มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 คว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยม ประเทศญี่ปุ่น Japan Car of Year 2015-2016

มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ออกประกาศว่า ออลนิว มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ Japan Car of the Year ประจำปี 2015-2016 มาครองได้สำเร็จ หลังจากที่รถยนต์มาสด้า2 ก็เคยพิชิตรางวัลเดียวกันในเมื่อปี 2014-2015 มาแล้ว ตอกย้ำความสำเร็จของรถยนต์มาสด้าเจนเนอเรชั่นที่ 6 ภายใต้ความโดดเด่นของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ

Mazda MX-5 picture
ออลนิว มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 นับเป็นรถยนต์รุ่นที่ 6 ในบรรดารถยนต์เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดจากมาสด้า ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟและแนวคิดการออกแบบ โคโดะ ดีไซน์ รถสปอร์ตโรดสเตอร์เปิดประทุน 2 ที่นั่ง ที่มีน้ำหนักเบา เอกลักษณ์ด้วยเครื่องยนต์วางกลางและเป็นรถสปอร์ตขับเคลื่อนล้อหลังนี้ ได้รับการพัฒนามาเพื่อส่งมอบความสนุกสนานในการขับขี่ตามแบบ จินบะ-อิตไต อย่างแท้จริง
ในการพัฒนารถยนต์รุ่นมาสด้าเอ็มเอ็กซ์-5เจนเนอเรชั่นใหม่นี้ขึ้นมาใหม่นั้น มาสด้ามุ่งมั่นเพื่อยกระดับประสบการณ์แห่งความสนุกสนานในการขับขี่ให้ได้ทั้งตำแหน่งที่นั่งในการขับอันสมบูรณ์แบบและการลดน้ำหนักของตัวรถลงไปกว่า 100 กก.* ในขณะที่ยังคงความเป็นรถยนต์ที่คำนึงถึงผู้ขับอย่างแท้จริงด้วย ทีมวิศวกรของมาสด้านั้นมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้รถยนต์รุ่นนี้เหมาะสมกับการขับขี่ในชีวิตประจำวันด้วยการปรับใช้หลังคาผ้าใบที่ทนต่อทุกสภาวะของภูมิอากาศ สามารถ เปิด-ปิด ได้อย่างง่ายดาย และยังเหลือพื้นเพียงพอในการบรรจุกระเป๋าสัมภาระได้อีกถึง 2 ใบ

Japan Car of the Year logo
สำหรับเกณฑ์ในการคัดเลือกรถยนต์ที่มีสิทธิที่จะได้รับรางวัล Japan Car of the Year ก็คือ จะต้องเป็นรถยนต์ที่ตั้งเป้าการขายไม่ต่ำกว่า 500 คันต่อปี และมีการเปิดตัวหรือแถลงข่าวในประเทศญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2557- 31 ตุลาคม 2558 โดย ออลนิว มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 รุ่นนี้ นับเป็นรถยนต์มาสด้าเจนเอนเรชั่นที่ 6 ที่สามารถคว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้มาครองได้สำเร็จ Japan Car of the Year หลังจากที่รถยนต์นั่งมาสด้า2 ก็สามารถคว้ารางวัลเดียวกันนี้เมื่อปีที่ผ่านมา

Mazda MX-5 picture
ทางด้าน มร. มาซามิชิ โคไก ประธานและซีอีโอของมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “นี่คือผลงานอันยอดเยี่ยมจากพลังสนับสนุนและความกระตือรือร้นของทุกคน พวกเรารู้สึกซาบซึ้งและภูมิใจอย่างยิ่งที่รถสปอร์ตโรดสเตอร์ของเราได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวมาสด้าทุกคนมุ่งมั่นสร้างสรรค์รถยนต์ที่เปี่ยมด้วยความสนุกสนานในการขับขี่ และมุ่งมั่นที่จะเป็นแบรนด์หนึ่งเดียวที่ลูกค้าจะเลือกใช้ตราบนานเท่านาน”

Facebook Comments