บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด เผยความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจปี 2560 ที่ผ่านมา มั่นใจปี 2561 ตลาดรถยนต์กลับมาคึกคัก เนื่องจากปัจจัยบวกหลายด้าน ทั้งนี้เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อีก 4 รุ่น พร้อมสีใหม่โดนใจ Soul Red Crystal ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากการเปิดตัว ALL-NEW MAZDA CX-5 สำหรับรถมาสด้า2 และมาสด้า3 พร้อมใส่เทคโนโลยีใหม่สุดล้ำ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ไม่เหมือนใครควบคู่ไปกับตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากที่สุด เน้นกลยุทธ์การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว พร้อมมุ่งหน้าขยายโชว์รูมและศูนย์บริการทั้งหมดทั่วประเทศภายใต้รูปลักษณ์และแนวคิดใหม่ภายในต้นปี 2019 เน้นพัฒนาบริการหลังการขาย มั่นใจปีนี้ตั้งเป้ายอดขายมากกว่า 60,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 15%
มาสด้ายังเดินหน้าต่อกับกิจกรรมส่งเสริมด้านการตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งกับลูกค้าและการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ เพื่อเสนอทางเลือกที่มากขึ้นให้แก่ลูกค้า หลังจากได้รับเสียงตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของการออกแบบอันสง่างาม เพิ่มความหรูหราพรีเมียมสไตล์ยุโรป โดยเฉพาะเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่ลูกค้าสามารถสัมผัสได้จริงถึงสมรรถนะอันยอดเยี่ยมและการประหยัดน้ำมัน ประกอบกับเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่อัดแน่นเต็มคัน ส่งผลให้มียอดขายสูงกว่า 51,355 คัน ในปีผ่านมา เติบโต 21% โดยเฉพาะยอดขายเดือนธันวาคมที่ผ่านมาทำสถิติใหม่เติบโตสูงสุดในตลาดถึง 39% ด้วยยอดขายสูงสุด 6,257 คัน
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวและปรับตัวดีขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับตัวดีของฐานรายได้จากการส่งออก การลงทุนภาครัฐที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวในเกณฑ์สูงและเร่งขึ้น, การปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติของการผลิตในภาคเกษตรและการฟื้นตัวของรายได้เกษตรกร รายได้ในภาคการท่องเที่ยวที่ยังมีแนวโน้มเร่งขึ้นรวมถึงการปรับตัวดีขึ้นของตลาดรถยนต์ในประเทศ โดยเมื่อปีที่แล้ว ผู้เชี่ยวชาญต่างคาดการณ์ยอดขายอุตสาหกรรมรถยนต์ไว้เกิน 800,000 คัน และขยับมาที่ 840,000 คัน แต่สามารถขายได้จริงประมาณการณ์อยู่ที่ 870,000 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้สูงถึง 13% เปรียบเทียบกับตัวเลขยอดรวมเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 768,788 คัน สำหรับมาสด้ามียอดขายเติบโตสูงถึง 51,355 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 21% และสามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 5.9% โดยยอดขายในแต่ละรุ่นประจำปี 2560 มีดังนี้
All New Mazda2 จำนวน 31,760 คัน เพิ่มขึ้น 37%
All New Mazda3 จำนวน 4,979 คัน เพิ่มขึ้น 21%
All New Mazda CX-5 จำนวน 4,835 คัน เพิ่มขึ้น 46%
All New Mazda CX-3 จำนวน 3,812 คัน ลดลง 20%
New Mazda BT-50 PRO จำนวน 5,939 คัน ลดลง 16%
Mazda MX-5 จำนวน 30 คัน ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า มาสด้าประเมินสถานการณ์ตลาดรถยนต์ของประเทศไทยในปี 2561 ว่ามีแนวโน้มและทิศทางที่สดใส จะเห็นได้จากงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปที่ผ่านมา แต่ละค่ายมียอดจองที่เพิ่มขึ้น และส่วนใหญ่เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ รวมถึงในส่วนของมาสด้าเอง ซึ่งยอดจองที่สูงขึ้นนั้นได้แสดงให้เห็นถึงปัจจัยบวกหลายๆ ด้านที่เกิดขึ้นในประเทศ เช่น เศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับคืนมา ถึงแม้ว่าในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ในไทยจะมีความผันผวน โดยเฉพาะจากการที่รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการรถคันแรกเมื่อปี 2554-2555 ซึ่งกำลังจะทยอยพ้นกำหนดห้ามซื้อขาย ตามเงื่อนไขของโครงการฯ ตั้งแต่ปลายปี 2559 เป็นต้นมา ซึ่งมีผลส่งให้ในช่วงปี 2560-2562 เกิดความต้องการซื้อรถยนต์ใหม่ รวมไปถึงการที่ค่ายรถแต่ละค่ายต่างเริ่มทยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ตลงสู่ตลาด ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ในประเทศได้ส่วนหนึ่ง
พร้อมกันนี้ นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ยังได้กล่าวถึงแผนการพัฒนาธุรกิจของมาสด้าในปี 2561 โดยคาดว่ายอดขายรวมของตลาดรถยนต์จะเพิ่มขึ้นประมาณ 5% หรือมากกว่า 920,000 คัน สำหรับมาสด้ามองว่ายอดขายปีนี้จะเพิ่มสูงกว่า 60,000 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 15% ครองส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 6% โดยปีนี้จะเน้นการบริการทั้งก่อนและหลังการขายด้วยการเสริมศักยภาพของทีมงาน รวมถึงการแนะนำรถใหม่เข้าสู่ตลาดอีก 4 รุ่น ควบคู่ไปกับกลยุทธ์การสื่อสารที่ฝ่ายการตลาดได้เพิ่มช่องทางการสื่อสารเพื่อสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น
ทางด้าน นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ปีนี้เราจะเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว โดยเริ่มจากพัฒนาโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐาน ภายใต้รูปลักษณ์และคอนเซ็ปต์ใหม่ของมาสด้า หรือ Mazda Corporate Identity ซึ่งเป็นรูปแบบโชว์รูมที่มาสด้าได้มีการปรับปรุงภาพลักษณ์รูปแบบใหม่ เพื่อยกระดับแบรนด์และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในโชว์รูม รวมไปถึงการเพิ่มช่องทางการสื่อสารให้ลูกค้ากับมาสด้าใกล้ชิดกันมากขึ้น ด้วยรูปแบบการสื่อสารทางออนไลน์ ซึ่งมาสด้าได้ทำอย่างครอบคลุมหรือที่เรียกว่า Mazda Digital Platform ผ่านทางเว็บไซต์ www.mazda.co.th, Mobile site, Mazda Thailand Official Facebook, YouTube, LINE และ Instagram ที่จะรวมเอาข้อมูลของแบรนด์มาสด้าสำหรับผู้ที่สนใจและกลุ่มผู้ใช้รถมาสด้าสามารถเข้าไปดูรายละเอียดต่างๆ ได้
สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นวิธีการหนึ่งในการสร้างแบรนด์มาสด้าให้เกิดความแข็งแกร่งและยั่งยืน นอกจากนี้มาสด้ายังเป็นค่ายรถยนต์เพียงค่ายเดียวที่เข้าร่วมและสนับสนุนโครงการ “ก้าวคนละก้าว” เพื่อระดมทุนซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ นำโดยคุณอาทิวราห์ คงมาลัย หรือคุณตูน บอดี้สแลม ซึ่งทำการระดมทุนด้วยการวิ่งระยะไกลจากใต้สุดไปยังเหนือสุดของประเทศไทย โดยมาสด้าได้สนับสนุนรถมาสด้าจำนวนทั้งสิ้น 6 คันร่วมไปกับการวิ่งในครั้งนี้ และหนึ่งในนั้นคือรถยนต์ขนาดเล็กอย่างมาสด้า2 เครื่องยนต์คลีนดีเซล สกายแอคทีฟ ที่ถูกใช้เป็นรถเพื่อติดตั้งนาฬิกาจับเวลาลงบันทึกใน Guinness World Record นอกจากนี้โชว์รูมมาสด้าสินธานีที่จังหวัดเชียงราย ยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในจุดแวะพักของคุณตูนและทีมงานก้าวคนละก้าวก่อนที่จะมีการวิ่งต่อไปยังอำเภอแม่สาย ซึ่งเป็นเส้นชัยของการวิ่งที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดีเมื่อปีที่แล้ว มาสด้าได้เปิดประสบการณ์กับการเดินทางที่ไม่เคยมีใครกล้าทำมาก่อนโดยการนำสื่อมวลชนร่วมเดินทางเชื่อมโยงกลุ่มภูมิภาคอาเซียน ด้วยระยะทางกว่า 2,900 กิโลเมตร รวมถึงการเดินทางไปยังดินแดนที่ท้าทายอย่างไซบีเรียและรัสเซีย ด้วยระยะทางกว่า 6,500 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ให้แก่วงการรถยนต์ และยังเป็นการพิสูจน์สมรรถนะของรถมาสด้าที่ผลิตจากประเทศไทยและมาพร้อมเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ทั้งนี้เพื่อสานต่อการเดินทางที่ท้าทายนี้ มาสด้าเตรียมแผนงานเพื่อจะไปพิชิตเส้นทางในอีกหลายภูมิภาคต่อไปในอนาคต
ในขณะที่ นายอัสสึชิ ยาซูโมโต รองประธานบริหาร กล่าวถึงบทบาทของมาสด้าประเทศไทยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อมาสด้าว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความน่าสนใจประเทศหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมหลายประเภทรวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ ทั้งนี้ประเทศไทยมีศักยภาพทั้งในเรื่องของแรงงานและทำเลที่ตั้ง ซึ่งเหมาะแก่การลงทุนในระยะยาว นอกจากนี้ประเทศไทยยังเป็นตลาดหลักตลาดหนึ่งของมาสด้าในด้านยอดขายที่สูงเป็นอันดับที่ 1 ในภูมิภาคอาเซียน สูงสุดติดกันมากกว่า 10 ปี
การผลิตสำคัญๆ ที่จากเดิมผลิตในประเทศญี่ปุ่นและส่งออกมายังประเทศฐานการผลิตต่างๆ ขณะนี้ได้ถูกถ่ายทอดมายังประเทศไทยเป็นลำดับ ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นฐานการผลิตรถยนต์ครบวงจรแห่งแรกของมาสด้านอกจากในประเทศญี่ปุ่นเอง โดยในประเทศไทยสามารถผลิตทั้งเครื่องยนต์ เกียร์ รวมถึงการประกอบรถยนต์ ได้แก่ มาสด้า2, มาสด้า3, CX-3 และ มาสด้า BT-50 โปร ที่โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ จังหวัดระยอง และยังได้เพิ่มส่วนของการผลิตที่โรงงานมาสด้า พาวเวอร์เทรน แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย (MPMT) โดยจะเพิ่มการผลิตไปในส่วนของการผลิต เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง ซึ่งสื่อมวลชนจะได้ไปสัมผัสไลน์การผลิตแห่งใหม่ในวันที่ 19 มกราคมนี้
และทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้คือยุทธศาสตร์ที่จะขับเคลื่อนของมาสด้าที่จะเกิดขึ้นในปี 2561 เพื่อต่อยอดความสำเร็จและความมุ่งมั่นที่จะเป็นแบรนด์หนึ่งเดียวที่ลูกค้าให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจอย่างยั่งยืน
Mazda Sales (Thailand) Co. Ltd. has revealed its successful business performance for 2017, and is confident that the Thai automobile market will return to an active state in 2018 due to several positive factors. Mazda is preparing to introduce 4 new models featuring the new Soul Red Crystal color that has been highly popular since the launch of the all-new Mazda CX-5. Meanwhile, the Mazda2 and Mazda3 will come with innovative technologies to help them maintain class-leading status and customer attraction.
Mazda will concentrate on establishing a long-term relationship with customers, as well as expanding its nationwide showroom and service center network under the new corporate identity within early 2019. Mazda is confident that it can achieve combined sales of more than 60,000 units in 2018, an increase of 15% over 2017.
Mazda is continuing its marketing drive activities, both with customers and in introducing new products and increasing choices for customers. Positive customer response comes for breathtaking design with premium European touch, particularly the SKYACTIV technology that customers can experience in terms of outstanding performance and excellent fuel economy, not to mention the comprehensive safety package. These outstanding qualities have enabled Mazda to achieve total sales of 51,355 vehicles in 2017, with new record growth of 39% in December from sales of 6,257 units.
Mr. Chanchai Trakarnudomsuk, President of Mazda Sales (Thailand) Co. Ltd., said the Thai economy showed signs of growth and recovery since the start of 2017. Contributing factors include favorable exports, growth in government investments, returning to normal situation for the agricultural sector and recovery of farmers, growth in tourism as well as recovery in the automobile market.
“Last year experts predicted auto sales of over 800,000 units and later raised it to 840,000 units. But actually an estimated 870,000 vehicles were sold last year, an increase of 13% compared to the 768,788 vehicles sold in 2017,” he said. “Mazda, on the other hand, achieved sales of 51,355 units, equivalent to a growth of 21% and a market share of 5.9%. The sales breakdown of each model are as follows.
Mr. Chanchai added that Mazda sees a bright direction for the Thai automobile market in 2018. “At the recent Motor Expo, each auto company enjoyed increased orders and most over-achieved their targets, including Mazda. The sales growth reflected the large number of positive factors taking place in the country such as economic recovery and return of consumer confidence,” he said. “Although during the past 5 years the Thai automobile industry went through several fluctuations, such as the government’s First Car Buyer scheme from 2011-2012 that is seeing the no-sale requirement maturing since 2016 onwards. This will generate additional demand for new vehicles from 2017-2019, and with the large number of new models expected to be introduced by automakers, the market will be stimulated further.”
In addition, Mr. Chanchai also revealed Mazda’s business development plan for 2018, noting that the total automobile market should grow by 5% or reach 920,000 units. “Mazda hopes to sell more than 60,000 vehicles this year, equivalent to a growth of 15% and a market share of 6%. This year we will concentrate on both pre- and after-sales by raising the potential of the staff as well as introduce 4 more new models into the market and increasing marketing channels and reaching more customers,” Mr. Chanchai said.
Meanwhile, Senior Marketing Director Mr. Thee Permpongpanth added: “This year we will concentrate on establishing a long-term relationship with customers, starting from developing the showroom and service center under the new Mazda Corporate Identity (MCI). MCI is a new corporate identity that raise the brand further and creates a good experience for the customer since the first step into the showroom. We also want to increase communication channels to get closer to customers, such as through the Mazda Digital Platform including website www.mazda.co.th and mobile site, plus Mazda Thailand Official Facebook, YouTube, LINE and Instagram accounts. They have all the information about the Mazda brand and are open to all who are interested.”
These are the things that help strengthen the Mazda brand, which also happens to be the only automobile brand to participate in and support the world-famous “Kao Kon La Kao” charity run to raise funds for purchasing medical equipment to 11 hospitals countrywide, led by singer Artiwara Kongmalai or “Toon Bodyslam”. Mr. Artiwara recently raised over a billion Baht by running from the southernmost province in Thailand to the northernmost.
“Mazda offered 6 vehicles to support the charity run, and one of them is a subcompact like the Mazda2 SKYACTIV Clean Diesel engine in which the Guinness Book of World Records stopwatch was equipped in. In addition, Mazda Sinthani in Chiang Rai was also chosen as one of the stops for Artwara’s contingent before reaching the final destination in Mae Sai district, Chiang Rai province,” Mr. Thee said.
A year earlier, Mazda also took part in an unprecedented event by taking Thai motoring journalists in a 2,9000kms, caravan in ASEAN Economic Community or AEC as well as to Siberia and Russia where they covered a grueling distance of 6,500kms, writing a new chapter in Thai automotive history. In addition, the outstanding performance of Mazda vehicles with SKYACTIV technology were also put to the test, prompting more regional driving events to follow in the future.
Mr. Atsushi Yasumoto, Vice President of Mazda Sales (Thailand) Co. Ltd., said Thailand has great importance to Mazda. “Thailand is a highly interesting country in ASEAN as it is the center for many industries including the Thai automobile industry. Thailand has high potential whether in terms of skilled labor or location, which makes it a favorable place for investment. In addition Thailand is also one of the major markets for Mazda, being the No.1 market for us is ASEAN more than 10 years.
He added that production of several important models have been relocated from Japan to other production bases including Thailand, which is the first integrated Mazda production center outside of Japan. Thailand is capable of producing engines and transmissions apart from carrying out assembly of the Mazda2, Mazda3, Mazda CX-3 and Mazda BT-50 PRO at the AutoAlliance Thailand plant in Rayong. Mazda is also raising production at the Mazda Powertrain Manufacturing Thailand (MPMT) plant for SKYACTIV engines and transmissions. The media will be invited to visit the facility on January 19.
All these are the strategy that will help drive the Mazda brand in 2018, carrying over the success and the determination to become the only brand that customers trust and rely upon.
Mazda is also preparing to stimulate the Thai auto market further during the last quarter of this year. For more information click www.mazda.co.th and Mazda Thailand official Facebook/YouTube/Instagram/LINE accounts.