มิชลิน ช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการขนส่ง ด้วยยางหล่อ มิชลิน รีเทรท ภายใต้แนวคิดมิชลิน มัลติไลฟ์ เพื่อการใช้งานที่ยาวนานกว่า
มิชลิน ผู้นำด้านยางยนต์ระดับโลก แถลงต่อยอดธุรกิจยางรถบรรทุกด้วยเพิ่มชีวิตให้กับยางมิชลิน ด้วยการเพิ่มอายุให้กับยางรถบรรทุกมิชลิน ในแนวคิด มิชลิน มัลติไลฟ์ (Multi Lives) เพื่อให้ผู้ใช้ยางรถบรรทุกมิชลินมีต้นทุนน้อยที่สุดในธุรกิจการขนส่ง เพิ่มความคุ้มค่าในการใช้งาน โดยยืดอายุการใช้งานจากการนำโครงยางที่มีคุณภาพสูงของมิชลินกลับมาใช้งานได้หลายครั้ง โดยผ่านกระบวนการ การเซาะร่องดอกยาง (Regroove) และ การหล่อดอกยาง หรือ “มิชลิน รีเทรท” (Michelin Retread) ด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้าเฉพาะจากมิชลิน และยังคงให้มาตรฐานด้านความปลอดภัย และคุณภาพเสมือนยางใหม่ นอกจากนี้ ทุกชิ้นส่วนและขั้นตอนการผลิตเป็นไปตามมาตรฐานโรงงานมิชลิน จึงเชื่อมั่นได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของมิชลิน 100%
นายใจเพชร เจวาภัทรกุล ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจยางรถบรรทุก และยางนอกทางหลวง บริษัท สยามมิชลิน จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดยางเรเดียลสำหรับรถบรรทุกและรถโดยสารมีอัตราการเติบโตไปในทิศทางที่ดี โดยได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบธุรกิจรถบรรทุกและขนส่งเป็นอย่างดี เนื่องจากสามารถลดต้นทุนต่อกิโลเมตรได้มากกว่ายางผ้าใบ ซึ่งขณะนี้ สัดส่วนของยางเรเดียลในตลาดประเทศไทยอยู่ที่ประมาณกว่า 50% โดยมีมิชลินเป็นผู้นำตลาด เนื่องจากลูกค้าให้การยอมรับในประสิทธิภาพของยางเรเดียล ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนต่อกิโลเมตรของลูกค้าลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยยางเรเดียลมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า ช่วยประหยัดน้ำมัน มีความแข็งแรงคงทน จึงให้ความคุ้มค่าในการใช้งานมากกว่า
และเพื่อเพิ่มความคุ้มค่าให้กับผู้ประกอบการ และลดต้นทุนพร้อมกับลดทรัพยากรธรรมชาติในการผลิตยาง
มิชลิน ประเทศไทย จึงได้นำนวัตกรรมเพื่อการเพิ่มชีวิตการใช้งานให้กับยางรถบรรทุกมิชลิน โดยยางที่ผ่านการใช้งานจนกระทั่งดอกยางสึกหมดแล้ว สามารถนำยางดังกล่าวไป “เซาะร่องดอกยาง” ซึ่งจะทำในขณะความลึกดอกยางเหลือ 2-3 มม. และโครงยางมีสภาพที่ดีเหมาะสมในการใช้งาน โดยยางรถบรรทุกมิชลินได้ถูกออกแบบให้สามารถ “เซาะร่องดอกยาง” ได้ จากคุณสมบัติพิเศษ คือ มีพื้นที่ชั้นเนื้อยางใต้ฐานดอกยางรองรับการแกะร่องดอก และ เป็นสูตรเนื้อยางเดียวกับดอกยางปกติ และเมื่อทำการแกะร่องดอกยางแล้ว จะสามารถเพิ่มอายุการใช้งานอีกประมาณ 25%
และด้วยความแข็งแกร่งของโครงยางมิชลินที่ยังคงสภาพดี ผู้ใช้ยังสามารถนำยางมิชลินที่ผ่านการเซาะร่องแล้วกลับมาเข้ากระบวนการหล่อดอก มิชลิน รีเทรท ตามมาตรฐานโรงงานมิชลิน ได้ถึง 2 ครั้ง ซึ่งจะะให้ประสิทธิภาพในการใช้งานต่อครั้งได้ถึง 90% ในขณะที่มีต้นทุนค่าใช้จ่ายต่อครั้งเพียง 40% ของยางใหม่เท่านั้น ดังนั้น จึงเท่ากับว่าอายุของยางมิชลิน 1 เส้น มีประสิทธิภาพในการใช้งานเท่ากับ 4 รอบ คือ ยางเส้นใหม่ ยางหลังการเซาะร่อง ยางหลังการทำมิชลิน รีเทรท รอบที่ 1 และรอบที่ 2
มิชลิน รีเทรท จึงเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด มิชลิน มัลติไลฟ์ ที่จะนำธุรกิจการขนส่งไปสู่มิติใหม่ของการใช้ยางรถบรรทุก เป็นนวัตกรรมการหล่อดอกยาง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของมิชลิน สำหรับยางรถบรรทุกและยางสำหรับวิ่งนอกทางหลวง ด้วยการนำโครงยางที่ใช้แล้วของมิชลิน มาผ่านกระบวนการผลิตตามมาตรฐาน และการควบคุมคุณภาพของโรงงานมิชลิน ด้วยการใช้หน้ายาง (Tread band) ที่ผลิตขึ้นมาใหม่ โดยมีสูตรเนื้อยาง และลายดอกยางเหมือนยางใหม่ของมิชลิน เช่น Michelin XDE 2+/ XZA 2+ จึงเชื่อมั่นได้ว่าผลิตภัณฑ์ภายใต้ “มิชลิน รีเทรท” มีมาตรฐานเช่นเดียวกับยางใหม่มิชลิน 100% โดยนวัตกรรมนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการในยุโรป และอเมริกา
โรงงานมิชลิน รีเทรท เป็นโรงงานหล่อดอกเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 (ด้านระบบการบริหารจัดการคุณภาพ – Quality Management System) จึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ยาง มิชลิน รีเทรท ที่ผลิตจากโรงงานแห่งนี้ มีคุณภาพมาตรฐาน เทียบเท่ากับโรงงานผลิตมิชลิน รีเทรท อื่น ๆ ทั่วโลก ซึ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีถึงคุณภาพ และความปลอดภัยที่ผู้ใช้งานจะได้รับ นอกจากนี้ มิชลิน รีเทรท ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เนื่องจากโครงยางที่แข็งแกร่งของมิชลิน สามารถนำกลับมาใช้ได้ถึง 4 รอบ จึงช่วยลดปริมาณโครงยางเก่าซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหากมีการกำจัดยางเหล่านี้อย่างไม่ถูกวิธี
นอกจากนี้ มิชลิน รีเทรท ยังช่วยลดปริมาณการใช้ทรัพยากรในการผลิตยาง รวมทั้งหน้ายางของมิชลิน รีเทรท ยังสามารถลดแรงต้านการหมุน จึงช่วยประหยัดน้ำมัน ส่งผลให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศลดลงเช่นกัน โดยพบว่ารถบรรทุกจำนวน 30 คัน* (ยางเรเดียล 10 เส้นต่อรถหนึ่งคัน) ใน 1 Fleet ที่นำยางใช้แล้วกลับมาเข้ากระบวนการรีเทรท จะสามารถลดปริมาณทรัพยากรในการผลิตยางได้ถึง 5,143 กิโลกรัม และลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ลงได้ 7,046 กิโลกรัม ภายในระยะเวลา 1 ปี เมื่อเทียบกับการใช้ยางใหม่
สำหรับค่าใช้จ่ายในการรีเทรท แต่ละครั้ง ขึ้นอยู่กับ ขนาดและราคายางเดิม ที่นำมารีเทรท หรือประมาณ 40 % ของยางใหม่ ผู้ประกอบการสามารถส่งโครงยางมิชลินเพื่อทำการรีเทรทได้ที่ศูนย์บริการ MICHELIN TRUCK SERVICE CENTER ซึ่งให้บริการกว่า 40 แห่ง ทั่วประเทศ
สำหรับผู้สนใจนวัตกรรมการหล่อดอก MICHELIN Retread สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ MICHELIN Truck Service Center หรือ www.transport.michelin.co.th
—————————————————–
premsak@caronline.net