“มิทสึโอกะ” จับมือ “ยนตรกิจ คอร์ป” ตั้งฐานประกอบในประเทศไทย


“มิทสึโอกะ” มั่นใจศักยภาพไทย จับมือ “ยนตรกิจ คอร์ป” ตั้งบริษัท “มิทสึโอกะ มอเตอร์ (ประเทศไทย)” พร้อมตั้งฐานการประกอบในไทย หวังเปิดตลาดด้านการส่งออกในประเทศอาเซียน ตะวันออกกลางและอื่นๆ ประเดิมเปิดไลน์ประกอบ 2 รุ่น Galue IV (กาลู โฟร์) และ Himiko (ฮิมิโกะ) ในปี 2011

นายอาคิโอะ มิทสึโอกะ ประธาน บริษัท มิทสึโอกะ มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น จำกัด ผู้ผลิตรถยนต์คลาสสิคหรูหราระดับสูง เปิดเผยว่า ในวันนี้ (15 ก.ย.53) ทางบริษัทฯ ได้ร่วมลงนามเซ็นสัญญาร่วมทุนกับทางบริษัท ยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เพื่อประกอบรถยนต์มิทสึโอกะในประเทศไทย หลังจากที่มีการแต่งตั้งบริษัท ยนตรกิจฯ เป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์มิทสึโอกะแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2008 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เนื่องจากทางบริษัทฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญของตลาดรถยนต์ในภูมิภาคอาเซียน และเชื่อมั่นศักยภาพด้านต่างๆ ของประเทศไทย โดยเฉพาะในเรื่องมาตรฐานการประกอบรถยนต์ คุณภาพของผู้ผลิตชิ้นส่วนและบุคลากรด้านฝีมือแรงงานที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การตั้งฐานการประกอบรถยนต์มิทสึโอกะในประเทศไทย จะเป็นประตูสำหรับตลาดเพื่อการส่งออกรถยนต์มิทสึโอกะไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ด้วยปัจจัยดังกล่าวข้างต้น ทำให้บริษัทฯ ให้ความสำคัญและเลือกประเทศไทยเป็นฐานการประกอบรถยนต์ยี่ห้อดังกล่าว นับเป็นโรงงานประกอบรถยนต์มิทสึโอกะแห่งแรกที่ตั้งขึ้นนอกประเทศญี่ปุ่น


สำหรับการร่วมลงทุนในครั้งนี้ ได้มีการจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ในนาม “บริษัท มิทสึโอกะ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด” โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น ดังนี้ คือ
1.บริษัท มิทสึโอกะ มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น จำกัด ถือหุ้น 45 เปอเซนต์
2.บริษัท ยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ถือหุ้น 40 เปอเซนต์
3.บริษัทอื่นๆ ถือหุ้น 15 เปอเซนต์

บริษัท มิทสึโอกะ มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จะดำเนินการด้านการประกอบรถยนต์ การจัดหาชิ้นส่วน และการจัดจำหน่ายรถยนต์มิทสึโอกะทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีการแต่งตั้ง นายคาซูโนริ ทากาซาวา เป็นผู้บริหาร รับผิดชอบดูแลการดำเนินงานในประเทศไทย ส่วนสถานที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ ในเบื้องต้นจะตั้งอยู่ที่ บริษัท ยนตรกิจอุตสาหกรรม จำกัด ถนนร่มเกล้า เขตลาดกระบัง จากนั้นจะย้ายไปที่โชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์มิทสึโอกะ ถนนพระราม 9 อย่างเป็นทางการ ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้านี้

สำหรับการประกอบรถยนต์มิทสึโอกะในประเทศไทย จะเน้นการทำตลาดเพื่อการส่งออกเป็นหลัก แบ่งสัดส่วนการจำหน่ายสำหรับตลาดเพื่อการส่งออกเป็น 90% และอีก 10% เป็นตลาดภายในประเทศ โดยตลาดส่งออกเป็นที่สำคัญ คือ ตลาดในแถบประเทศตะวันออกกลางและอาเซียน อาทิ บังคลาเทศ มาเลเซีย บรูไน สิงค์โปร์ อินโดนีเซีย ซาอุดิอาระเบีย, จอร์แดน, สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ และอื่นๆ


นายสรวิศย์ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทผู้นำเข้าและผู้แทนจำหน่ายรถยนต์คุณภาพชั้นนำจากทวีปยุโรปและเอเซีย เปิดเผยว่า สำหรับการร่วมลงนามเซ็นสัญญาในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวหนึ่งในการขยายเครือข่ายด้านธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ ของบริษัท ยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หลังจากประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาและสร้างสรรธุรกิจของคนไทยให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องและมั่นคง

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านการประกอบรถยนต์ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น และเป็นการสร้างงานและรายได้ให้กับประเทศ อันนำไปสู่การเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของ
– 3 –

ประเทศโดยรวม ทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคคนไทยในการสร้างสรรตลาดรถยนต์มิทสึโอกะในประเทศไทย

สำหรับการร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้ ทางบริษัทฯ รับผิดชอบในเรื่องการดำเนินการประกอบรถยนต์มิทสึโอกะ โดยใช้โรงงานประกอบรถยนต์ YKI ของบริษัท ยนตรกิจอุตสาหกรรม จำกัด (Yontrakit Industrial) ซึ่งจะเริ่มเปิดไลน์การประกอบรถยนต์มิทสึโอกะอย่างเป็นทางการ ในปี 2011 และในเบื้องต้นจะดำเนินการประกอบรถยนต์มิทสึโอกะ 2 รุ่นได้แก่ Mitsuoka Galue IV (มิทสึโอกะ กาลู โฟร์) และ Mitsuoka Himiko (มิทสึโอกะ ฮิมิโกะ) ประมาณ 200 คัน และในปี 2012 จะมีการประกอบเพิ่มขึ้นเป็น 300 คัน พร้อมกันนี้ ทางบริษัทฯ จะดำเนินการศึกษาเพื่อประกอบรถยนต์ในรุ่นอื่นๆ ของมิทสึโอกะต่อไป

“การประกอบรถยนต์มิทสึโอกะในครั้งนี้ จะมีการปรับไลน์ในการดำเนินการเพื่อรองรับการประกอบเพียงเล็กน้อย เนื่องจากทางโรงงานประกอบรถยนต์ YKI เป็นโรงงานประกอบที่ได้มาตรฐานระดับยุโรป และมีบุคลากรที่มีความชำนาญ นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ได้มีการศึกษาเทคโนโลยีด้านการประกอบรถยนต์มิทสึโอกะมาเป็นระยะเวลานานกว่า 2 ปี ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่า การประกอบรถยนต์มิทสึโอกะ จะมีคุณภาพได้มาตรฐานตามที่บริษัทแม่กำหนดอย่างแน่นอน”


สำหรับการทำตลาดรถยนต์มิทสึโอกะในประเทศไทย จะเน้นการเจาะกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เนื่องจากเป็นตลาด Niche Market (นิช มาร์เก็ต) ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพสูง ดังนั้น การดำเนินการจะให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพด้านบริการที่มีศักยภาพและมาตรฐานระดับสูง ผ่านเครือข่ายการจำหน่ายที่มีคุณภาพ โดยการขยายเครือข่ายจะเน้นเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวและจังหวัดหลักของแต่ละภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ คาดว่าในปี 2011 จะมีการแต่งตั้งโชว์รูมและศูนย์บริการเพิ่มขึ้นตามจังหวัดที่สำคัญอีก 2-3 แห่ง ปัจจุบัน ทางบริษัทฯ มีโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์มิทสึโอกะ อยู่ที่ถนนพระราม 9 ขณะนี้อยู่ในระหว่างการปรับปรุง เพื่อเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของบริษัท มิทสึโอกะ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

สำหรับรถยนต์มิทสึโอกะที่จำหน่ายในปัจจุบัน ได้แก่
– 4 –

1.Mitsuoka Galue 250 (มิทสึโอกะ กาลู) เป็นรถยนต์ซีดานที่ออกแบบให้มีความหรูหรา สง่างาม เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ราคาจำหน่าย 3,850,000 บาท
2.Mitsuoka Galue Limousine (มิทสึโอกะ กาลู ลีมูซีน) เป็นรถที่มีความยาวของตัวรถเพิ่มจากรุ่น Galue 250 อีก 50 เซนติเมตร มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 ขนาด คือ รุ่น Galue Limousine 250 (กาลู ลีมูซีน 250) ราคาจำหน่าย 5,890,000 บาท และรุ่น Galue Limousine 350 (กาลู ลีมูซีน 350) ราคาจำหน่าย และ 6,980,000 บาท
3.Mitsuoka Orochi (มิทสึโอกะ โอโรชิ) เป็นรถซูเปอร์คาร์ระดับหรู ขนาดเครื่องยนต์ 3.3 ลิตร ราคาจำหน่าย 11,700,000 บาท


นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีนี้ จะมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดไทยอีก 1 รุ่น คือ Mitsuoka Himiko (มิทสึโอกะ ฮิมิโกะ) เป็นรถสปอร์ตคลาสิคสไตล์โมเดิร์น คาดว่าจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคคนไทยอย่างแน่นอน

thunyaluk@caronline.net

Facebook Comments