก่อนครับ-ธเนศร์
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…