มาสด้า3 เจเนอเรชั่นใหม่ ชูดีไซน์โดดเด่น ทิ้งห่างคู่แข่งอีกขั้นด้วยสมรรถนะและความปลอดภัยที่เหนือกว่าแถมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


มาสด้า3 เจเนอเรชั่นใหม่ ชูดีไซน์โดดเด่น ทิ้งห่างคู่แข่งอีกขั้นด้วยสมรรถนะและความปลอดภัยที่เหนือกว่าแถมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

กรุงเทพฯ – ประเทศไทย, 17 มีนาคม 2554 – บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ฤกษ์เปิดตัวแนะนำรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 เจเนอเรชั่นใหม่ สายพันธุ์สปอร์ตมาสด้าที่ทุกคนตั้งตารอคอยอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย มาพร้อมทั้งรุ่นแฮตช์แบ็ค 5 ประตู และรุ่นซีดาน 4 ประตู มาสด้า3 เจเนอเรชั่นใหม่ยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมาสด้าภายใต้คอนเซ็ปต์ “DARE TO BE BOLD” ด้วยรูปลักษณ์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวทั้งภายนอกและภายใน โชว์เทคโนโลยีด้านวิศวกรรมยานยนต์ล้ำอนาคต พร้อมระบบความปลอดภัยเต็มคัน มั่นใจสามารถสร้างแบรนด์มาสด้าให้กระหึ่มต่อเนื่องเตรียมเปิดตัวสู่สาธารณะชนอย่างเป็นทางการในงานบองกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ที่เมืองทองธานี ในระหว่างวันที่ 25 มีนาคมถึง 5 เมษายนศกนี้


มร. ยูจิ นากามิเน่ ผู้บริหารระดับสูง มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า แบรนด์ของรถยนต์นั่งของมาสด้ากำลังเติบโตอย่างมากในประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 ในตลาดประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดหลักและสำคัญอย่างยิ่งในภูมิภาคนี้ ที่ยังคงอยู่ในความสนใจของลูกค้านับตั้งแต่เปิดตัวเป็นครั้งแรก สำหรับปีนี้ส่วนแบ่งตลาดของมาสด้า3 ในกลุ่มซีคาร์ กำลังจะเติบโตถึง 7 เปอร์เซ็นต์ในไทย ความสำเร็จที่กล่าวมาเหล่านี้ ทำให้ผมมีความมั่นใจมากในโอกาสเติบโตของแบรนด์รถยนต์มาสด้า การเปิดตัวมาสด้า3 เจเนอเรชั่นใหม่ คือ ยุทธศาสตร์อีกมุมหนึ่งของมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จากที่ท่านทราบมาก่อนหน้านี้ว่าโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) ประสบความสำเร็จอย่างมากในฐานะที่เป็นฐานการผลิตรถกระบะขนาด 1 ตันของมาสด้าสู่ตลาดโลก บทบาทของโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) ในปัจจุบันนี้ได้ขยายฐานะขึ้นสู่การเป็นฐานการผลิตรถยนต์นั่งอีกด้วย เพราะโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) มีความพร้อมเต็มที่ในการผลิตรถคุณภาพสูงให้แก่ผู้บริโภค ทั้งมาสด้า2 ใหม่ และมาสด้า3 ใหม่ ที่ผลิตจากโรงงานนี้ เป็นสินค้าเชิงยุทธศาสตร์ของมาสด้าสำหรับตลาดประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน


มาสด้า3 เจเนอเรชั่นใหม่ นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของทีมวิศวกรของมาสด้า เพราะได้รับการกล่าวขวัญว่า เป็นรถสัญชาติญี่ปุ่นที่มีคุณภาพเหนือกว่ารถชั้นนำกว่า 39 รุ่น โดยประสบความสำเร็จด้านยอดขายอย่างมากมายจากทั่วโลกถึง 2,900,000 คัน และในประเทศไทยเป็นจำนวนสูงถึง 28,000 คัน และเป็นเจ้าของรางวัลคุณภาพจากทั่วโลกแล้วกว่า 124 รางวัล รวมทั้งผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ทั้งของอเมริกา ยุโรป และออสเตรเลีย ซึ่งเป็นตลาดที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งมาสด้าเชื่อมั่นว่า ความสำเร็จของมาสด้า3 ใหม่ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้มาสด้าเติบโตอย่างแข็งแกร่งในประเทศไทย ทั้งนี้เพราะมาสด้ามีความพร้อมหลายด้าน ได้แก่ การเตรียมความพร้อมของผู้จำหน่ายทั้งรูปลักษณ์ของโชว์รูมที่มาสด้าได้ปรับรูปแบบใหม่หมด รวมทั้งคุณภาพของการบริการที่มาสด้าใส่ใจเป็นพิเศษ ก็เป็นรถสปอร์ตคาร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ซึ่งมีฐานผลิตก็อยู่ในประเทศไทย นากามิเน่ กล่าวเพิ่มเติม


มร. โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวว่า รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปลายปี 2547 ซึ่งในครั้งนั้นได้สร้างประวัติศาสตร์การขายรถต่อวงการรถยนต์เมืองไทยเป็นอย่างมาก โดยมีการซื้อขายใบจองรถมาสด้า3 ด้วยราคาที่สูงมาก พร้อมทั้งกลายเป็นรถยนต์เพียงรุ่นเดียวที่สามารถมียอดขายเพิ่มขึ้นทุกปีและยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปเรื่อยๆ แม้กำลังจะเปลี่ยนโฉมใหม่ ซึ่งนับเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง สำหรับการเปิดตัวแนะนำรถยนต์นั่งมาสด้า3 เจนเนอเรชั่นใหม่ในวันนี้จะเป็นอีกหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมาสด้าที่จะต่อยอดจากการเติบโตที่ก้าวกระโดดจากปีที่ผ่านมา ที่จะส่งผลให้ยอดขายน่าจะเกินเป้าหมายที่เราวางไว้ประมาณ 38,500 คัน หลังจากที่เราได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในการทำการสำรวจตลาดไปก่อนหน้า นอกจากรูปลักษณ์ดีไซน์ที่เน้นความเป็นสปอร์ตแล้ว ที่สำคัญมาสด้า3 รุ่นใหม่นี้ยังมีสมรรถนะและมาตรฐานเทียบเท่ารถยุโรปสุดหรู


รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 เจเนอเรชั่นใหม่ จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้มาสด้าในประเทศไทยอีกครั้ง เพราะเป็นยนตรกรรมคุณภาพที่ผู้บริโภครอคอยมากที่สุดในปีนี้ เหตุจากความลงตัวของทุกองค์ประกอบ ทั้งแนวทางการออกแบบรูปโฉมที่สวยงามโดดเด่นสะดุดตา รูปลักษณ์ให้ความรู้สึกสปอร์ตแม้ขณะเคลื่อนไหวหรือขณะจอดนิ่งสงบอยู่กับที่ โฉบเฉี่ยวปราดเปรียว พร้อมความสะดวกภายใน รถมาสด้า3 เจเนอชั่นใหม่ ประกอบอย่างประณีตด้วยวัสดุคุณภาพสูง สิ่งที่ทำให้มาสด้า3 โดดเด่น นอกจากนี้การใช้เทคโนโลยีที่ใช้ในการพัฒนารถสปอร์ต เรียกว่า “เทคโนโลยีไลท์เวท (Lightweight Technology) ลดน้ำหนักส่วนเกินที่ไม่จำเป็นของรถลง แต่ช่วยให้สมรรถนะของรถดีขึ้น การหยุดรถขณะใช้ความเร็วทำได้แม่นยำขึ้น ที่สำคัญช่วยให้รถประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่ารุ่นเดิม 3% มาสด้า3 ใหม่ สามารถลดน้ำหนักส่วนเกินลงถึง 15 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และที่แน่นอนคือ ระบบช่วงล่างอันเลื่องชื่อของมาสด้า ทุกองค์ประกอบ จึงตอบสนองการขับขี่ที่สนุกสนานตามแบบฉบับ “ซูม-ซูม” อย่างแท้จริง ยูกิ กล่าวเพิ่มเติม


สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้า3 นับเป็นรถที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดตั้งแต่เปิดตัวในเจเนอเชั่นแรกจนถึงในปัจจุบันนี้ แนวทางการทำตลาดจะเน้นภาพลักษณ์ของความเป็นรถยนต์สปอร์ตที่ดีที่สุดในตลาดรถกลุ่มซีคาร์เมืองไทย ซึ่งเป็นตลาดหลักของหลายยี่ห้อ และยังมีช่องว่างในการเข้าไปทำตลาดซึ่งยังไม่มีแบรนด์ใดสามารถครองส่วนแบ่งแบบถาวร และถือเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริโภค ทางเลือกที่เป็นรถยนต์จากญี่ปุ่นที่มีคุณภาพเทียบเท่ารถยุโรปสุดหรู ที่ให้สมรรถนะขับขี่ที่ตอบสนองเร้าใจและระบบความปลอดภัยรอบคัน การผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรปในระดับสูงสุด คือระดับ 5 ดาวทั้งอเมริกา ยุโรป รวมถึงออสเตรเลีย ให้ความสนุกสนานกับการขับขี่ด้วยความคล่องตัวทั้งถนนในเมืองและบนไฮเวย์ พิเศษด้วยคุณสมบัติของแรงบิดที่ต่อเนื่องตั้งแต่รอบต่ำจึงตอบสนองได้รวดเร็วฉับไว อันเป็นพื้นฐานของสมรรถนะรถสปอร์ต และเป็นคุณสมบัติที่ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง


รถยนต์นั่งสปอร์ต All New Mazda3 เจเนอเรชั่นใหม่ ได้รับการออกแบบใหม่หมดทั้งภายนอกและภายใน ภายใต้ DNA ของมาสด้า อันประกอบไปด้วย Stylish รูปลักษณ์ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว Insightful ความพิถีพิถันทุกรายละเอียด และ Spirited ขีดสุดแห่งพลังที่สอดคล้องเป็นหนึ่งเดียว เป็นรถยนต์นั่งที่โฉมเฉี่ยวสไตล์ ซูม-ซูม


รวมถึงเครื่องยนต์อันทรงพลัง 2000 ซีซี. ที่ได้รับการปรับแต่งให้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ให้กำลังแรงม้าสูงสุดถึง 147 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที และให้กำลังแรงบิดสูงสุดถึง 182 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะแอคทีฟเมติค 5 สปีด ใหม่ล่าสุดที่พัฒนามาให้มีความนุ่มนวลและต่อเนื่อง มาพร้อมระบบ Paddle Shift ที่สามารถปรับเปลี่ยนเกียร์ได้ตามความต้องการ พร้อมระบบควบคุมเกียร์ AAS (active Adaptive Shift) สามารถควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะโดยอัตโนมัติตามสไตล์ของผู้ขับขี่ให้สัมผัสถึงความเป็นสปอร์ตและควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ


ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบไบซีนอนพร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ไฟท้ายแบบ LED รูปทรงสปอร์ต ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry เปิด-ปิดประตูโดยไม้ต้องใช้กุญแจหรือรีโมท พร้อมระบบ Push Start Button เพียงปลายนิ้วสัมผัส ซันรูฟเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า


ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ระบบการควบคุมการทรงตัว DSC ให้ความมั่นทุกการเข้าโค้ง ล้ออัลลอยด์ลายสปอร์ตเรียบหรูขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางซีรี่ต่ำเช่นเดียวกับรถสปอร์ตชั้นนำ
กลยุทธ์ด้านราคา เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทางมาสด้าพิจารณาในการนำมาสด้า3 เจเนอเรชั่นใหม่ ลงสู่ตลาดด้วยราคาเริ่มต้นเพียงล้านต้นๆ เท่านั้น เมื่อเทียบคุณสมบัติและอุปกรณ์ต่างที่ให้มาแบบเต็มๆ นับว่าเป็นรุ่นหนึ่งในตลาดที่คุ้มค่ามาก โดยเริ่มแรกจะมีด้วยกัน 2 รุ่น คือ รุ่นแฮตช์แบ็ค 5 ประตู และรุ่นซีดาน 4 ประตู มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี

• รุ่น Maxx A/T เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 1,064,000 บาท
• รุ่น Maxx Sports A/T เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 1,064,000 บาท


สุรีทิพย์ กล่าวว่า สำหรับมาสด้า3 เจเนอเรชั่นใหม่ มาสด้าได้กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไว้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นคนที่มีไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะ มีความมั่นใจในตัวเองสูง ไม่ชอบตามใคร มีความเป็นเป็นผู้นำ และประสบความสำเร็จทั้งด้านการหน้าที่การงานและการใช้ชีวิตอย่างอิสระ ซึ่งจะสื่อสารด้วยภาพยนตร์โฆษณาความยาว 45 วินาที โฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ นิตยสาร สื่อป้าย และสื่อออนไลน์ และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว โดยเน้นกระแสจากกรุงเทพฯ เป็นหลัก และในหัวเมืองหลักๆ ในต่างจังหวัด ทั้งนี้มาสด้าได้ทำงานร่วมกับผู้จำหน่ายในแต่ละพื้นที่ เพื่อการลงพื้นที่จัดกิจกรรมการตลาดเพื่อเปิดตัวรถอย่างเต็มที่ทั่วประเทศ


*******************************************************

สารฑูล สักการเวช
sarathun@caronline.net

Facebook Comments